ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต โดยการจัดการเรียนรู้แบบ 5E ร่วมกับเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนทุ่งสังพิทยาคม

ชื่อผู้วิจัย นางภริตพร อินทะนัน

1. ความสำคัญของผลงาน

1.1 ความสำคัญสภาพของปัญหา

ตามที่กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศให้ใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 มีหลักการจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความสามารถตามมาตรฐาน/ตัวชี้วัด สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยยึดหลักว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด และทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเอง กระบวนการจัดการเรียนรู้ต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ คำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล เน้นให้ความสำคัญทั้งความรู้และคุณธรรม ผู้สอนต้องจัดกระบวนการเรียนรู้ การออกแบบการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับศักยภาพและบริบทของผู้เรียน ให้ความสำคัญกับการใช้สื่อ การพัฒนาสื่อ การใช้แหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่น มีการวัดและประเมินผลที่หลากหลายและนำผลที่ได้ใช้เป็นข้อมูลเพื่อพัฒนา ปรับปรุงการจัดการเรียนรู้เพื่อให้เกิดคุณภาพสูงสุดต่อผู้เรียน

โรงเรียนทุ่งสังพิทยาคม เป็นโรงเรียนขนาดเล็กตั้งอยู่ในเขต ตำบลทุ่งสัง อำเภอทุ่งใหญ่ ซึ่งอยู่ในเขตชนบท โรงเรียนจัดการศึกษาในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานมีจำนวนนักเรียน 117 คน บริบทของนักเรียนโรงเรียนทุ่งสังพิทยาคม ครอบครัวจะมีฐานะค่อนข้างลำบาก ต้องช่วยพ่อแม่กทำงานในช่วงเช้าก่อนมาเรียน และส่วนใหญ่จะมาจากครอบครัวที่แตกแยก ผู้ปกครองไม่มีเวลาในการดูแลลูก ซึ่งส่งผลให้นักเรียนที่มีพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ เช่น มาโรงเรียนสาย หนีเรียน ขาดเรียนบ่อย ขาดความรับผิดชอบในการส่งงาน ซึ่งจะส่งผลให้นักเรียนเหล่านี้เป็นนักเรียนที่มีปัญหาทางด้านการเรียน สอบไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน ติด 0 , ร, มส. ซึ่งทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ

ผู้ส่งผลงานในฐานะครูผู้สอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ได้ศึกษาผลผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ย้อนหลัง 4 ปี พบว่า พบว่านักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ส่วนใหญ่ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ต่ำและขาดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะหน่วยการเรียนรู้เรื่อง ดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต นักเรียนจะได้คะแนนจากสอบรายหน่วยต่ำมาก จากเหตุผลดังกล่าวนี้ ครูผู้สอนจึงต้องหาวิธีการสอน สื่อการสอนที่กระตุ้นความสนใจผู้เรียน ดึงผู้เรียนให้เข้าถึงบทเรียนให้ได้มากที่สุด

1.2 แนวทางแก้ปัญหา และพัฒนา

ปัจจุบันเป็นยุคที่โลกมีความเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว สืบเนื่องมาจากการใช้เทคโนโลยีเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลต่าง ๆ ของทุกภูมิภาคของโลกเข้าด้วยกัน กระแสการปรับเปลี่ยนทางสังคมที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 21 ส่งผลต่อวิถีการดำรงชีพของสังคมอย่างทั่วถึง มีการแข่งขันสูงทั้งในด้านการศึกษา อาชีพ เศรษฐกิจ ดังนั้นการเตรียมคนรุ่นใหม่ให้มีทักษะที่จำเป็นเพื่อให้ดำรงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง โดยทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ที่สำคัญที่สุด คือ ทักษะการเรียนรู้ (Learning Skill) ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงการจัดการเรียนรู้เพื่อให้เด็กในศตวรรษที่ 21 นี้ มีความรู้ ความสามารถ และทักษะที่จำเป็น ซึ่งเป็นผลจากการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจัดการเรียนการสอน ตลอดจนการเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ ที่เป็นปัจจัยสนับสนุนที่จะทำให้เกิดการเรียนรู้ดังกล่าว อย่างไรก็ตามในยุคที่ โลกที่มีการแข่งขันสูง การศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์นับเป็นปัจจัยลำดับต้นๆ ที่ ควรได้รับการพัฒนา และจากการศึกษาพบว่าการศึกษาวิทยาศาสตร์อย่างมีคุณภาพสามารถช่วยพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21 ได้ เช่น ช่วยพัฒนาทักษะการคิดระดับสูง การแก้ปัญหา รวมทั้งการสื่อสารและความร่วม มือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าจัดการเรียนรู้ให้มีความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติของวิทยาศาสตร์ รวมทั้งส่งเสริมให้มีการฝึกปฏิบัติด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าการศึกษาวิทยาศาสตร์อย่างมีคุณภาพมีความสำคัญอย่างมากในการช่วยเพิ่มทักษะในศตวรรษที่ 21 และควรเป็นการจัดการเรียนรู้ที่ช่วยให้นักเรียนได้เตรียมตัวเพื่อใช้ชีวิตในโลกที่เป็นจริง เน้นการศึกษาตลอดชีวิตด้วยวิธีการที่มีความยืดหยุ่น มีการกระตุ้นและจูงใจให้ผู้เรียนได้ฝึกคิดและแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง โดยให้ผู้เรียนแสวงหาความรู้ผ่านการเรียนรู้จากการปฏิบัติ รวมทั้งส่งเสริมให้นักเรียนสามารถเรียนรู้และทำงานแบบร่วมมือกัน กระตุ้นให้ผู้เรียนต้องการศึกษาหาคำ ตอบอย่างต่อเนื่อง และสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้อื่นได้ (สุพรรณี ชาญประเสริฐ, 2557จากการที่ผู้ส่งผลงานได้ศึกษาค้นคว้างานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเทคนิคการสอนพบว่า กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นตอน เป็นรูปแบบหนึ่งของการสืบเสาะหาความรู้ คือ การสร้างความสนใจ(Engagement) การสำรวจและค้นหา (Exploration) การอธิบาย (Explanation) การขยายความรู้(Elaboration) และการประเมินผล (Evaluation) ซึ่งทั้ง 5 ขั้นตอนเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ครูจะต้องส่งเสริมให้นักเรียนรู้จักคิด มีความคิดสร้างสรรค์ ให้โอกาสนักเรียนได้ ใช้ความคิดของตนเองได้มากที่สุด ทั้งนี้กิจกรรมที่จะให้นักเรียนสำรวจตรวจสอบ จะต้องเชื่อมโยงกับความคิดเดิม และนำไปสู่การแสวงหาความรู้ใหม่ และได้ใช้ กระบวนการและทักษะต่าง ๆ ทางวิทยาศาสตร์และการสืบเสาะหาความรู้ และการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สามารถเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนได้ซึ่งการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบนี้ ช่วยกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนาศักยภาพของตนเอง มีความรับผิดชอบต่อตนเองและกลุ่ม มีปฏิสัมพันธ์กัน มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ตลอดจนการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน นอกจากนั้นแล้วยังเป็นการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญและยังช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียนได้พัฒนาความสามารถ ทั้งด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดวิเคราะห์ได้เต็มศักยภาพอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้าจึงมีแนวคิดในการจัดการเรียนรู้แบบ 5E ร่วมกับเทคนิค STAD เพื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียน ตลอดจนการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนทุ่งสังพิทยาคมให้สูงขึ้น

2. จุดประสงค์และเป้าหมาย

การกำหนดจุดประสงค์และเป้าหมาย

1. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน วิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง ดุลยภาพของสิ่งมีชีวิตโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบ 5E ร่วมกับเทคนิค STAD

2. เพื่อศึกษาความพึงพอใจทางการเรียนของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบ 5Eร่วมกับเทคนิค STAD

ผลการดำเนินงาน/ผลสัมฤทธิ์/ประโยชน์ที่ได้รับ

4.1 ผลที่เกิดตามจุดประสงค์

1. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน

2. นักเรียนเกิดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

3. นักเรียนมีความพึงพอใจในทางการเรียน ต่อการจัดการเรียนรู้แบบ 5E ร่วมกับเทคนิค STADอยู่ในระดับความพึงพอใจ มาก

4.2 ผลสัมฤทธิ์

1. การจัดการเรียนรู้แบบ 5E ร่วมกับเทคนิค STAD เรื่องดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต สามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนให้สูงขึ้นและนักเรียนสนใจเรียนมากขึ้น

4.3 ประโยชน์ที่ได้รับ

1. ได้นวัตกรรม การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ เรื่องดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต โดยการจัดการเรียนรู้แบบ 5E ร่วมกับเทคนิค STAD ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนทุ่งสังพิทยาคม

2. นักเรียนมีความสนใจและมีส่วนร่วมในการเรียนมากขึ้น

3. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้สูงขึ้น

โพสต์โดย parit : [3 พ.ย. 2566 เวลา 06:46 น.]
อ่าน [1900] ไอพี : 61.7.215.110
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 22,528 ครั้ง
ระบบการจัดการฐานข้อมูล
ระบบการจัดการฐานข้อมูล

เปิดอ่าน 383,097 ครั้ง
ปรัชญาและคุณธรรมสำหรับครู และลักษณะครูที่ดี
ปรัชญาและคุณธรรมสำหรับครู และลักษณะครูที่ดี

เปิดอ่าน 23,659 ครั้ง
การเขียนกราฟ
การเขียนกราฟ

เปิดอ่าน 146,818 ครั้ง
รุ่นต่างๆ ของมวยสากลสมัครเล่น
รุ่นต่างๆ ของมวยสากลสมัครเล่น

เปิดอ่าน 2,705 ครั้ง
แนวทางการดำเนินงานโครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
แนวทางการดำเนินงานโครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567

เปิดอ่าน 35,644 ครั้ง
ผลศึกษา45ผักพื้นบ้าน ต้านมะเร็ง-กินแล้วไม่อ้วน
ผลศึกษา45ผักพื้นบ้าน ต้านมะเร็ง-กินแล้วไม่อ้วน

เปิดอ่าน 29,322 ครั้ง
สิ่งมีชีวิตนอกโลก มีจริงหรือไม่
สิ่งมีชีวิตนอกโลก มีจริงหรือไม่

เปิดอ่าน 85,429 ครั้ง
กระแสอะไรที่จะช่วยปรับรูปแบบโครงสร้างการปฏิรูปการศึกษาของไทย โดย นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์
กระแสอะไรที่จะช่วยปรับรูปแบบโครงสร้างการปฏิรูปการศึกษาของไทย โดย นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์

เปิดอ่าน 151,651 ครั้ง
คริส ไรท์ โพสต์แฉ"การศึกษาไทยไม่ไปไหน"เพราะใคร
คริส ไรท์ โพสต์แฉ"การศึกษาไทยไม่ไปไหน"เพราะใคร

เปิดอ่าน 23,174 ครั้ง
ดาวน์โหลดสื่อวิดีทัศน์ ชุด "กายบริหารหน้าเสาธง"
ดาวน์โหลดสื่อวิดีทัศน์ ชุด "กายบริหารหน้าเสาธง"

เปิดอ่าน 21,255 ครั้ง
10 เรื่องจริงเกี่ยวกับความฝัน ที่คุณอาจไม่เคยรู้
10 เรื่องจริงเกี่ยวกับความฝัน ที่คุณอาจไม่เคยรู้

เปิดอ่าน 12,265 ครั้ง
ตับของเธอ สบายดีไหม?
ตับของเธอ สบายดีไหม?

เปิดอ่าน 25,028 ครั้ง
ขนมถังแตก
ขนมถังแตก

เปิดอ่าน 12,183 ครั้ง
ผงะนมเสียผุดก๊าซพิษร้ายเทียบเท่า"ควันรถ"
ผงะนมเสียผุดก๊าซพิษร้ายเทียบเท่า"ควันรถ"

เปิดอ่าน 13,985 ครั้ง
10 อันตรายทลายโลก จากเทคโนโลยี
10 อันตรายทลายโลก จากเทคโนโลยี

เปิดอ่าน 18,427 ครั้ง
ข้าวกล้องงอก
ข้าวกล้องงอก
เปิดอ่าน 30,610 ครั้ง
ล้างผักผลไม้สะอาดปลอดโรค
ล้างผักผลไม้สะอาดปลอดโรค
เปิดอ่าน 15,890 ครั้ง
การปรับชั่วโมงเรียนภาษาอังกฤษ
การปรับชั่วโมงเรียนภาษาอังกฤษ
เปิดอ่าน 14,166 ครั้ง
PowerPoint ชี้แจงตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางสาระภูมิศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
PowerPoint ชี้แจงตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางสาระภูมิศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
เปิดอ่าน 892 ครั้ง
ผลวิจัยชี้การมีกิจกรรมทางกายทั้งวันธรรมดาและวันหยุด ช่วยลดการเจ็บป่วยโรคหัวใจและสมอง มากถึงร้อยละ 38
ผลวิจัยชี้การมีกิจกรรมทางกายทั้งวันธรรมดาและวันหยุด ช่วยลดการเจ็บป่วยโรคหัวใจและสมอง มากถึงร้อยละ 38

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ