ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

การพัฒนารูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 4) เพื่อประเมินรูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาผลการทดลองใช้และประเมินการจัดการเรียนรู้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนประทาย ซึ่งได้จากวิธีการสุ่มแบบเป็นกลุ่ม โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม (Sampling unit) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ 1) รูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) คู่มือการใช้รูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4) แบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์ 5) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 6) แบบประเมินรูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ การทดสอบค่าที (t-test) และการวิเคราะห์เนื้อหา

สรุปผลการวิจัย

1. ข้อมูลพื้นฐานสำหรับรูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ดังนี้

1.1 การศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานเชิงนโยบายการจัดการศึกษาโดยการวิเคราะห์มาตรฐานและตัวชี้วัดของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนกลุ่มสาระภาษาไทย แล้วพบว่า ควรพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะในการอ่าน ซึ่งเป็นทักษะพื้นฐานในการเรียนรู้ในด้านอื่นๆ ผู้เรียนต้องมีความเข้าใจในเรื่องที่อ่านควรจัดกิจกรรมให้ครอบคลุมทั้งในเรื่ององค์ความรู้ ทักษะกระบวนการ ควบคู่กับเรื่องของคุณธรรมจริยธรรม โดยเป้าหมายของการจัดการเรียนรู้ คือ การพัฒนาความสามารถในการเรียนรู้ของผู้เรียน การคิดวิเคราะห์ และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน มีกิจกรรมที่เป็นการส่งเสริมความสามารถในการเรียนรู้ และการปฏิบัติกระบวนการส่งเสริมการอ่าน การวิเคราะห์ การสังเคราะห์ ตีความ สรุปความที่อ่าน สรุปและนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ครูผู้สอนออกแบบการเรียนการสอนเชิงระบบ การจัดกิจกรรมที่คำนึงถึงสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คือการส่งเสริมความสามารถในการคิดโดยเฉพาะการคิดวิเคราะห์ซึ่งสัมพันธ์โดยตรงกับสาระการอ่าน พัฒนาผู้เรียนให้ครอบคลุมทั้งในเรื่ององค์ความรู้ ทักษะกระบวนการ ควบคู่กับเรื่องของคุณธรรมจริยธรรม โดยเป้าหมายของการจัดการเรียนรู้ คือ มีทักษะในการอ่าน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ให้กับผู้เรียน

1.2 ศึกษาแนวคิด ทฤษฎี สาระสำคัญ งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนารูปแบบ มีองค์ประกอบที่เหมาะสมและสอดคล้องกับการพัฒนารูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีองค์ประกอบที่เหมาะสมและสอดคล้อง นำมาพัฒนาข้อมูลพื้นฐานสำหรับรูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่สำคัญคือ การจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ การสอนอ่านโดยใช้เทคนิค SQ4R และความสามารถในการการคิดวิเคราะห์ พบว่า องค์ประกอบของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ คือ 1.แนวคิดทฤษฎีพื้นฐาน 2.วัตถุประสงค์ 3. กระบวนการจัดการเรียนรู้ 4. ระบบสังคม 5. การวัดประเมินผล 6. สิ่งสนับสนุนอำนวยความสะดวก

1.3 ศึกษาเอกสาร ทฤษฎี แนวทางการการสอนอ่านจับใจความ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จากการศึกษาแนวคิด ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ การจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค SQ4R และความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ได้รูปแบบ PSPKS Model ดังนี้คือ ขั้นที่ 1 ขั้นจุดประกายอยากรู้ (Spark) ขั้นที่ 2 ขั้นเพิ่มข้อมูลใหม่ (Update) ขั้นที่ 3 ขั้นฝึกปฏิบัติ (Practice) ขั้นที่ 4 ขั้นผนวกความรู้ (Including) ขั้นที่ 5 ขั้นสรุปความรู้ใหม่ (New Knowledge) และ ขั้นที่ 6 ขั้นการถ่ายโอนความรู้ (Transfer learning)

1.4 สภาพการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง มีค่าเฉลี่ย (x̄) เท่ากับ 3.46 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.67 และสภาพการจัดการเรียนการสอนภาษาไทย เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ของครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ในองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา กลุ่มที่ 6 มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง มีค่าเฉลี่ย (x̄) เท่ากับ 3.59 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.57

1.5 ครูมีความต้องการในการจัดการเรียนรู้เทคโนโลยีสารสนเทศ เน้นการฝึกทักษะการฟังพูดอ่านและเขียน จากกระบวนการเรียนรู้และสร้างองค์ความรู้ โดยผ่านกระบวนการฝึกปฏิบัติ การฝึกทักษะทางภาษาของนักเรียน เพื่อค้นพบองค์ความรู้และปฏิบัติจริงได้ ก็จะนำไปสู่การปรับใช้ในชีวิตประจำวัน จึงต้องการ สร้างและพัฒนาการ จัดกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาไทย ที่มุ่งเน้นให้ ฝึกการฟัง พูด อ่าน และเขียนโดยผ่านการแสวงหาความรู้ การฝึกปฏิบัติ ทั้งรายบุคคลและรายกลุ่มเพื่อให้เกิดทักษะการคิดวิเคราะห์ และฝึกให้นักเรียนมีความเป็นผู้นำ ผู้ตามที่ดี ส่งเสริมความสามารถในการสื่อสารซึ่งเป็นการส่งผลให้เกิดสมรรถนะในการสื่อสารซึ่งจะส่งผลให้ผู้เรียนเป็นผู้ที่มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21

1.6 หลักการพัฒนารูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จากผู้เชี่ยวชาญ พบว่า หลักการพัฒนารูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ควรจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เกิดจากการฝึกอ่านตามกระบวนการอ่านจับใจความสำคัญ การตีความ ความวิเคราะห์ความ การเชื่อมโยงเปรียบเทียบ โดยเน้นการอ่านแล้วเกิดทักษะการคิดวิเคราะห์และการแสวงหาความรู้เพิ่มเติมจากเรื่องที่อ่านและการนำความรู้หรือทักษะในการอ่านจากห้องเรียนไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้ ที่ฝึกให้นักเรียนได้อ่านเรื่อง ภาพข่าว บทความ สารคดี วรรณคดี นิทาน สถานการณ์ โดยในขั้นตอนการฝึกอ่านนี้ต้องสอดคล้องกับสิ่งที่ต้องการพัฒนาคือ การพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ในประเด็นดังนี้ คือ 1. กำหนดความสำคัญของเรื่อง 2. เชื่อมโยงความสัมพันธ์ของเรื่อง 3. สรุปหลักการของเรื่อง

2. ผลการสร้างและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ดังนี้

2.1 รูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ผ่านการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญ มีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย (x̄) เท่ากับ 4.81 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.33

2.2 ผลการประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ผ่านการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญ มีความเหมาะสม อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย (x̄) เท่ากับ 4.80 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.26

2.3 ผลการหาประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า ทดลองใช้กับนักเรียนแบบเดี่ยว (1:1) จำนวน 3 คน ประสิทธิภาพของรูปแบบ มีค่าเท่ากับ 79.33/78.89 แบบกลุ่ม (1:10) จำนวน 9 คน ประสิทธิภาพของรูปแบบ มีค่าเท่ากับ 80.89/80.00แบบภาคสนาม 1:100 จำนวน 30 คน ประสิทธิภาพของรูปแบบ มีค่าเท่ากับมีค่าเท่ากับ 81.27/80.22 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80

3. ผลการใช้รูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ดังนี้

3.1 ประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเท่ากับ 82.33/82.13

3.2 การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ของนักเรียนที่ได้เรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3.3 การเปรียบเทียบความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนที่ได้เรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3.4 นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการรู้ตามรูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย (x-bae) เท่ากับ 4.81 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.41

4. ผลการประเมินรูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย (x̄) 4.81 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.40 ซึ่งผลการประเมินเมื่อเทียบกับเกณฑ์ โดยรวม ผ่าน

โพสต์โดย susu : [16 ต.ค. 2566 เวลา 14:15 น.]
อ่าน [2454] ไอพี : 27.145.216.254
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,478 ครั้ง
ทุกข์ที่สุด จะหลุดได้อย่างไร
ทุกข์ที่สุด จะหลุดได้อย่างไร

เปิดอ่าน 42,056 ครั้ง
"หัวใจเต้นผิดจังหวะ" แค่ตื่นเต้นหรือป่วย
"หัวใจเต้นผิดจังหวะ" แค่ตื่นเต้นหรือป่วย

เปิดอ่าน 161,210 ครั้ง
รุ่นต่างๆ ของมวยสากลสมัครเล่น
รุ่นต่างๆ ของมวยสากลสมัครเล่น

เปิดอ่าน 15,485 ครั้ง
ดังใหญ่! คลิปล้อ iron man 3 ของแก๊งเฟดเฟ่ ฮาแล้วทั่วโลก
ดังใหญ่! คลิปล้อ iron man 3 ของแก๊งเฟดเฟ่ ฮาแล้วทั่วโลก

เปิดอ่าน 16,807 ครั้ง
วิธีเช็คไฟฟ้าแบบง่าย ๆ
วิธีเช็คไฟฟ้าแบบง่าย ๆ

เปิดอ่าน 37,765 ครั้ง
ระบบการเรียนการสอนของบริกส์ (Briggs Model)
ระบบการเรียนการสอนของบริกส์ (Briggs Model)

เปิดอ่าน 18,688 ครั้ง
คาร์ล เบนซ์ เป็นผู้ให้กำเนิดรถยนตร์คันแรกของโลก
คาร์ล เบนซ์ เป็นผู้ให้กำเนิดรถยนตร์คันแรกของโลก

เปิดอ่าน 19,570 ครั้ง
มโนทัศน์ของเทคโนโลยีการศึกษา
มโนทัศน์ของเทคโนโลยีการศึกษา

เปิดอ่าน 21,798 ครั้ง
1-10 สุดยอดสิ่งประดิษฐ์ของดาวินชี่
1-10 สุดยอดสิ่งประดิษฐ์ของดาวินชี่

เปิดอ่าน 26,780 ครั้ง
ใช้ยานอนหลับกับข้อควรระวัง
ใช้ยานอนหลับกับข้อควรระวัง

เปิดอ่าน 14,712 ครั้ง
"5 บ่วงอันตราย" เตือนคนทำงานมือใหม่ อย่าตกหล่ม !!
"5 บ่วงอันตราย" เตือนคนทำงานมือใหม่ อย่าตกหล่ม !!

เปิดอ่าน 7,067 ครั้ง
ว่ากันว่า นี่คือจุดจบของคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เมื่อมีเจ้านี่!! คอมพิวเตอร์ที่เสียบเข้าทีวีใช้ได้เลย
ว่ากันว่า นี่คือจุดจบของคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เมื่อมีเจ้านี่!! คอมพิวเตอร์ที่เสียบเข้าทีวีใช้ได้เลย

เปิดอ่าน 4,871 ครั้ง
กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการให้คุณให้โทษ และสร้างขวัญกำลังใจข้าราชการ
กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการให้คุณให้โทษ และสร้างขวัญกำลังใจข้าราชการ

เปิดอ่าน 54,102 ครั้ง
การขอขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
การขอขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ

เปิดอ่าน 1,368 ครั้ง
7 พิกัดที่เที่ยวเชียงราย เที่ยวง่ายๆ เที่ยวได้ทั้งปี
7 พิกัดที่เที่ยวเชียงราย เที่ยวง่ายๆ เที่ยวได้ทั้งปี

เปิดอ่าน 40,640 ครั้ง
ธุรกิจออนไลน์ที่น่าลงทุนในปี 2020 สำหรับสร้างรายได้เสริม
ธุรกิจออนไลน์ที่น่าลงทุนในปี 2020 สำหรับสร้างรายได้เสริม
เปิดอ่าน 10,989 ครั้ง
เตือนผู้ป่วยเบาหวานหมั่นตรวจตา ลดความเสี่ยงตาบอด
เตือนผู้ป่วยเบาหวานหมั่นตรวจตา ลดความเสี่ยงตาบอด
เปิดอ่าน 16,968 ครั้ง
5 วิธีป้องกัน ไวรัสคอมพิวเตอร์ แบบง่าย ๆ
5 วิธีป้องกัน ไวรัสคอมพิวเตอร์ แบบง่าย ๆ
เปิดอ่าน 10,197 ครั้ง
ราชภัฏมหาวิทยาลัยในศตวรรษที่ 21
ราชภัฏมหาวิทยาลัยในศตวรรษที่ 21
เปิดอ่าน 85,149 ครั้ง
ประชาธิปไตย คืออะไร
ประชาธิปไตย คืออะไร

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ