ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนพิบูลมังสาหาร

ชื่อเรื่อง : การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของ

นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนพิบูลมังสาหาร

ผู้วิจัย : เสาวเพ็ญ บุญประสพ

ปีที่วิจัย : 2565

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนพิบูลมังสาหาร เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development : R&D) มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานของการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ 2) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ 3) ทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ และ 4) ประเมินและปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 116 คน ครูผู้สอนวิชาคณิตศาสตร์ จำนวน 20 คน ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 3 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามข้อมูลพื้นฐาน แบบสัมภาษณ์ แบบบันทึกการสนทนากลุ่ม แบบสอบถามความคิดเห็นของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ แบบประเมินการจัดการเรียนรู้ แบบวัดทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ แบบสอบถามคุณภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ และแบบประเมินความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัย พบว่า

1. ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันของการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ในด้านการวางแผนจัดการเรียนรู้ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ การบริหารจัดการชั้นเรียน และการวัดและประเมินผู้เรียน โดยรวมทั้ง 4 ด้านข้อมูลการปฏิบัติในระดับมาก ส่วนข้อเสนอแนะ อื่น ๆ เพื่อประโยชน์ในการจัดการเรียนรู้ ได้แก่ ผู้เรียนส่วนใหญ่ต้องการเรียนรู้อย่างสนุกสนาน ไม่เครียดเกินไป มีเกมให้เล่น มีสื่อที่ดึงดูดความสนใจ ครูผู้สอนไม่ควรเน้นแผนการจัดการเรียนรู้ มากเกินไป ควรจัดการเรียนรู้แบบไม่มุ่งผลสัมฤทธิ์ บูรณาการการเรียนรู้คณิตศาสตร์กับชีวิตประจำวันให้มากกว่านี้ ปัญหาของการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ผู้เรียนส่วนใหญ่อธิบายว่าเรียนไม่ค่อยสนุก ไม่มีกิจกรรมนอกชั้นเรียน โดยครูจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ในรูปแบบเดิม 3 ขั้น คือ ขั้นนำ ขั้นสอน ขั้นสรุป ครูทุกคนจึงต้องพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ขึ้นมาใช้เอง

2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ประกอบด้วย

2.1 รูปแบบการจัดการเรียนรู้ มี 4 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ แบบ 4SAR Model มี 6 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 สร้างความเข้าใจในสถานการณ์ ขั้นที่ 2 กำหนดแบบแผนการแก้ปัญหา ขั้นที่ 3 คัดสรรวิธีการแก้ปัญหา ขั้นที่ 4 ดำเนินการแก้ปัญหา ขั้นที่ 5 ประเมินผลและประยุกต์ใช้ และขั้นที่ 6 สะท้อนการเรียนรู้และเชื่อมโยง และ 4) ปัจจัยสนับสนุนขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ มี 4 ปัจจัย คือ ปัจจัยที่ 1 ครู ผู้เรียนร่วมสร้างองค์ความรู้ ปัจจัยที่ 2 บูรณาการเนื้อหากับสื่อเทคโนโลยีผนวกวิธีสอน (TPACK) ปัจจัยที่ 3 บริหารจัดการชั้นเรียนแบบมืออาชีพ และปัจจัยที่ 4 เชื่อมโยงสถานการณ์และบริบทชีวิตจริง

2.2 ผลการสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และการใช้ประโยชน์ของรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ แบบ “4SAR Model” โดยรวมทั้ง 4 องค์ประกอบมีระดับความคิดเห็นในระดับมาก ( = 4.18, S.D. = 0.65)

3. การทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์

3.1 ผลการประเมินการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ โดยรวมมีระดับพฤติกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกับความสนใจและความคาดหวัง ความกระตือรือร้นและการตอบสนอง การมีส่วนร่วมและการนำไปใช้ ในระดับมาก ( = 3.91, S.D. = 0.57)

3.2 ทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ โดยรวมมีความสามารถในการแก้ปัญหาในระดับมาก ( = 4.16, S.D. = 0.72)

4. การประเมินและปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์

4.1 คุณภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ โดยรวมทั้ง 4 องค์ประกอบมีคุณภาพอยู่ในระดับมาก ( = 4.32, S.D. = 0.62)

4.2 ความพึงพอใจของรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทาง

คณิตศาสตร์ โดยรวมมีความพึงพอใจเกี่ยวกับประโยชน์ต่อการเรียนรู้ในชั้นเรียน และการนำไปใช้ในสถานการณ์จริงในระดับมาก ( = 4.27, S.D. = 0.62)

โพสต์โดย ภคพร สารรักษ์ : [22 ต.ค. 2566 เวลา 15:19 น.]
อ่าน [2842] ไอพี : 223.205.229.107
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,125 ครั้ง
5 พฤติกรรมสุดฮิตของคนติด LINE ฉบับขายหัวเราะ ดูกันหรือยังครับ?
5 พฤติกรรมสุดฮิตของคนติด LINE ฉบับขายหัวเราะ ดูกันหรือยังครับ?

เปิดอ่าน 9,713 ครั้ง
ปัญหาทั่วไปในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่และวิธีการแก้ไข
ปัญหาทั่วไปในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่และวิธีการแก้ไข

เปิดอ่าน 12,628 ครั้ง
6 เหตุผลน่าแปลกใจ ทำไมถึงนอนไม่หลับ
6 เหตุผลน่าแปลกใจ ทำไมถึงนอนไม่หลับ

เปิดอ่าน 51,238 ครั้ง
ประโยชน์ "คาเฟอีน" ในกาแฟ
ประโยชน์ "คาเฟอีน" ในกาแฟ

เปิดอ่าน 15,831 ครั้ง
วิธีแก้อาการอ่อนเพลีย หลังเดินทาง
วิธีแก้อาการอ่อนเพลีย หลังเดินทาง

เปิดอ่าน 17,267 ครั้ง
TEPE Online มีอะไรดีๆ เยอนะ รู้จักกันหรือยัง?
TEPE Online มีอะไรดีๆ เยอนะ รู้จักกันหรือยัง?

เปิดอ่าน 3,150 ครั้ง
"ไซยาไนด์" คืออะไร อันตรายแค่ไหน
"ไซยาไนด์" คืออะไร อันตรายแค่ไหน

เปิดอ่าน 16,665 ครั้ง
6 ข้อดีของการพาลูกไปที่ทำงาน
6 ข้อดีของการพาลูกไปที่ทำงาน

เปิดอ่าน 10,315 ครั้ง
รู้เรา รู้ใคร... จากนิสัยท่องเที่ยว
รู้เรา รู้ใคร... จากนิสัยท่องเที่ยว

เปิดอ่าน 10,006 ครั้ง
ล้างพิษลำไส้ใหญ่ กากใยอาหารจากธรรมชาติช่วยคุณได้
ล้างพิษลำไส้ใหญ่ กากใยอาหารจากธรรมชาติช่วยคุณได้

เปิดอ่าน 28,016 ครั้ง
แนวคิดในการแรเงาน้ำหนัก
แนวคิดในการแรเงาน้ำหนัก

เปิดอ่าน 16,328 ครั้ง
ถอดบทเรียนปฏิรูปการศึกษาเวียดนาม ทำอย่างไรถึงสำเร็จ
ถอดบทเรียนปฏิรูปการศึกษาเวียดนาม ทำอย่างไรถึงสำเร็จ

เปิดอ่าน 18,630 ครั้ง
5 กิจวัตรที่คนประสบความสำเร็จมักทำก่อน 8 โมงเช้า
5 กิจวัตรที่คนประสบความสำเร็จมักทำก่อน 8 โมงเช้า

เปิดอ่าน 62,878 ครั้ง
การอ่านแบบ  Skimming
การอ่านแบบ Skimming

เปิดอ่าน 23,559 ครั้ง
ชาญี่ปุ่น หรือชาอังกฤษใครมีประโยชน์กว่ากัน
ชาญี่ปุ่น หรือชาอังกฤษใครมีประโยชน์กว่ากัน

เปิดอ่าน 16,234 ครั้ง
อีกมุมของ "น้ำมันปลา"
อีกมุมของ "น้ำมันปลา"
เปิดอ่าน 21,534 ครั้ง
เทคนิคปลดหนี้ที่ควรรู้ หมดหนี้สินไว ๆ ต้องทำตามนี้
เทคนิคปลดหนี้ที่ควรรู้ หมดหนี้สินไว ๆ ต้องทำตามนี้
เปิดอ่าน 16,649 ครั้ง
งานนมัสการองค์พระธาตุพนม
งานนมัสการองค์พระธาตุพนม
เปิดอ่าน 10,868 ครั้ง
ระวังเชื้อก่อโรคในน้ำแข็ง
ระวังเชื้อก่อโรคในน้ำแข็ง
เปิดอ่าน 18,398 ครั้ง
ฮือฮา นักดาราศาสตร์เผย ปรากฎชื่อ 7 อำเภอไทยบนหลุมดาวอังคาร
ฮือฮา นักดาราศาสตร์เผย ปรากฎชื่อ 7 อำเภอไทยบนหลุมดาวอังคาร

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ