ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทยด้วยการจัดการเรียนรู้ แบบเชิงรุก (Active learning) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษา เพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

ผู้วิจัย นางสาวยุพาภรณ์ หาญสงคราม

สถานที่ศึกษา โรงเรียนหนองบุญมากพิทยาคม อำเภอหนองบุญมาก จังหวัดนครราชสีมา

ปีที่พิมพ์ 2566

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทยด้วยการจัดการเรียนรู้ แบบเชิงรุก (Active learning) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการรูปแบบการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทยด้วยการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active learning) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 2) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active learning) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 3) ศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ รายวิชาภาษาไทยด้วยการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active learning) เพื่อส่งเสริมความสามารถใน การใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 4) ประเมินผลการใช้รูปแบบ การจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทยด้วยการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active learning) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนหนองบุญมากพิทยาคม อำเภอหนองบุญมาก จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 1 ห้องเรียนมีนักเรียน จำนวน 26 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม (Cluster Random Sampling)

ตัวแปรอิสระ ได้แก่ รูปแบบการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทยด้วยการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active learning) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ตัวแปรตาม ได้แก่ 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนหนองบุญมากพิทยาคม ที่ได้รับจากการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทยด้วยการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active learning) 2) ความสามารถในการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนหนองบุญมากพิทยาคม ที่ได้รับจากการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทยด้วยการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active learning) 3) ความเหมาะสมของรูปแบบการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทยด้วยการจัดการเรียนรู้ แบบเชิงรุก (Active learning) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร 4) ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนหนองบุญมากพิทยาคมที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทยด้วยการจัดการเรียนรู้ แบบเชิงรุก (Active learning) ใช้ระยะเวลาในการทดลองสอนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ สัปดาห์ ละ 2 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ รวมทั้งสิ้น 16 ชั่วโมง โดยมีเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย 3 รหัสวิชา ท32101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 8 แผน ใช้เวลา 16 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 1) แบบทดสอบวัดผลัสมฤทธิ์ทาง การเรียน เรื่อง การใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร 2) แบบวัดความสามารถด้านการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร 3) แบบประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทยด้วยการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active learning) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษา เพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 5 และ 4) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนหนองบุญมากพิทยาคม ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทยด้วยการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active learning) สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าทีแบบ ไม่อิสระ (t-test dependent) และการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัยพบว่า

1. สภาพปัญหาและความต้องการรูปแบบการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทยด้วยการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active learning) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มุ่งส่งเสริมให้นักเรียนมีทักษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 เน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมและมีปฏิสัมพันธ์กับกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติที่หลากหลายรูปแบบ โดยกิจกรรมที่นำมาใช้ควรช่วยพัฒนาทักษะการ คิดวิเคราะห์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ การสื่อสาร นำเสนอและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างเหมาะสม และในบทบาทของผู้เรียนนอกจากการมีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าวข้างต้นแล้ว ยังต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้สอนและผู้เรียนกับผู้เรียนด้วยกันด้วย ผู้สอนควรลดบทบาทในการถ่ายทอดความรู้แก่ผู้เรียนในลักษณะการบรรยายลงและเพิ่มบทบาทใน การกระตุ้นให้ผู้เรียนมีความกระตือรือร้นที่จะทำกิจกรรมต่างๆ รวมถึงการจัดเตรียมสภาพแวดล้อม ที่เหมาะสมในการเรียนรู้

2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทยด้วยการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active learning) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

ที่พัฒนาขึ้น มีชื่อว่า “POSSE MODEL” มีองค์ประกอบของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ 7 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) แนวคิดทฤษฎี 2) หลักการ 3) วัตถุประสงค์ 4) เนื้อหาสาระการเรียนรู้ 5) กระบวนการจัด การเรียนรู้ 6) ระบบสังคม 7) การวัดและประเมินผล มีกระบวนการจัดการเรียนรู้ 5 ขั้นคือ ขั้นที่ 1 เป็นขั้นที่ผู้สอนเตรียมความพร้อมและทบทวนความรู้เดิม (Preparing and reviewing pre-existing knowledge : P) ขั้นที่ 2 เป็นขั้นการจัดกิจกรรมกระบวนการทางปัญญา (Organizing cognitive activities: O) ขั้นที่ 3 เป็นขั้นการศึกษารวบรวมข้อมูล และการใช้แหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย (Studying and collecting the data with diverse learning resources: S) ขั้นที่ 4 เป็นขั้นการสรุปองค์ความรู้ (Summarizing the body of knowledge: S) และขั้นที่ 5 เป็นขั้นการประเมินผลงาน (Evaluating works: E) เมื่อนำไปทดลองใช้กับนักเรียนแบบกลุ่มใหญ่ (Field Tryout) จำนวน 31 คน พบว่า มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.13/82.02 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทยด้วยการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active learning) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 พบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) ความสามารถด้านการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารของนักเรียนหลังเรียน สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. ผลการประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทยด้วยการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active learning) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 พบว่า 1) ผลการประเมินการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทยด้วย การจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active learning) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 พบว่า โดยภาพรวมมีค่าความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ( x̄= 4.12, S.D. = 1.25) 2) ผลของการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1โรงเรียนหนองบุญมากพิทยาคม ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทยด้วยการจัดการเรียนรู้ แบบเชิงรุก (Active learning) พบว่า ความพึงพอใจรวมทุกด้านอยู่ในระดับมาก ( x̄= 4.20, S.D. = 1.34)

โพสต์โดย mooaon : [8 พ.ย. 2566 เวลา 09:49 น.]
อ่าน [1921] ไอพี : 49.229.66.139
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 23,365 ครั้ง
"มะรุม" พืชมหัศจรรย์
"มะรุม" พืชมหัศจรรย์

เปิดอ่าน 19,062 ครั้ง
อาการ ไอ แก้ได้ไม่ง้อยา
อาการ ไอ แก้ได้ไม่ง้อยา

เปิดอ่าน 39,992 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 10 ลูกบอลอยู่ในการเล่นและอยู่นอกการเล่น
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 10 ลูกบอลอยู่ในการเล่นและอยู่นอกการเล่น

เปิดอ่าน 9,246 ครั้ง
เผยรายชื่อ 10 ประเทศที่ประกาศแบนเฟซบุ๊ก
เผยรายชื่อ 10 ประเทศที่ประกาศแบนเฟซบุ๊ก

เปิดอ่าน 13,787 ครั้ง
"โปรตีน" ตัวช่วยของสาวอยากผอม
"โปรตีน" ตัวช่วยของสาวอยากผอม

เปิดอ่าน 45,245 ครั้ง
สุภาษิต หรือ ภาษิต
สุภาษิต หรือ ภาษิต

เปิดอ่าน 21,195 ครั้ง
ปัญหาการศึกษาไทย...อยู่ตรงไหน?
ปัญหาการศึกษาไทย...อยู่ตรงไหน?

เปิดอ่าน 450 ครั้ง
การใช้ AI ในการแก้โจทย์ PISA เครื่องมือ ChatGPT ผู้ช่วยสำหรับครู
การใช้ AI ในการแก้โจทย์ PISA เครื่องมือ ChatGPT ผู้ช่วยสำหรับครู

เปิดอ่าน 11,913 ครั้ง
คู่มือพัฒนาตนเองผ่านระบบออนไลน์และการประชุมปฏิบัติการเสริมสร้างสมรรถนะครูผู้ช่วย สู่การเป็นครูมืออาชีพ
คู่มือพัฒนาตนเองผ่านระบบออนไลน์และการประชุมปฏิบัติการเสริมสร้างสมรรถนะครูผู้ช่วย สู่การเป็นครูมืออาชีพ

เปิดอ่าน 16,408 ครั้ง
คู่มือการบริหารงานบุคคลข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของ กศจ. (ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 4) สิงหาคม 2563
คู่มือการบริหารงานบุคคลข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของ กศจ. (ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 4) สิงหาคม 2563

เปิดอ่าน 16,178 ครั้ง
ไม่น่าเชื่อ! คลิปอาคารโรงเรียนบ้านพะเด๊ะ อ.แม่สอด จ.ตาก พังถล่มทั้งหลัง
ไม่น่าเชื่อ! คลิปอาคารโรงเรียนบ้านพะเด๊ะ อ.แม่สอด จ.ตาก พังถล่มทั้งหลัง

เปิดอ่าน 105,084 ครั้ง
บทสวดอโหสิกรรม
บทสวดอโหสิกรรม

เปิดอ่าน 11,657 ครั้ง
ตรวจสอบฮวงจุ้ยที่บ้านคุณ
ตรวจสอบฮวงจุ้ยที่บ้านคุณ

เปิดอ่าน 20,632 ครั้ง
เสริมดวงชะตาให้ดี ด้วยการเสริมฮวงจุ้ยประตูบ้าน
เสริมดวงชะตาให้ดี ด้วยการเสริมฮวงจุ้ยประตูบ้าน

เปิดอ่าน 16,180 ครั้ง
ความเป็นมาของคำ "ธรรมกาย" โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก
ความเป็นมาของคำ "ธรรมกาย" โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก

เปิดอ่าน 59,194 ครั้ง
ที่ราชพัสดุ คืออะไร?
ที่ราชพัสดุ คืออะไร?
เปิดอ่าน 918 ครั้ง
ปักหมุด 7 พิกัดไหว้พระกรุงเทพฯ โดนใจสายมู
ปักหมุด 7 พิกัดไหว้พระกรุงเทพฯ โดนใจสายมู
เปิดอ่าน 14,712 ครั้ง
"พรมมิ" วัชพืชบำรุงสมอง
"พรมมิ" วัชพืชบำรุงสมอง
เปิดอ่าน 11,606 ครั้ง
ดูแลตัวกันเยอะแล้ว มาดูแลเท้ากันบ้างดีกว่า!
ดูแลตัวกันเยอะแล้ว มาดูแลเท้ากันบ้างดีกว่า!
เปิดอ่าน 12,128 ครั้ง
เคล็ดลับความอ่อนเยาว์ของสาวเอเชีย
เคล็ดลับความอ่อนเยาว์ของสาวเอเชีย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ