การพัฒนารูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 4) เพื่อประเมินรูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาผลการทดลองใช้และประเมินการจัดการเรียนรู้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนประทาย ซึ่งได้จากวิธีการสุ่มแบบเป็นกลุ่ม โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม (Sampling unit) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ 1) รูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) คู่มือการใช้รูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4) แบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์ 5) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 6) แบบประเมินรูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ การทดสอบค่าที (t-test) และการวิเคราะห์เนื้อหา
สรุปผลการวิจัย
1. ข้อมูลพื้นฐานสำหรับรูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ดังนี้
1.1 การศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานเชิงนโยบายการจัดการศึกษาโดยการวิเคราะห์มาตรฐานและตัวชี้วัดของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนกลุ่มสาระภาษาไทย แล้วพบว่า ควรพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะในการอ่าน ซึ่งเป็นทักษะพื้นฐานในการเรียนรู้ในด้านอื่นๆ ผู้เรียนต้องมีความเข้าใจในเรื่องที่อ่านควรจัดกิจกรรมให้ครอบคลุมทั้งในเรื่ององค์ความรู้ ทักษะกระบวนการ ควบคู่กับเรื่องของคุณธรรมจริยธรรม โดยเป้าหมายของการจัดการเรียนรู้ คือ การพัฒนาความสามารถในการเรียนรู้ของผู้เรียน การคิดวิเคราะห์ และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน มีกิจกรรมที่เป็นการส่งเสริมความสามารถในการเรียนรู้ และการปฏิบัติกระบวนการส่งเสริมการอ่าน การวิเคราะห์ การสังเคราะห์ ตีความ สรุปความที่อ่าน สรุปและนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ครูผู้สอนออกแบบการเรียนการสอนเชิงระบบ การจัดกิจกรรมที่คำนึงถึงสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คือการส่งเสริมความสามารถในการคิดโดยเฉพาะการคิดวิเคราะห์ซึ่งสัมพันธ์โดยตรงกับสาระการอ่าน พัฒนาผู้เรียนให้ครอบคลุมทั้งในเรื่ององค์ความรู้ ทักษะกระบวนการ ควบคู่กับเรื่องของคุณธรรมจริยธรรม โดยเป้าหมายของการจัดการเรียนรู้ คือ มีทักษะในการอ่าน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ให้กับผู้เรียน
1.2 ศึกษาแนวคิด ทฤษฎี สาระสำคัญ งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนารูปแบบ มีองค์ประกอบที่เหมาะสมและสอดคล้องกับการพัฒนารูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีองค์ประกอบที่เหมาะสมและสอดคล้อง นำมาพัฒนาข้อมูลพื้นฐานสำหรับรูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่สำคัญคือ การจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ การสอนอ่านโดยใช้เทคนิค SQ4R และความสามารถในการการคิดวิเคราะห์ พบว่า องค์ประกอบของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ คือ 1.แนวคิดทฤษฎีพื้นฐาน 2.วัตถุประสงค์ 3. กระบวนการจัดการเรียนรู้ 4. ระบบสังคม 5. การวัดประเมินผล 6. สิ่งสนับสนุนอำนวยความสะดวก
1.3 ศึกษาเอกสาร ทฤษฎี แนวทางการการสอนอ่านจับใจความ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จากการศึกษาแนวคิด ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ การจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค SQ4R และความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ได้รูปแบบ PSPKS Model ดังนี้คือ ขั้นที่ 1 ขั้นจุดประกายอยากรู้ (Spark) ขั้นที่ 2 ขั้นเพิ่มข้อมูลใหม่ (Update) ขั้นที่ 3 ขั้นฝึกปฏิบัติ (Practice) ขั้นที่ 4 ขั้นผนวกความรู้ (Including) ขั้นที่ 5 ขั้นสรุปความรู้ใหม่ (New Knowledge) และ ขั้นที่ 6 ขั้นการถ่ายโอนความรู้ (Transfer learning)
1.4 สภาพการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง มีค่าเฉลี่ย (x̄) เท่ากับ 3.46 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.67 และสภาพการจัดการเรียนการสอนภาษาไทย เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ของครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ในองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา กลุ่มที่ 6 มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง มีค่าเฉลี่ย (x̄) เท่ากับ 3.59 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.57
1.5 ครูมีความต้องการในการจัดการเรียนรู้เทคโนโลยีสารสนเทศ เน้นการฝึกทักษะการฟังพูดอ่านและเขียน จากกระบวนการเรียนรู้และสร้างองค์ความรู้ โดยผ่านกระบวนการฝึกปฏิบัติ การฝึกทักษะทางภาษาของนักเรียน เพื่อค้นพบองค์ความรู้และปฏิบัติจริงได้ ก็จะนำไปสู่การปรับใช้ในชีวิตประจำวัน จึงต้องการ สร้างและพัฒนาการ จัดกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาไทย ที่มุ่งเน้นให้ ฝึกการฟัง พูด อ่าน และเขียนโดยผ่านการแสวงหาความรู้ การฝึกปฏิบัติ ทั้งรายบุคคลและรายกลุ่มเพื่อให้เกิดทักษะการคิดวิเคราะห์ และฝึกให้นักเรียนมีความเป็นผู้นำ ผู้ตามที่ดี ส่งเสริมความสามารถในการสื่อสารซึ่งเป็นการส่งผลให้เกิดสมรรถนะในการสื่อสารซึ่งจะส่งผลให้ผู้เรียนเป็นผู้ที่มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21
1.6 หลักการพัฒนารูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จากผู้เชี่ยวชาญ พบว่า หลักการพัฒนารูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ควรจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เกิดจากการฝึกอ่านตามกระบวนการอ่านจับใจความสำคัญ การตีความ ความวิเคราะห์ความ การเชื่อมโยงเปรียบเทียบ โดยเน้นการอ่านแล้วเกิดทักษะการคิดวิเคราะห์และการแสวงหาความรู้เพิ่มเติมจากเรื่องที่อ่านและการนำความรู้หรือทักษะในการอ่านจากห้องเรียนไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้ ที่ฝึกให้นักเรียนได้อ่านเรื่อง ภาพข่าว บทความ สารคดี วรรณคดี นิทาน สถานการณ์ โดยในขั้นตอนการฝึกอ่านนี้ต้องสอดคล้องกับสิ่งที่ต้องการพัฒนาคือ การพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ในประเด็นดังนี้ คือ 1. กำหนดความสำคัญของเรื่อง 2. เชื่อมโยงความสัมพันธ์ของเรื่อง 3. สรุปหลักการของเรื่อง
2. ผลการสร้างและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ดังนี้
2.1 รูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ผ่านการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญ มีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย (x̄) เท่ากับ 4.81 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.33
2.2 ผลการประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ผ่านการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญ มีความเหมาะสม อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย (x̄) เท่ากับ 4.80 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.26
2.3 ผลการหาประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า ทดลองใช้กับนักเรียนแบบเดี่ยว (1:1) จำนวน 3 คน ประสิทธิภาพของรูปแบบ มีค่าเท่ากับ 79.33/78.89 แบบกลุ่ม (1:10) จำนวน 9 คน ประสิทธิภาพของรูปแบบ มีค่าเท่ากับ 80.89/80.00แบบภาคสนาม 1:100 จำนวน 30 คน ประสิทธิภาพของรูปแบบ มีค่าเท่ากับมีค่าเท่ากับ 81.27/80.22 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80
3. ผลการใช้รูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ดังนี้
3.1 ประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเท่ากับ 82.33/82.13
3.2 การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ของนักเรียนที่ได้เรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3.3 การเปรียบเทียบความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนที่ได้เรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3.4 นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการรู้ตามรูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย (x-bae) เท่ากับ 4.81 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.41
4. ผลการประเมินรูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ SUPINT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย (x̄) 4.81 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.40 ซึ่งผลการประเมินเมื่อเทียบกับเกณฑ์ โดยรวม ผ่าน