ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีสอนมโนทัศน์เปรียบเทียบกับวิธีสอนปกติ วิชาภาษาไทย เรื่องหลักการใช้ภาษาไทย ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ๔

ชื่อเรื่อง การพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีสอนมโนทัศน์เปรียบเทียบกับวิธีสอนปกติ วิชาภาษาไทย เรื่องหลักการใช้ภาษาไทย

ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ๔

ผู้วิจัย นางสาวดารณีรัตน์ ยูงทอง

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

ปีการศึกษา 2564

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ผู้เรียนมีความเข้าใจเรื่องหลักภาษาและการใช้ภาษาอย่างถูกต้อง 2. ผู้เรียนมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนหลักภาษาและการใช้ภาษา 3. ผู้เรียนสามารถประยุกต์ใช้ความคิดเชิงมโนทัศน์ในการนำหลักการใช้ภาษามาใช้ชีวิตประจำวันได้ โดยใช้วิธีสอนมโนทัศน์เปรียบเทียบกับวิธีสอนปกติ ปกติ วิชาภาษาไทย เรื่องหลักการใช้ภาษาไทย ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ๔ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/7 จำนวน 50 คน เป็นกลุ่มทดลอง และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ๔ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/8 จำนวน 51 คน เป็นกลุ่มควบคุม การสุ่มตัวอย่างเป็นการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็น (Nonprobability sampling) โดยการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive sampling) ระยะเวลาที่ใช้ในการทดลองใช้เวลาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ในระหว่างวันที่ 25 มกราคม – 13 กุมภาพันธ์ 2564 จำนวน 10 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1. แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่องหลักการใช้ภาษาไทยสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องหลักการใช้ภาษาไทย 3. แบบวัดเจตคติวิชาภาษาไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 4. แบบประเมินทักษะพิสัย ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่องหลักการใช้ภาษาไทย สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย (x̄) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การวิเคราะห์ข้อมูลผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มทดลองกับกลุ่มควบคุม โดยทดสอบค่าที (t-test)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้หลังเรียนรู้ เรื่องหลักการใช้ภาษาไทยของนักเรียนทั้งสองกลุ่มนี้แตกต่างกัน แสดงว่าการจัดการเรียนรู้วิธีสอนมโนทัศน์ (Concept Attainment model) ทำให้นักเรียนเข้าใจเรื่องหลักการใช้ภาษาไทย สูงกว่านักเรียนที่เรียนโดยวิธีปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เพราะการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีสอนมโนทัศน์ (Concept Attainment model) นั้นเป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนได้คิด วิเคราะห์ วางแผนการทำงาน และลงมือทำ จึงทำให้ผู้เรียนรู้สึกสนุก และเกิดการใฝ่เรียนนั้นเอง

2. ผลการเปรียบเทียบการเรียนเรื่องหลักการใช้ภาษาไทยด้านทักษะเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มทดลองกับกลุ่มควบคุม พบว่ากลุ่มทดลอง และกลุ่มควบคุมมีทักษะการเรียนในระดับดี ซึ่งกลุ่มทดลอง มีค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 3.01 สูงกว่ากลุ่มควบคุม มีความเฉลี่ยรวม 2.89

3. ผลการเปรียบเทียบเจตคติของนักเรียนกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม พบว่า เจตคติต่อการเรียนวิชาภาษาไทยของกลุ่มทดลองโดยรวมมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนอยู่ในระดับเห็นด้วย มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.22 มากกว่ากลุ่มควบคุม โดยรวมกลุ่มควบคุมมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนอยู่ในระดับไม่แน่ใจ มีค่าเฉลี่ย 4.18

4. ผลความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้วิธีสอนมโนทัศน์ (Concept Attainment model) พบว่าความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้วิธีสอนมโนทัศน์ (Concept Attainment model) โดยรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.57 เมื่อพิจารณารายด้านพบว่าทุกด้านอยู่ในระดับ มากที่สุด

จากผลการวิจัยพบว่าการใช้วิธีสอนมโนทัศน์ (Concept Attainment model) ทำนักเรียนกลุ่มทดลองมีความรู้ความเข้าใจ ในเรื่องหลักการใช้ภาษาไทย เกิดทักษะในการทำงานกลุ่ม และรู้จักวางแผนการทำงาน การทำงานร่วมกันเป็นทีม รู้จักยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น อีกทั้งยังเป็นการสร้างให้ตัวผู้เรียนรู้จักการแสวงหาความรู้ด้วยตนเองอีกด้วย

โพสต์โดย ชมพู : [2 พ.ย. 2566 เวลา 07:13 น.]
อ่าน [2478] ไอพี : 1.0.244.86
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 9,912 ครั้ง
ทางพ้นทุกข์
ทางพ้นทุกข์

เปิดอ่าน 16,585 ครั้ง
มะขามป้อม
มะขามป้อม

เปิดอ่าน 23,757 ครั้ง
นโยบายและมาตรฐานการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษา
นโยบายและมาตรฐานการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษา

เปิดอ่าน 12,207 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาไม่มีวันสำเร็จ ถ้าไม่รื้อรากความงมงาย
ปฏิรูปการศึกษาไม่มีวันสำเร็จ ถ้าไม่รื้อรากความงมงาย

เปิดอ่าน 14,278 ครั้ง
5 สัญญาณโรคร้าย ที่ชายไม่ควรเมิน
5 สัญญาณโรคร้าย ที่ชายไม่ควรเมิน

เปิดอ่าน 56,727 ครั้ง
อัตลักษณ์ของสถานศึกษา คืออะไร จำเป็นอย่างไร
อัตลักษณ์ของสถานศึกษา คืออะไร จำเป็นอย่างไร

เปิดอ่าน 56,020 ครั้ง
คลิปเด็กฝรั่งท่อง ก.ไก่จนจบ น่ารักมากครับ
คลิปเด็กฝรั่งท่อง ก.ไก่จนจบ น่ารักมากครับ

เปิดอ่าน 22,477 ครั้ง
ความหมายของมัลติมีเดีย
ความหมายของมัลติมีเดีย

เปิดอ่าน 10,444 ครั้ง
รถชนประวัติการณ์ 100 คัน ที่เท็กซัส
รถชนประวัติการณ์ 100 คัน ที่เท็กซัส

เปิดอ่าน 18,502 ครั้ง
ชวนคนไทยร่วมใจ ปลูกต้นไม้ถวายพ่อหลวง
ชวนคนไทยร่วมใจ ปลูกต้นไม้ถวายพ่อหลวง

เปิดอ่าน 38,344 ครั้ง
Adjectives (Articles - the )
Adjectives (Articles - the )

เปิดอ่าน 12,902 ครั้ง
7 Thinking method to be genius วิธีคิดอย่างคนเก่ง
7 Thinking method to be genius วิธีคิดอย่างคนเก่ง

เปิดอ่าน 10,581 ครั้ง
พฤติกรรมทำร้ายกระดูกสันหลัง
พฤติกรรมทำร้ายกระดูกสันหลัง

เปิดอ่าน 15,806 ครั้ง
ปวดหลังรักษาอย่างไรดี
ปวดหลังรักษาอย่างไรดี

เปิดอ่าน 29,303 ครั้ง
ประโยชน์ใกล้ตัว พืชผักสวนครัวใกล้บ้าน
ประโยชน์ใกล้ตัว พืชผักสวนครัวใกล้บ้าน

เปิดอ่าน 25,631 ครั้ง
โหมดสี
โหมดสี
เปิดอ่าน 13,178 ครั้ง
สีเสื้อผ้าเสริมดวงประจำวัน
สีเสื้อผ้าเสริมดวงประจำวัน
เปิดอ่าน 3,125 ครั้ง
11 ผลไม้บำรุงผิว ช่วยให้ผิวที่เปล่งปลั่ง และสุขภาพดี
11 ผลไม้บำรุงผิว ช่วยให้ผิวที่เปล่งปลั่ง และสุขภาพดี
เปิดอ่าน 13,518 ครั้ง
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
เปิดอ่าน 10,697 ครั้ง
จิบเครื่องดื่มให้ถูกจังหวะ ก็แก้ปัญหาสุขภาพได้
จิบเครื่องดื่มให้ถูกจังหวะ ก็แก้ปัญหาสุขภาพได้

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ