ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับ เทคนิคการแก้ปัญหาของโพลยา เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ เรื่อง งานและพลังงาน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับ

เทคนิคการแก้ปัญหาของโพลยา เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้

โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ เรื่อง งานและพลังงาน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

ผู้วิจัย นายเพชรยันต์ พนมวนาภิรัต

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

หน่วยงาน โรงเรียนพิบูลมังสาหาร สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี

ปีที่จัดทำ 2565

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับเทคนิคการแก้ปัญหาของโพลยา เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ เรื่อง งานและพลังงาน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 2) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้รูปแบบใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับเทคนิคการแก้ปัญหาของโพลยา เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ เรื่อง งานและพลังงาน โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ครั้งนี้คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนพิบูลมังสาหาร อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) จำนวน 2 ห้องเรียน และสุ่มอย่างง่ายด้วยวิธีการจับฉลาก (Simple Random Sampling) เป็น (กลุ่มทดลอง) จำนวน 40 คน และ (กลุ่มควบคุม) จำนวน 40 คน โดยเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ 1) คู่มือประกอบกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับเทคนิคการแก้ปัญหาของโพลยา เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ เรื่อง งานและพลังงาน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ เรื่อง งานและพลังงาน (ก่อนและหลังเรียนน) 3) แบบทดสอบวัดทักษะการแก้โจทย์ปัญหาวิชาฟิสิกส์ เรื่อง งานและพลังงาน (ก่อนและหลังเรียนน) 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับเทคนิคการแก้ปัญหาของโพลยา เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ เรื่อง งานและพลังงาน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (𝑥̅), ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.), ค่าประสิทธิภาพของกระบวนการ (E1/E2), ค่าดัชนีประสิทธิผล (E.I.), ค่าทดสอบความแตกต่างของข้อมูล หรือค่าที (t) โดยใช้ Dependent sample t-test (Paired samples t-test) เปรียบเทียบคะแนน ก่อนและหลังเรียน ภายในกลุ่มตัวอย่างเดียวกันและ Independent sample t-test เพื่อเปรียบเทียบคะแนนก่อนและหลังเรียน ของกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม, ค่าความน่าจะเป็นเพื่อใช้ทดสอบ ระดับนัยสำคัญ (Sig.) ระหว่างกลุ่มทดลองกับกลุ่มควบคุม โดย (กลุ่มทดลอง) หมายถึง กลุ่มนักเรียนที่ผ่านการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับเทคนิคการแก้ปัญหาของโพลยา เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ เรื่อง งานและพลังงาน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ (กลุ่มควบคุม) หมายถึง กลุ่มนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบปกติ

ผลการวิจัยพบว่า 1) การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับเทคนิค การแก้ปัญหาของโพลยา เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ เรื่อง งานและพลังงาน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จากการศึกษาเอกสาร หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 (ปรับปรุง 2560) การจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เทคนิคการแก้ปัญหาของโพลยา จิตวิทยาที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น สามารถพัฒนาเป็นขั้นการจัดการเรียนรู้ได้ ดังนี้ 1. ขั้นทำความเข้าใจปัญหา (Brainstorm) 2. ขั้นกำหนดแนวทางในการแก้ปัญหา (Analyzing the problem) 3. ขั้นลงมือปฏิบัติ (Formulating learning and Self-study) 4. ขั้นตรวจสอบผลลัพธ์และสรุปคำตอบ (Looking back and results) 5. ขั้นเชื่อมโยงความรู้ (Connectivism) 6. ประเมินผลการเรียนรู้ (Evaluate of learning) 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังผ่านการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับเทคนิค การแก้ปัญหาของโพลยา ฯ (กลุ่มทดลอง) มีค่าสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05, ค่าประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับเทคนิคการแก้ปัญหาของโพลยา ฯ (E1/E2) เท่ากับ 80.04/84.13 ซึ่งมีค่าสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 แสดงให้เห็นว่า การจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับเทคนิคการแก้ปัญหาของโพลยา ฯ มีประสิทธิภาพเหมาะสมที่จะนำมาใช้ในการจัดการเรียน การสอน, ค่าดัชนีประสิทธิผล (E.I.) ในการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับเทคนิคการแก้ปัญหาของโพลยา ฯ มีค่าเท่ากับ 0.753 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 0.50 แสดงให้เห็นว่า การจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับเทคนิคการแก้ปัญหาของโพลยา ฯ ทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 75.30 ซึ่งเหมาะสมที่จะนำมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน 3) ความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ของนักเรียนหลังผ่านการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับเทคนิคการแก้ปัญหาของโพลยา ฯ (กลุ่มทดลอง) มีค่าสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4) ผลการเปรียบเทียบความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของ (กลุ่มทดลอง) และ (กลุ่มควบคุม) หลังเรียน พบว่า (กลุ่มทดลอง) มีการพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหา และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงกว่า (กลุ่มควบคุม) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 5) ความพึงพอใจของ (กลุ่มทดลอง) และ (กลุ่มควบคุม) หลังเรียน พบว่า (กลุ่มทดลอง) มีความพึงพอใจอยู่ในระดับ “พึงพอใจมาก” และมีค่าสูงกว่า (กลุ่มควบคุม) อีกด้วย

โพสต์โดย อ๊อฟ : [14 ต.ค. 2566 เวลา 13:25 น.]
อ่าน [2999] ไอพี : 27.55.76.134
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 14,859 ครั้ง
ลี กวน ยู บุรุษผู้ยิ่งใหญ่
ลี กวน ยู บุรุษผู้ยิ่งใหญ่

เปิดอ่าน 43,049 ครั้ง
30 สุดยอดอาหาร ที่เป็นยาดีต่อสุขภาพ
30 สุดยอดอาหาร ที่เป็นยาดีต่อสุขภาพ

เปิดอ่าน 11,137 ครั้ง
"แบคทีเรีย" ลดพุงได้จริงหรือ?
"แบคทีเรีย" ลดพุงได้จริงหรือ?

เปิดอ่าน 79,197 ครั้ง
รู้ยังหมากัดคน บางกรณีฟ้องเจ้าของหมาไม่ได้นะ
รู้ยังหมากัดคน บางกรณีฟ้องเจ้าของหมาไม่ได้นะ

เปิดอ่าน 76,748 ครั้ง
เกณฑ์วิทยฐานะใหม่
เกณฑ์วิทยฐานะใหม่

เปิดอ่าน 8,897 ครั้ง
How To ทำวิทยฐานะแบบใหม่
How To ทำวิทยฐานะแบบใหม่

เปิดอ่าน 12,362 ครั้ง
กระชับรูขุมขนด้วยน้ำแข็ง
กระชับรูขุมขนด้วยน้ำแข็ง

เปิดอ่าน 9,003 ครั้ง
แผนการขับเคลื่อนกรอบคุณวุฒิแห่งชาติสู่การปฏิบัติ
แผนการขับเคลื่อนกรอบคุณวุฒิแห่งชาติสู่การปฏิบัติ

เปิดอ่าน 41,018 ครั้ง
ยิมนาสติก
ยิมนาสติก

เปิดอ่าน 8,695 ครั้ง
หนุ่มดวงแข็งที่สุดในสามโลก รถตกตึก ยังลุกขึ้นมาเดินเฉย
หนุ่มดวงแข็งที่สุดในสามโลก รถตกตึก ยังลุกขึ้นมาเดินเฉย

เปิดอ่าน 10,746 ครั้ง
7 วิธี เอาชนะริ้วรอย
7 วิธี เอาชนะริ้วรอย

เปิดอ่าน 16,583 ครั้ง
8 เทคนิครักษาดอกกุหลาบให้อยู่ได้นานขึ้น
8 เทคนิครักษาดอกกุหลาบให้อยู่ได้นานขึ้น

เปิดอ่าน 55,786 ครั้ง
เทคโนโลยีสารสนเทศกับการปฏิรูปการศึกษา
เทคโนโลยีสารสนเทศกับการปฏิรูปการศึกษา

เปิดอ่าน 15,069 ครั้ง
นอนหลับท่าไหนดีที่สุด
นอนหลับท่าไหนดีที่สุด

เปิดอ่าน 4,335 ครั้ง
"ใส่ซองเท่าไหร่ดี" ปัญหานี้มีตัวช่วย TypeThai เครื่องช่วยคำนวณเงินใส่ซองให้เหมาะสมกับงานและฐานะตัวเอง
"ใส่ซองเท่าไหร่ดี" ปัญหานี้มีตัวช่วย TypeThai เครื่องช่วยคำนวณเงินใส่ซองให้เหมาะสมกับงานและฐานะตัวเอง

เปิดอ่าน 16,905 ครั้ง
นางสงกรานต์ปี 2558 ชื่อ "รากษสเทวี"
นางสงกรานต์ปี 2558 ชื่อ "รากษสเทวี"
เปิดอ่าน 16,190 ครั้ง
เคราะห์ซ้ำกรรมซัด "SCB-สถาบันการศึกษา"
เคราะห์ซ้ำกรรมซัด "SCB-สถาบันการศึกษา"
เปิดอ่าน 10,418 ครั้ง
รู้เรา รู้ใคร... จากนิสัยท่องเที่ยว
รู้เรา รู้ใคร... จากนิสัยท่องเที่ยว
เปิดอ่าน 30,573 ครั้ง
ระบบเลือดไหลเวียน
ระบบเลือดไหลเวียน
เปิดอ่าน 14,135 ครั้ง
วันนี้คุณบำรุงผิวหน้าด้วยอโลเวร่าหรือยัง ?
วันนี้คุณบำรุงผิวหน้าด้วยอโลเวร่าหรือยัง ?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ