บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน 2) เพื่อสร้างรูปแบบ 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบ และ 4) เพื่อประเมินรูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบมีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนบ้านบุญนาค สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 4 ดำเนินการวิจัย
ตามขั้นตอนการวิจัยและพัฒนา (Research and development) ซึ่งแบ่งเป็น 4 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบจากการวิเคราะห์และสังเคราะห์แนวคิด ทฤษฎี เอกสาร และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง การสำรวจสภาพและความต้องการการได้รับการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกครู 19 คน และการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ 9 คน ขั้นตอนที่ 2 การสร้างรูปแบบและตรวจสอบความเหมาะสมของรูปแบบโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 5 คน ขั้นตอนที่ 3 การศึกษาผลการใช้รูปแบบโดยการนำไปปฏิบัติจรงในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 ขั้นตอนที่ 4 การประเมินรูปแบบโดยครูโรงเรียนบ้านบุญนาค 19 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แบบวิเคราะห์เอกสาร แบบสำรวจ แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง แบบตรวจสอบ แบบประเมิน และแบบสะท้อนผลการใช้รูปแบบ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยน ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์เนื้อหา สรุปข้อมูล จัดเรียงตามลำดับความถี่ และการทดสอบค่าที
ผลการวิจัยพบว่า
1. รูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบมีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนบ้านบุญนาค สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 4 พบว่า รูปแบบมีองค์ประกอบสำคัญ 7 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการของรูปแบบ 2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ
3) ขอบข่ายการบริหารงานวิชาการด้านการจัดการเรียนการสอน 4) กระบวนการบริหารงานวิชาการแบบมีส่วนร่วม 5) การมีส่วนร่วมในการบริหารงานวิชาการ 6) การประเมินผล 7) ปัจจัยความสำเร็จ
2. รูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบมีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนบ้านบุญนาค สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 4 โดยรวมมีความเหมาะสมมากที่สุด โดย 1) หลักการของรูปแบบ ได้แก่ หลักการมีส่วนร่วม หลักการพัฒนาคุณภาพ หลักการกระจายอำนาจ 2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ เพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนบ้านบุญนาค ได้แก่ ความสามารถในการออกแบบและเขียนแผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ความสามารถในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุก ความสามารถในการประเมินผลการเรียนรู้เชิงรุก
3) ขอบข่ายการบริหารงานวิชาการด้านการจัดการเรียนการสอน ได้แก่ การออกแบบและเขียนแผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุก การประเมินผลการเรียนรู้เชิงรุก 4) กระบวนการบริหารงานวิชาการแบบมีส่วนร่วมที่นำมาใช้สำหรับส่งเสริมความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนบ้านบุญนาค มี 7 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 ร่วมศึกษาข้อมูลพื้นฐานและระดมความคิด ขั้นที่ 2 ร่วมวางแผนปฏิบัติงาน ขั้นที่ 3 ร่วมจัดองค์การ ขั้นที่ 4 ร่วมลงมือปฏิบัติ ขั้นที่ 5 ร่วมติดตามและประเมินผล ขั้นที่ 6 ร่วมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพื่อพัฒนา ขั้นที่ 7 ร่วมเผยแพร่และต่อยอดความรู้ 5) การมีส่วนร่วมในการบริหารงานวิชาการ ผู้บริหาร ครู ผู้เชี่ยวชาญภายนอกได้เข้ามามีส่วนร่วมส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูในประเด็นการออกแบบและเขียนแผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุก และประเมินการจัดการเรียนรู้เชิงรุก 6) การประเมินผล คือ การประเมินความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนบ้านบุญนาค ได้แก่ ความสามารถในการออกแบบและเขียนแผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ความสามารถในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุก ความสามารถในการประเมินผลการเรียนรู้เชิงรุก และ 7) ปัจจัยความสำเร็จ ได้แก่ การมีวิสัยทัศน์และความเป็นผู้นำทางวิชาการของผู้บริหาร การสร้างแรงจูงใจในการพัฒนาวิชาชีพ การส่งเสริมบรรยากาศทางวิชาการของโรงเรียน การใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพผ่านกระบวนการนิเทศอย่างมีระบบ และการพัฒนาเครือข่ายการมีส่วนร่วมในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก และคู่มือการใช้รูปแบบโดยรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด
3. ผลการศึกษาผลการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบมีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนบ้านบุญนาค สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เชียงราย เขต 4 พบว่า ครูโรงเรียนบ้านบุญนาคมีสามารถในการออกแบบและเขียนแผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุกโดยรวมอยู่ในระดับดีเยี่ยม มีสามารถในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกโดยรวมอยู่ในระดับดี และมีสามารถในการประเมินผลการเรียนรู้เชิงรุกโดยรวมอยู่ในระดับดีเยี่ยม
4. ผลการประเมินรูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบมีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนบ้านบุญนาค สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 4 พบว่า ครูโรงเรียนบ้านบุญนาคมีความคิดเห็นต่อรูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบมีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนบ้านบุญนาค สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 4 ด้านความเป็นประโยชน์ ความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และความถูกต้อง โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด