ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้การอ่านจับใจความภาษาอังกฤษตามแนวทางการ จัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ในรูปแบบ 3P4S Model โดยใช้แหล่งท่องเที่ยวในประเทศอาเซียนที่น่าสนใจเป็นพื้นฐานเพื่อส่งเสริ

บทคัดย่อ

หัวข้อวิจัย การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้การอ่านจับใจความภาษาอังกฤษตามแนวทางการ จัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ในรูปแบบ 3P4S Model โดยใช้แหล่งท่องเที่ยวในประเทศอาเซียนที่น่าสนใจเป็นพื้นฐานเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ผู้วิจัย นางสาวเบญจวรรณ บุญคูณ

ปีที่วิจัย ปีการศึกษา 2565

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยที่ใช้รูปแบบและกระบวนการของการวิจัยเชิงปฏิบัติการตามแนวคิดของ Kemmis and McTaggart มาดำเนินการวิจัยเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษโดยใช้แบบฝึกทักษะและการจัดกิจกรรมตามแนวทางการจัดการการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)ในรูปแบบ 3P4S Model มีวัตถุประสงค์ 4 ประการ คือ1) เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ เรื่อง Attractions in ASEAN กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวิชา อ23102 ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อปฏิบัติการพัฒนาการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ เรื่อง Attractions in ASEAN กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวิชา อ23102 ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และการจัดกิจกรรมตามแนวทางการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ในรูปแบบ 3P4S Model 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ เรื่อง Attractions in ASEAN กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวิชา อ23102 ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และการจัดกิจกรรมตามแนวทางการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ในรูปแบบ 3P4S Model และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ เรื่อง Attractions in ASEAN กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวิชา อ23102 ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และการจัดกิจกรรมตามแนวทางการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ในรูปแบบ 3P4S Model กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/6 จำนวน 36 คน ที่กำลังเรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนพิบูลมังสาหาร ตำบลพิบูล อำเภอพิบูลมังสาหาร สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยวิธีการจับสลาก ใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วย 1) แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ เรื่อง Attractions in ASEAN กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวิชา อ23102ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 10 เล่ม 2) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน 10 แผน ใช้สอนแผนละ 2 ชั่วโมง รวมทั้งสิ้น 20 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ เรื่อง Attractions in ASEAN หน่วยการเรียนรู้ที่ 9 เรื่อง Attractions in ASEAN เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ มีค่าความยากง่าย (p) อยู่ระหว่าง 0.38 ถึง 0.62 มีค่าอำนาจจำแนก (r) อยู่ระหว่าง 0.33 ถึง 0.76 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.98 และ 4) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ เรื่อง Attractions in ASEAN กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวิชา อ23102 ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 20 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.31 ถึง 0.91 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.93 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (T - test Dependent Sample)

สรุปผลการวิจัยพบว่า

1. รูปแบบการจัดการเรียนรู้การอ่านจับใจความภาษาอังกฤษตามแนวทางการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ในรูปแบบ 3P4S Model มีองค์ประกอบ 7 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นตอนการวางแผนหรือเตรียมการสอน (Plan or Prepare) 2) ขั้นตอนการนำเสนอเนื้อหา (Presentation) 3)ขั้นตอนการค้นคำศัพท์ (Search) 4) ขั้นตอนการอ่านเนื้อหาแบบคร่าวๆเพื่อหาประเด็นและใจความสำคัญของเนื้อเรื่อง (Skimming) 5) ขั้นตอนการอ่านแบบคร่าวๆ เพื่อหาข้อมูล หรือคำตอบเฉพาะเจาะจง (Scanning) 6) ขั้นตอนการฝึกฝนการอ่าน (Practice) 7) ขั้นตอนการสรุปเนื้อหาที่อ่าน (Summary) ซึ่งอยู่ในวงจรการควบคุมการวิจัยเชิงปฏิบัติการ 4 ขั้นตอน คือ 1)การวางแผน (Plan) 2) การปฏิบัติ (Action) 3)การสังเกต (Observe) 4) การสะท้อนกลับ (Reflect) มีทั้งหมด 3 วงจรในการวิจัยครั้งนี้ ผลการหาประสิทธิภาพจากแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ เรื่อง Attractions in ASEAN กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวิชา อ23102 ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ได้พัฒนาขึ้นจากการจัดกิจกรรมตามแนวทางการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ในรูปแบบ 3P4S Model ซึ่งมีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.25/80.83 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ ที่กำหนดไว้ คือ 75/75

2. ผลการปฏิบัติการพัฒนาการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ เรื่อง Attractions in ASEAN กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวิชา อ23102 ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และการจัดกิจกรรมตามแนวทางการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ในรูปแบบ 3P4S Model โดยกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการตามแนวคิดของ Kemmis and McTaggart แผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ในรูปแบบ 3P4S Model มีทั้งหมด 10 แผน ได้ผลการปฏิบัติการ มีลักษณะเป็นบันไดเวียน 3 วงจร ประกอบด้วย วงจรที่ 1 จัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง Tourist Attractions in Laos, Tourist Attractions in Cambodia และ Tourist Attractions in Myanmar วงจรที่ 2 จัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง Tourist Attractions in Malaysia, Tourist Attractions in Vietnam และ Tourist Attractions in Indonesia และวงจรที่ 3 จัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง Tourist Attractions in Philippines, Tourist Attractions in Singapore, Tourist Attractions in Brunei Darussalam และ Tourist Attractions in Thailand แต่ละวงจรประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 3 แผน ยกเว้นวงจรที่ 3 มี 4 แผน รวมทั้งสิ้น 10 แผน ใช้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ แผนละ 2 ชั่วโมง รวมทั้งสิ้น 20 ชั่วโมง แต่และแผนจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทางการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ในรูปแบบ 3P4S Model มีองค์ประกอบ 7 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นตอนการวางแผนหรือเตรียมการสอน (Plan or Prepare) 2) ขั้นตอนการนำเสนอเนื้อหา (Presentation) แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ เรื่อง Attractions in ASEAN และทดสอบก่อนเรียน(Pre-test) 3)ขั้นตอนการค้นคำศัพท์ (Search) ลักษณะของแบบฝึกทักษะที่ใช้คือ แบบฝึกหัดที่ 1 ปริสนาอักษรไขว้ (Crossword Puzzle) และแบบฝึกหัดที่ 2 จับคู่คำศัพท์ (Vocabulary Matching) 4) ขั้นตอนการอ่านเนื้อหาแบบคร่าวๆเพื่อหาประเด็นและใจความสำคัญของเนื้อเรื่อง (Skimming) ลักษณะของแบบฝึกทักษะที่ใช้คือ แบบฝึกหัดที่ 3 จริงหรือเท็จ (True or False) 5) ขั้นตอนการอ่านแบบคร่าวๆ เพื่อหาข้อมูล หรือคำตอบเฉพาะเจาะจง (Scanning) ลักษณะของแบบฝึกทักษะที่ใช้คือ แบบฝึกหัดที่ 4 ตอบแบบสั้น (Short Answer) และแบบฝึกหัดที่ 5 แผนผังความคิด (Mind Mapping) 6) ขั้นตอนการฝึกฝนการอ่าน (Practice) 7) ขั้นตอนการสรุปเนื้อหาที่อ่าน (Summary) ลักษณะของแบบฝึกทักษะที่ใช้คือ แบบทดสอบหลังเรียน (Post-test) ซึ่งในแต่ละวงจรประกอบด้วย ขั้นวางแผน ขั้นปฏิบัติการและขั้นสังเกต และขั้นสะท้อนผล ผลการปฏิบัติการ พบว่า การสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษและการจัดกิจกรรมตามแนวทางการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ในรูปแบบ 3P4S Model สามารถพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ได้ดีขึ้น นักเรียนทุกคนสามารถทำคะแนนทดสอบหลังเรียนผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ ร้อยละ 70 (7 คะแนนขึ้นไป)

3. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ เรื่อง Attractions in ASEAN กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวิชา อ23102 ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และการจัดกิจกรรมตามแนวทางการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ในรูปแบบ 3P4S Model พบว่า คะแนนวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนด้วย

แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ เรื่อง Attractions in ASEAN กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวิชา อ23102 ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และการจัดกิจกรรมตามแนวทางการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ในรูปแบบ 3P4S Model พบว่า โดยภาพรวมนักเรียนมีความพึงพอใจมากที่สุด ( = 4.68, S.D. = 0.17)

โพสต์โดย โอ๋ : [27 พ.ย. 2566 (13:25 น.)]
อ่าน [1314] ไอพี : 49.230.116.36
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 95,932 ครั้ง
หลักเกณฑ์การอยู่เวรรักษาการณ์
หลักเกณฑ์การอยู่เวรรักษาการณ์

เปิดอ่าน 11,964 ครั้ง
การศึกษาไทยหลายเรื่องคงต้องพึ่ง ม. 44 จริงๆ
การศึกษาไทยหลายเรื่องคงต้องพึ่ง ม. 44 จริงๆ

เปิดอ่าน 95,610 ครั้ง
100อันดับโรงเรียนดีที่สุดปี58
100อันดับโรงเรียนดีที่สุดปี58

เปิดอ่าน 34,422 ครั้ง
อยากเก่งภาษาอังกฤษทำยังไง
อยากเก่งภาษาอังกฤษทำยังไง

เปิดอ่าน 10,101 ครั้ง
กระแสแอนตี้ "เด็กแสบ"...ผู้ใหญ่ใจร้ายหรือพ่อแม่รังแกฉัน?
กระแสแอนตี้ "เด็กแสบ"...ผู้ใหญ่ใจร้ายหรือพ่อแม่รังแกฉัน?

เปิดอ่าน 8,560 ครั้ง
ประเทศไทยได้อะไร... จากการรอใช้ 3จี บนคลื่น 2.1 กิกะเฮิร์ตซ์
ประเทศไทยได้อะไร... จากการรอใช้ 3จี บนคลื่น 2.1 กิกะเฮิร์ตซ์

เปิดอ่าน 27,159 ครั้ง
เมื่องานที่ทำ ยังไม่เป็นงานที่ใช่ จะอยู่ทำก่อนหรือจากไป
เมื่องานที่ทำ ยังไม่เป็นงานที่ใช่ จะอยู่ทำก่อนหรือจากไป

เปิดอ่าน 10,595 ครั้ง
5 ซุปเปอร์ฟู้ดส์...ที่สาวๆ ขาดไม่ได้
5 ซุปเปอร์ฟู้ดส์...ที่สาวๆ ขาดไม่ได้

เปิดอ่าน 76,567 ครั้ง
สรรพคุณของ "ปลีกล้วย"
สรรพคุณของ "ปลีกล้วย"

เปิดอ่าน 102,033 ครั้ง
ประเภทของลูกเสือ
ประเภทของลูกเสือ

เปิดอ่าน 14,403 ครั้ง
ทำไมต้องจ้างทำการบ้าน (ชมคลิป)
ทำไมต้องจ้างทำการบ้าน (ชมคลิป)

เปิดอ่าน 40,399 ครั้ง
คิ้วตกปัญหาโหงวเฮ้งที่ต้องรีบแก้
คิ้วตกปัญหาโหงวเฮ้งที่ต้องรีบแก้

เปิดอ่าน 14,620 ครั้ง
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ อันตรายที่อย่ามองข้าม
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ อันตรายที่อย่ามองข้าม

เปิดอ่าน 23,077 ครั้ง
กุ้งเดินขบวนมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ
กุ้งเดินขบวนมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ

เปิดอ่าน 8,665 ครั้ง
หมอแนะกินผัก ผลไม้ป้องกันไข้หวัดใหญ่
หมอแนะกินผัก ผลไม้ป้องกันไข้หวัดใหญ่

เปิดอ่าน 190,411 ครั้ง
บทบาทของครูในการเรียนรู้แบบ Active Learning
บทบาทของครูในการเรียนรู้แบบ Active Learning
เปิดอ่าน 15,242 ครั้ง
เดินหน้าปฏิรูป การวัดผลการศึกษา 59
เดินหน้าปฏิรูป การวัดผลการศึกษา 59
เปิดอ่าน 12,663 ครั้ง
แพทย์ไทยวิจัยพบ เถาวัลย์เปรียง รักษาอาการปวด
แพทย์ไทยวิจัยพบ เถาวัลย์เปรียง รักษาอาการปวด
เปิดอ่าน 14,659 ครั้ง
บันไดเลื่อนตัวแรกของไทย
บันไดเลื่อนตัวแรกของไทย
เปิดอ่าน 3,905 ครั้ง
5 เคล็ดลับสร้างโปรไฟล์หางานให้โดดเด่นกว่าใคร
5 เคล็ดลับสร้างโปรไฟล์หางานให้โดดเด่นกว่าใคร

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ