ชื่อเรื่อง ผลการเรียนรู้แบบกระบวนการกลุ่มเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาสังคมศึกษาฯ
ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนหนองแซงวิทยา
ชื่อผู้วิจัย นางสิริกร แสงศิลป์
ปีการศึกษา 2566
ความสำคัญของการวิจัย
จากปัญหาผลสัมฤทธิ์ในการเรียนวิชา สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ระดับชั้น ม.4
บางห้องยังอยู่ในระดับไม่เป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากมีปัจจัยหลายประการที่กระทบการเรียนการสอน
และวิธีการแก้ปัญหาดังกล่าว ควรได้รับการแก้ไขด้วยวิธีการกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม
ในชั้นเรียน ซึ่งเน้นการฝึกปฏิบัติด้วยกระบวนการกลุ่ม และใบงานประกอบการเรียนรู้ คาดว่า
ประโยชน์ที่จะได้รับคือ
1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีค่าระดับคะแนนเฉลี่ย
ในห้องเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 และค่าคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าเกรด 3
2. นักเรียนในกลุ่มที่ทำการวิจัยมีปฏิสัมพันธ์เพื่อช่วยกันฝึกปฏิบัติในชั้นเรียนก่อให้เกิดทักษะ
ในการวิเคราะห์และวางแผนตัดสินใจ
3. นักเรียนมีความสนใจในการเรียนเพิ่มมากขึ้น
ความเป็นมาของปัญหา
ปัจจุบันการดำเนินชีวิตมีความยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ของสังคมและเทคโนโลยี ทำให้แต่ละบุคคลต้องเผชิญปัญหามากมายที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงและการ
ปรับตัวในการจัดการเรียนการสอนต้องอยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้
และถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุดในด้านการเรียนรู้ การเรียนรู้แบบร่วมมือ คือ การเรียนรู้เป็นกลุ่มย่อย
โดยมีสมาชิกกลุ่มที่มีความสามารถแตกต่างกันประมาณ 3-6 คน ช่วยกันเรียนรู้ เพื่อไปสู่เป้าหมายของ
กลุ่ม และยังส่งผลให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ รวมทั้งได้เรียนรู้ทักษะทางสังคมและการทำงานร่วมกันกับผู้อื่น
ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งในดำรงชีวิต สำหรับทางด้านการเรียนรู้วิชาสังคมศึกษาฯ ต้องการให้ผู้เรียน
เกิดทักษะการเรียนรู้และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เสริมสร้างให้ผู้เรียนมีระเบียบวินัย และความ
รับผิดชอบในการทำงานเพิ่มสูงขึ้น
ด้วยเหตุนี้เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าวข้างต้น ข้าพเจ้าจึงได้มีการทำวิจัยในชั้นเรียน เพื่อมุ่งเน้น
ให้นักเรียน ได้มีการพัฒนาการเรียนรู้ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้และกระบวนการกลุ่มมีส่วนร่วมในชั้นเรียน
ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลสัมฤทธิ์ต่อการเรียนเน้นการปฏิบัติด้วยกระบวนการกลุ่ม และใบงานประกอบการเรียนรู้
เปิดโอกาสให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้ ในด้านเนื้อหาและทักษะทางการปฏิบัติงาน ผู้วิจัย
เห็นถึงปัญหาและประโยชน์ในอนาคตทางการศึกษาจึงได้ทำวิจัยเรื่องนี้เพื่อประโยชน์สำหรับการศึกษาต่อไป
วัตถุประสงค์
1. เพื่อศึกษาการเรียนการสอนวิชาสังคมศึกษาฯ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที 4 ภาคเรียนที่ 1
ปีการศึกษา 2566 โดยวิธีกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมชั้นเรียน ซึ่งเน้นในการฝึกปฏิบัติ
ด้วยกระบวนการกลุ่มและใบงานประกอบการเรียนรู้ภายในชั้นเรียน
ขอบเขตการวิจัย
1.กลุ่มประชากร คือ นักเรียนโรงเรียนหนองแซงวิทยา ชั้นมัธยมศึกษาปี่ 4 ภาคเรียนที่ 1
ปีการศึกษา 2566 จำนวน 2 ห้อง นักเรียน 89 คน
2. ตัวแปรที่ต้องศึกษา
- ตัวแปรต้น วิธีการเรียนการสอนโดยวิธีกระบวนการมีส่วนในชั้นเรียน ซึ่งเน้นการฝึก
ปฏิบัติด้วยกระบวนการกลุ่มและใบงานประกอบการเรียนรู้ภายในชั้นเรียน
- ตัวแปรตาม ผลสัมฤทธิ์ของการเรียนในรายวิชาสังคมศึกษาฯ โดยเฉลี่ยร้อยละ 80
ของจำนวนนักเรียนมีระดับคะแนนสูงกว่า เกรด 3
นิยามศัพท์
1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง คะแนนที่นักเรียนทำได้จากแบบทดสอบก่อนและหลักงเรียน
ประจำหน่วยการเรียนรู้ แบบทดสอบกลางภาคและแบบทดสอบปลายภาค
2. วิธีสอนแบบกระบวนการกลุ่ม หมายถึง การสอนโดยจัดกิจกรรมการเรียนการอสนเป็นระบบ
กลุ่ม มีผู้นำ ผู้ตาม แบ่งหน้าที่กันตามความเหมาะสม มีการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ทำให้งานที่มอบหมาย
สำเร็จลงได้
3. ผู้นำ คือ ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นผู้นำกลุ่ม ให้สามารถทำงานจนบรรลุเป้าหมายของกลุ่มได้
4. สมาชิกกลุ่ม หมายถึงสมาชิกกลุ่มที่ดีนั้น จำเป็นต้องมีความรู้ ความเข้าในในบทบาทหน้าที่
ของตน โดยรู้ว่าตนควรจะทำอย่างไร ที่จะช่วยเอื้ออำนวยให้การทำงานเป็นทีมบรรลุผลสำเร็จ
5. กระบวนการทำงาน หมายถึง วิธีกลุ่มที่ใช้ในการทำงาน ผลงานของกลุ่มจะออกมาดี
มากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับวิธีการและขั้นตอนที่กลุ่มใช้ในการทำงานด้วย หากกลุ่มใช้วิธีการทำงาน
ที่เหมาะสมกับลักษณะงานและลักษณะกลุ่มแล้ว ผลงานก็มักจะมี่คุณภาพตามไปด้วย
วิธีดำเนินการวิจัย
1. เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ ใบงานประกอบการเรียนรู้
2. เก็บรวบรวมข้อมูล เก็บคะแนนก่อน และหลังเรียนประจำหน่วยการเรียนรู้ แบบทดสอบ
กลางภาคและปลายภาค
3. วิเคราะห์ข้อมูล
4. รายงานผล
การวิเคราะห์ข้อมูล
นำผลการประเมินความรู้ ความเข้าใจเนื้อหาแต่ละหน่วยการเรียนรู้ คะแนนจากการทำแบบ
ทดสอบกลางภาคและปลายภาค ในรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม โดยใช้กระบวนการกลุ่ม
โดยใช้สถิติร้อยละและค่าเฉลี่ย ผลดังต่อไปนี้
ตารางที่ 1 แสดงค่าความถี่และค่าร้อยละเกรดสูงกว่าเกรด 3 และห้องเรียน
รายวิชา จำนวนนักเรียนตามระดับผลการเรียน (คน) จำนวนนักเรียน
ที่ได้เกรด3ขึ้นไป ร้อยละ
4 3.5 3 2.5 2 1.5 1 0 ร มส.
ม.4/1 - 3 3 10 10 10 3 0 4 0 6 13.33
ม.4/2 33 6 2 4 1 - - 0 1 0 41 91.11
ตารางที่ 2 แสดงค่าความถี่และค่าร้อยละของนักเรียนทั้งหมดที่ได้เกรดสูงกว่าเกรด3
ที่ ห้องเรียน ม.4/1และ ม.4/2 จำนวน ร้อยละ
1 ที่มีคะแนนสูงกว่าเกรด 3 47 52.80
2 ต่ำกว่าเกรด 3 42 47.20
รวม 89 100
จากตารางที่ 2 แสดงว่านักเรียนที่เรียนวิชาสังคมศึกษา ส่วนใหญ่มีคะแนนสูงกว่าเกรด 3 จำนวน 47 คน
คิดเป็นร้อยละ 52.80 และต่ำกว่าเกรด 3 จำนวน 42 คน คิดเป็นร้อยละ 47.20
สรุปผลการศึกษา
จากการดำเนินการวิจัยในชั้นเรียนผลการเรียนรู้แบบกระบวนการกลุ่มภายในชั้นเรียนร่วมกัน
เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาสังคมฯ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยมี
วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการเรียนการสอนวิชาสังคมศึกษาฯ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4 ภาคเรียนที่ 1
ปีการศึกษา 2566 โดยวิธีกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในชั้นเรียน ซึ่งเน้นในการฝึกปฏิบัติ
ด้วยกระบวนการกลุ่มและใบงานประกอบการเรียนรู้ภายในชั้นเรียน สถิติที่ใช้คือ ค่าความถี่ และ
ค่าร้อยละ พบว่านักเรียนที่เรียนโดยใช้การเรียนรู้แบบกระบวนการกลุ่มมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
วิชาสังคมศึกษา 1 สูงขึ้น คิดเป็นร้อยละ 52.80 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ แสดงว่าการเรียน
การสอนโดยใช้กระบวนการกลุ่มช่วยพัฒนาการเรียนการสอนสูงขึ้น
อภิปรายผลการศึกษา
จากการศึกษาเรื่องผลการเรียนรู้แบบกระบวนการกลุ่มภายในชั้นเรียนร่วมกันเพื่อให้เกิด
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาสังคมศึกษาฯ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 อภิปราย
ผลได้ดังนี้
จากการสอนโดยใช้กระบวนการกลุ่มภายชั้นเรียนร่วมกัน เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนสูงขึ้น ตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ นักเรียนมีพัฒนาการและสามารถเรียนรู้ได้อย่าง
เหมาะสมสอดคล้องกับแนวคิดทฤษฎีของ เคิร์ท เลวิน กล่าวโดยสรุปดังนี้ การรวมกลุ่มจะเกิด
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในกลุ่มในด้านการกระทำ ความรู้สึก ความคิด สมาชิกจะมีการปรับตัว
เข้าหากัน พยายามช่วยเหลือกันทำงาน โดยอาศัยความสามารถของแต่ละบุคคล ซึ่งจะทำให้
การปฏิบัติงานล่วงไปได้ตามเป้าหมายของกลุ่มและสอดคล้องกับเทคนิคคู่คิดร่วม(Think Pair Share)
เป็นเทคนิคที่เริ่มจากปัญหาที่ครูผู้สอนกำหนดนักเรียนแต่ละคน คิดหาคำตอบด้วยตนเองก่อน
แล้วนำคำตอบของตนเองถูกต้องหรือดีที่สุด จึงนำคำตอบมาเล่าให้เพื่อนทั้งชั้นเรียนฟัง ซึ่งเป็นกระบวน
การที่ผู้เรียนค้นพบด้วยตนเอง ผู้เรียนมีโอกาสเรียนรู้เนื้อหาวิชา จากการมีส่วนร่วมในกิจกรรม
ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง จดจำได้ดี อันจะนำไปสู่การปรับเปลี่ยนเจตคติและ
พฤติกรรมของตนได้รวมทั้งสามารถนำไปสู่การพัฒนาบุคลิกภาพทุกด้านของผู้เรียน
จากเหตุผลดังกล่าวนี้ส่งผลให้นักเรียนที่เรียนด้วยกระบวนการกลุ่มภายในชั้นเรียนร่วมกันเพื่อให้เกิด
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการวิจัย คือนักเรียนประมาณร้อยละ
52.80 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในระดับคะแนนมากกว่า 50 คะแนน คือสูงกว่าระดับ 3