ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาทักษะในด้านการอ่านคำควบกล้ำ โดยใช้การสอนแบบ Active learning ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

วิจัยหน้าเดียว

ชื่องานวิจัย การพัฒนาทักษะในด้านการอ่านคำควบกล้ำ โดยใช้การสอนแบบ Active learning

ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

ชื่อผู้วิจัย นางสาวภิรมยา โพธิ์รินทร์

ภูมิหลัง

ทักษะการอ่านเป็นกระบวนการที่สามารถต่อยอดให้ผู้เรียนเป็นนักคิดอย่างมีกระบวนการ ซึ่งจะส่งผลให้ฟัง พูด และเขียนอย่างมีกระบวนการด้วย ซึ่งการอ่านนั้นเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของคนเราที่จะต้องใช้ในการสื่อสาร การอ่านที่ถูกต้องย่อมส่งผลต่อผู้รับสารที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการอ่านคำควบกล้ำในภาษาไทย ซึ่งคำควบกล้ำนั้นจะเป็นคำที่นักเรียนบางคนอ่านไม่ถูกต้องหรือไม่ชัดเจน ทำให้เกิดปัญหาในการสื่อสารและสื่อความหมายผิดได้ ดังนั้นการสอนที่จะส่งผลต่อการพัฒนาทักษะด้านการอ่านคำควบกล้ำที่มีประสิทธิภาพ จึงต้องใช้การสอนแบบ Active learning ซึ่งเป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสร้างสรรค์ทางปัญญา เน้นกระบวนการเรียนรู้ ด้วยการลงมือปฏิบัติจริงผ่านสื่อหรือการเรียนรู้ ที่มีผู้สอนเป็นผู้แนะนำ ทำให้เกิดการเรียนรู้ และพัฒนาทักษะในด้านการอ่านคำควบกล้ำ โดยใช้การสอนแบบ Active learning มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ดังนั้นผู้วิจัยจึงสนใจการสอนแบบ Active learning เพื่อพัฒนาทักษะในด้านการอ่านคำควบกล้ำ ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

ความมุ่งหมายการวิจัย

1. เพื่อพัฒนาทักษะในด้านการอ่านคำควบกล้ำ โดยใช้การสอนแบบ Active learning ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80

2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์การอ่านคำควบกล้ำของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ก่อนและหลังเรียน โดยใช้การสอนแบบ Active learning

ขอบเขตของการวิจัย

กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านโนนรัง ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 โดยการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive sampling) จำนวน 1 ห้อง จำนวนนักเรียนทั้งหมด 19 คน

วิธีการวิจัย

1. ปฏิบัติการสอน โดยใช้วิธีการสอนแบบ Active learning

2. ทำการทดสอบก่อนและหลังเรียน โดยผู้วิจัยให้กลุ่มตัวอย่างทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์

ทางการเรียน

3. นำผลการทดลอง ข้อ 2 และ 3 ไปวิเคราะห์ทางสถิติ

สรุปผลการวิจัย

1. การสอนแบบ Active learning ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพ 85.60

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้การสอนแบบ Active

Learning พบว่านักเรียนมีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

โพสต์โดย สายลม : [30 พ.ย. 2566 (15:08 น.)]
อ่าน [1944] ไอพี : 110.171.151.98
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 19,851 ครั้ง
การศึกษากับมุมมองของคนเวียดนาม
การศึกษากับมุมมองของคนเวียดนาม

เปิดอ่าน 105,636 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 17 การเล่นลูกจากประตู
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 17 การเล่นลูกจากประตู

เปิดอ่าน 23,903 ครั้ง
ความหมายของตัวเลขบนตั๋วรถเมล์
ความหมายของตัวเลขบนตั๋วรถเมล์

เปิดอ่าน 327,749 ครั้ง
  ภาษาไทยเขียนอย่างไร...?  ให้ถูกต้อง
ภาษาไทยเขียนอย่างไร...? ให้ถูกต้อง

เปิดอ่าน 75,691 ครั้ง
การแรเงา
การแรเงา

เปิดอ่าน 20,027 ครั้ง
อริยสัจ 4
อริยสัจ 4

เปิดอ่าน 22,692 ครั้ง
เส้นทางสายไหม
เส้นทางสายไหม

เปิดอ่าน 11,783 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาหลังยุค รธน.มีชัย โดย สมหมาย ปาริจฉัตต์
ปฏิรูปการศึกษาหลังยุค รธน.มีชัย โดย สมหมาย ปาริจฉัตต์

เปิดอ่าน 19,723 ครั้ง
เคล็ดเด็กเก่งวิชา เรขาคณิต-พีชคณิต
เคล็ดเด็กเก่งวิชา เรขาคณิต-พีชคณิต

เปิดอ่าน 10,559 ครั้ง
จิบเครื่องดื่มให้ถูกจังหวะ ก็แก้ปัญหาสุขภาพได้
จิบเครื่องดื่มให้ถูกจังหวะ ก็แก้ปัญหาสุขภาพได้

เปิดอ่าน 22,810 ครั้ง
iPrice เจาะลึก! จริงหรือไม่? กรุงเทพฯ เป็นเมืองมีค่าครองชีพแพงที่สุดในภูมิภาค
iPrice เจาะลึก! จริงหรือไม่? กรุงเทพฯ เป็นเมืองมีค่าครองชีพแพงที่สุดในภูมิภาค

เปิดอ่าน 35,300 ครั้ง
กลยุทธ์ในการเรียนภาษาให้ดี
กลยุทธ์ในการเรียนภาษาให้ดี

เปิดอ่าน 10,905 ครั้ง
กูเกิลบริการแปลภาษาไม่ง้อเน็ต
กูเกิลบริการแปลภาษาไม่ง้อเน็ต

เปิดอ่าน 8,090 ครั้ง
10 ขั้นตอน...ก่อนซื้อ Notebook มือสอง
10 ขั้นตอน...ก่อนซื้อ Notebook มือสอง

เปิดอ่าน 28,587 ครั้ง
กฎ  ก.ค.ศ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูฯ ได้รับเงินเดือนสูงกว่าหรือต่ำกว่าขั้นต่ำฯ ฉบับที่ 2 (2555)
กฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูฯ ได้รับเงินเดือนสูงกว่าหรือต่ำกว่าขั้นต่ำฯ ฉบับที่ 2 (2555)

เปิดอ่าน 26,520 ครั้ง
10 วิธีเลี้ยงลูกให้มีความสุขตามหลักวิทยาศาสตร์
10 วิธีเลี้ยงลูกให้มีความสุขตามหลักวิทยาศาสตร์
เปิดอ่าน 151,731 ครั้ง
คริส ไรท์ โพสต์แฉ"การศึกษาไทยไม่ไปไหน"เพราะใคร
คริส ไรท์ โพสต์แฉ"การศึกษาไทยไม่ไปไหน"เพราะใคร
เปิดอ่าน 17,266 ครั้ง
สุดทึ่ง นักโบราณคดีอึ้ง รูปปั้นนักรบเฝ้าสุสานจีน 7 พันตัว ถูกปั้น"ตามใบหน้าจริงแต่ละคน
สุดทึ่ง นักโบราณคดีอึ้ง รูปปั้นนักรบเฝ้าสุสานจีน 7 พันตัว ถูกปั้น"ตามใบหน้าจริงแต่ละคน
เปิดอ่าน 36,354 ครั้ง
มาฝึกออกเสียง 40 ประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐานกันเถอะ
มาฝึกออกเสียง 40 ประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐานกันเถอะ
เปิดอ่าน 256 ครั้ง
CRM คืออะไร ระบบบริหารลูกค้าสัมพันธ์ที่คนทำธุรกิจต้องรู้จัก!
CRM คืออะไร ระบบบริหารลูกค้าสัมพันธ์ที่คนทำธุรกิจต้องรู้จัก!

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ