|
|
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ (1) การศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับการใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับการใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (3) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับการใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (4) เพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับการใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนชุมชนบ้านดอนหัน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 3 ที่กำลังเรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 21 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling)เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับการใช้ปัญหาเป็นฐาน แบบทดสอบวัดทักษะการคิดแก้ปัญหา แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและแบบประเมินความพึงพอใจ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
1. จากการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน สภาพที่คาดหวังและสภาพปัจจุบันผู้วิจัยและครูผู้สอนวิชาวิทยาศาสตร์ มีความคาดหวังให้นักเรียนมีเหตุมีผลตามลำดับขั้นตอนสามารถรู้คิดและนำข้อมูลที่สำคัญเก็บไว้ในความจำระยะยาว แก้ปัญหาได้อย่างมีเหตุผล มีการแสวงหาข้อมูลมาประกอบการตัดสินใจจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลายด้วยตนเอง แล้วประมวลความรู้เพื่อทางเลือกในการแก้ปัญหาที่ถูกต้องมีเหตุผลแต่สภาพปัจจุบัน พบว่า ผลการประเมินนักเรียนส่วนใหญ่ยังไม่ผ่านการประเมินการคิด การจัดการเรียนรู้ด้านการคิดและวิทยาศาสตร์ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ยังไม่บรรลุเป้าหมายตามสภาพที่คาดหวัง การจัดการเรียนรู้ไม่เชื่อมโยงกับชีวิตจริง ไม่ฝึกการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ การคิดริเริ่มสร้างสรรค์ การแก้ปัญหา ทำให้นักเรียนเรียนวิทยาศาสตร์แบบท่องจำไม่มีเหตุผล ลืมง่าย ทำให้นักเรียนคิดไม่เป็น ทำไม่ได้ ไม่รักการอ่าน ไม่สามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน ผู้วิจัยและครูผู้สอนวิชาวิทยาศาสตร์ มีความต้องการเกี่ยวกับการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับการใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยครูจะต้องการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ด้วยการสอนคิดหลาย ๆ ด้าน ได้แก่ การสอนคิดแก้ปัญหา ที่ถูกต้อง พัฒนาความสามารถในการคิดแก้ปัญหาไปพร้อมกับพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์โดยเน้นกระบวนการคิด การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง ทำให้นักเรียนมีโอกาสได้เรียนรู้และฝึกฝนด้วยตนเอง เพื่อให้นักเรียนได้สำรวจ ตั้งคำถาม อธิบายเหตุผล และพบคำตอบโดยการทำกิจกรรมทั้งกายภาพและทางสมองด้วยตนเอง
2. การสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับการใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีชื่อว่า PEACE MODEL มี 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการเน้นนักเรียนเป็นผู้สร้างความรู้ขึ้นเองอย่างเป็นระบบโดยใช้กระบวนการแสวงหาความรู้ด้วยตนเองกระบวนการเรียนรู้ที่เสริมสร้างทักษะการคิดแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนนักเรียนมีบทบาทสำคัญในการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติกิจกรรมที่เน้นการร่วมมือกันและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 2) วัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับการใช้ปัญหาเป็นฐานเพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) กระบวนการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย 5 ขั้น คือ (1) ขั้นที่ 1 การนำเสนอปัญหา (Presenting Problem: P) (2) ขั้นที่ 2 การสร้างความสนใจร่วมกันระหว่างผู้วิจัยและนักเรียน (Engaging : E) (3) ขั้นที่ 3 การวิเคราะห์ (Analyzing : A ) (4) ขั้นที่ 4 การจำแนก (Classifying : C) (5) ขั้นที่ 5 การประเมินผล (Evaluating : E) 4) การวัดและประเมินผล 2 ด้าน คือ (1) ทักษะการคิดแก้ปัญหา (2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ 5) เงื่อนไขสำคัญในการนำรูปแบบการสอนไปใช้ให้ประสบผลสำเร็จ ประกอบด้วย (1) ผู้วิจัยมีบทบาทในการเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการจัดการเรียนการสอน (2) นักเรียนใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการศึกษาหาความรู้ร่วมกันเพื่อนำมาแก้ปัญหาแลกเปลี่ยนเรียนรู้พัฒนาแนวคิดเสริมสร้างทักษะการคิดแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (3) สถานการณ์ปัญหาที่เป็นจริง เพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่นำมาแก้ปัญหาได้อย่างแท้จริง ซึ่งรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นนำไปหาประสิทธิภาพแบบเดี่ยวกลุ่มเล็กและภาคสนาม โดยมีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 85.94/84.16, 87.56/85.25 และ 88.78/86.92 ตามลำดับเมื่อเทียบกับเกณฑ์ 80/80 ปรากฏว่ามีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับการใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า โดยภาพรวมคะแนนสูงกว่าร้อยละ 80 ซึ่งผลการประเมินระหว่างเรียนมีค่าเฉลี่ย 281.48 คิดเป็นร้อยละ 87.96 ผลการทดสอบทักษะการคิดแก้ปัญหา มีค่าเฉลี่ย 35.00 คิดเป็นร้อยละ 87.50 ผลการทดสอบผลสัมฤทธิ์หลังเรียน มีค่าเฉลี่ย 34.24 คิดเป็นร้อยละ 85.60 ผลการทดสอบทักษะการคิดแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์หลังเรียน มีค่าเฉลี่ย 34.62 คิดเป็นร้อยละ 86.55
4. ประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับการใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า (1) ความสามารถในทักษะการคิดแก้ปัญหา นักเรียน 21 คน มีนักเรียนที่ได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของคะแนนเต็มจำนวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ 100 ซึ่งผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้ (2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน นักเรียน 21 คน มีนักเรียนที่ได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของคะแนนเต็มจำนวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ 100 ซึ่งผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้ (3) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับการใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยนักเรียนพึงพอใจด้านกระบวนการจัดการเรียนรู้สูงที่สุดเพราะนักเรียนได้เรียนรู้ด้วยการปฏิบัติด้วยตนเอง และร่วมกันคิดหาคำตอบร่วมกันกับเพื่อนอย่างสร้างสรรค์ในกลุ่มย่อย และกลุ่มใหญ่ตามลำดับ ครูเรียงเนื้อหาและกิจกรรมได้อย่างเหมาะสม นักเรียนมีความสุขและสนุกสนานในการเรียนรู้สามารถสรุปองค์ความรู้เชื่อมโยงนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้
|
โพสต์โดย โอ๋ : [7 พ.ย. 2566 เวลา 19:08 น.] อ่าน [1901] ไอพี : 1.4.185.216
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 62,444 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,035 ครั้ง
| เปิดอ่าน 65,697 ครั้ง
| เปิดอ่าน 35,357 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,395 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,651 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,752 ครั้ง
| เปิดอ่าน 2,858 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,028 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,673 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,457 ครั้ง
| เปิดอ่าน 39,070 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,483 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,818 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,853 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 12,088 ครั้ง
| เปิดอ่าน 30,313 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,819 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,914 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,773 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|