รายละเอียดการนำเสนอผลงานนวัตกรรม
1. ความสำคัญของนวัตกรรม
1.1 ที่มาและความสำคัญของนวัตกรรม
จากการประชุมครูและบุคลากรทางการศึกษา ในการจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาและแผนปฏิบัติการโรงเรียน ประจำปีการศึกษา 2566 โดยให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกคนมีส่วนร่วมใน การดำเนินงาน โดยใช้ข้อมูลสรุปผลการดำเนินงานโครงการ/กิจกรรม ปีการศึกษา 2565 ปัญหาด้าน การเปลี่ยนแปลงบุคลากร และสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ร่วมกันวิเคราะห์ และอภิปราย พบว่า โรงเรียนบ้านเนินตองมีการดำเนินงานทั้ง 4 ฝ่ายยังไม่เป็นระบบเท่าที่ควร จัดคนไม่เหมาะสมกับงาน ขาดการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำงานเพื่อให้เกิดความคล่องตัว
ดังนั้น เพื่อให้เกิดการพัฒนางานทั้ง 4 ฝ่ายให้เป็นระบบมากขึ้น จึงได้ร่วมกันกำหนดรูปแบบการบริหารสถานศึกษาด้วยกระบวนการ UDOMSUK MODEL เพื่อพัฒนาโรงเรียนบ้านเนินตอง โดยใช้ทฤษฎีการบริหารวงจรคุณภาพเดมมิ่ง (PDCA) ในการขับเคลื่อนพัฒนางานของโรงเรียนทั้ง 4 ฝ่าย เพื่อให้ทุกคนมีเป้าหมายที่ชัดเจนและมีทิศทางการทำงานเป็นไปในแนวทางเดียวกัน โดยได้กำหนดวิสัยทัศน์ (Vision) พันธกิจ (Mission) เป้าประสงค์ (Goal) และนโยบายของโรงเรียนบ้านเนินตอง ปีการศึกษา 2566 ดังนี้
วิสัยทัศน์ (Vision)
คุณธรรมนำความรู้ เคียงคู่สิ่งแวดล้อม น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
พันธกิจ (Mission)
1. พัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดีมีคุณธรรม มีความรู้ มีทักษะทางวิชาการ ทักษะชีวิต ทักษะอาชีพ และเทคโนโลยี ตามสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21
2. ส่งเสริมการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม
3. ส่งเสริมให้ผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษานำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาบูรณาการในการจัดการเรียนการสอนและการใช้ชีวิต
4. พัฒนาแหล่งเรียนรู้ภายในและจัดสภาพแวดล้อม
5. พัฒนาระบบบริหารจัดการแบบบูรณาการโดยเน้นให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
ขั้นตอนการบริหารงานตามวงจรคุณภาพ
1. PLAN เป็นการวางแผนงาน ขั้นตอนนี้เราต้องนำงานทั้งหมดที่เรารับผิดชอบอยู่ มาจัดเรียงลำดับความสำคัญ กำหนดวัตถุประสงค์ของงาน และเป้าหมายในการทำงาน ซึ่งควรจะจัดเตรียมเป็นเอกสารไว้ มีวิธีการและขั้นตอนการทำงาน ซึ่งอาจจะจัดทำเป็นเอกสารขั้นตอนและวิธีการทำงานเอาไว้ อาจจะมีระยะเวลาที่ใช้ในการทำงาน ผู้รับผิดชอบ ผู้ตรวจสอบ ถ้าการทำงานนั้นมีผู้ร่วมทำงานหลายคน แต่ในกรณีที่เราเตรียมแผนงานของตนเองส่วนตัวไว้สำหรับการทำงานและพัฒนางานของตนเองก็จำเป็นต้องมีการวางแผนด้วย ซึ่งควรจะมีเอกสารกำกับ หรืออาจจะใช้สมุดบันทึก ไดอารี่ ฯลฯ ที่จำเป็นในการวางแผนการทำงาน มีการจัดลำดับความสำคัญของงาน งานใดควรทำก่อน งานใดควรทำหลัง และควรมีแผนสำรองสำหรับงานที่เข้ามาแทรกตาม ที่ได้วางแผนไว้ว่าจะจัดการอย่างไร เพื่อให้การทำงานไม่ติดขัด และทันต่อเวลา รวมไปถึงงานที่ได้มีคุณภาพตามเวลาที่กำหนดด้วย
2. DO เป็นการทำงานตามแผนงานที่ได้วางไว้ ขั้นตอน วิธีการ ลำดับงานที่เรากำหนดไว้ใน PLAN ก็นำมาปฏิบัติ โดยทำการศึกษาถึงวิธีการที่ดีที่สุดในการทำงานนั้นๆ เอามาใช้ให้เกิดประโยชน์ และทำงานได้ผลดีที่สุด หรืออาจจะมีการอบรมงานเหล่านั้นเพื่อความเข้าใจในการปฏิบัติแล้วลงมือปฏิบัติตามขั้นตอนและวิธีการทำงานที่ได้วางแผนไว้ ในระหว่างการทำงานควรจะมีเก็บข้อมูลที่จำเป็น ที่สำคัญต่างๆ เอาไว้ เพื่อประโยชน์ ในการทำงานครั้งต่อไปด้วย หรือเพื่อจดบันทึกที่เป็นข้อบกพร่องของงานเอาไว้ เพื่อนำไปแก้ไข ปรับปรุง การทำงานในครั้งต่อไป
3. CHECK ตรวจสอบการทำงานที่ได้ทำไปแล้ว (จาก DO) ว่าเป็นไปตามที่เราต้องการหรือไม่ หรือตามมาตรฐานที่เราได้กำหนดไว้ อาจจะใช้เครื่องมือช่วยในการตรวจสอบ เช่น เครื่องมือต่างๆ ผลการทำงานเมื่อเทียบกับงานครั้งก่อน เป็นต้น ในการตรวจสอบโดยทั่วไปได้แก่ ระยะเวลาตามเป้าหมาย คุณภาพของงานที่ออกมา วิธีการหรือขั้นตอนการทำงาน ซึ่งการตรวจสอบการทำงานควรจะมีการจดบันทึกในรูปแบบต่างๆ ไว้ เช่น สมุดบันทึก เอกสารการตรวจสอบ คอมพิวเตอร์ เป็นต้น เพื่อให้ง่ายในการปรับปรุง และแก้ไขในการทำงานครั้งต่อไป
4. ACTION หากมีข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นจากการตรวจสอบ CHECK ก็ควรจะหาวิธีการและขั้นตอนในการแก้ไขทันที หรือตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ โดยทำการค้นหาสาเหตุที่เกิดขึ้น และใช้วิธีการแก้ไขที่ดีที่สุดในการทำการแก้ไข เพื่อไม่ให้ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่เกิดขึ้นซ้ำอีก และควรมีวิธีการพัฒนาปรับปรุงงาน หรือระบบงานนั้น ถึงแม้ว่าการตรวจสอบจะไม่เกิดข้อบกพร่องเราก็ควรจะมีวิธีการพัฒนาปรับปรุงอยู่เสมอ เพื่อให้งานนั้นเกิดประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิม