ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์และการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน

ชื่อวิจัย การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์ และการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผู้วิจัย กัลตีมี อาซัน ปีที่วิจัย 2565

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการ เรียนการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์และการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะ การคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอน วิทยาศาสตร์ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์และการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์และการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 4) เพื่อประเมินรูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวคิด คอนสตรัคติวิสต์และการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ วิธีดำเนินการวิจัย ใช้รูปแบบการวิจัยและพัฒนา (R&D) มี 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูล พื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์ และการเรียนรู้แบบร่วมมือ ขั้นตอนที่ 2 การสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอน วิทยาศาสตร์ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์และการเรียนรู้แบบร่วมมือ ขั้นตอนที่ 3 การนำรูปแบบ การจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์และการเรียนรู้แบบร่วมมือ และ ขั้นตอนที่ 4 การประเมินรูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์ และการเรียนรู้แบบร่วมมือ กลุ่มตัวอย่างในครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียน บ้านปูโป๊ะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 27 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบสอบถาม 2) คู่มือการใช้รูปแบบ 3) แผนการจัดการเรียนรู้ 4) แบบทดสอบวัดทักษะการคิดวิเคราะห์ และ5) แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (t - test แบบ Dependent Samples) และการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ตาม แนวคิดคอนสตรัคติวิสต์และการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 5 มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก ข้อที่มีการปฏิบัติในระดับมากที่สุด คือ มีการส่งเสริม ทักษะการคิดวิเคราะห์ไปพร้อมกับเนื้อหาที่เรียน และมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อพัฒนา ทักษะการคิดวิเคราะห์ ส่วนข้อที่มีการปฏิบัติในระดับน้อยสุด คือ ฝึกให้ผู้เรียนคิดตัดสินใจลงความเห็น สรุปข้อมูลความรู้โดยอ้างอิงเหตุผลที่น่าเชื่อถือสนับสนุน

2. ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์ และการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่สร้างขึ้นประกอบด้วย 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) กระบวนการจัดการเรียนการสอน 4) เงื่อนไขการนำรูปแบบไปใช้ และ 5) การประเมินผล โดยมีกระบวนการจัดการเรียนการสอน ประกอบด้วย 5 ขั้น โดยใช้ชื่อว่า 3PEP Model คือ ขั้นที่ 1 การเตรียมความพร้อม (Prepare) ขั้นที่ 2 การสอนกระตุ้นให้คิด (Provoke) ขั้นที่ 3 กิจกรรมกลุ่ม ฝึกทักษะ (Practice) ขั้นที่ 4 การประเมินผล (Evaluate) และขั้นที่ 5 การนำเสนอผลงานและสรุปผล (Present and conclusion) ผลการประเมินคุณภาพความเหมาะสมพบว่า มีความเหมาะสมระดับ มากที่สุด และมีความสอดคล้องกันทุกขั้นตอน

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวคิดคอนสตรัคติ วิสต์และการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พบว่า

3.1 ประสิทธิภาพของการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์ และการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เท่ากับ 85.56/84.81 ถือว่ามีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด

3.2 นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์ และการเรียนรู้แบบร่วมมือ มีทักษะการคิดวิเคราะห์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทาง สถิติที่ระดับ .05

4. ผลการประเมินความพึงพอใจที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์และการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พบว่า นักเรียนมีความ พึงพอใจต่อการเรียนในระดับพึงพอใจมากที่สุด (X= 4.53, S.D. = 0.51)

โพสต์โดย ครูมี : [16 ก.ย. 2566 เวลา 04:07 น.]
อ่าน [1916] ไอพี : 171.7.251.230
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 24,777 ครั้ง
ความรู้ทั่วไป "8 วิธี ขับเกียร์ออโต้ ประหยัดน้ำมัน"
ความรู้ทั่วไป "8 วิธี ขับเกียร์ออโต้ ประหยัดน้ำมัน"

เปิดอ่าน 10,941 ครั้ง
ตัวอย่างหนังสือค้ำประกันและแนวทางวิธีปฏิบัติตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ตัวอย่างหนังสือค้ำประกันและแนวทางวิธีปฏิบัติตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

เปิดอ่าน 12,444 ครั้ง
พืชพรรณธรรมชาติ ที่ดีต่อผิวพรรณ
พืชพรรณธรรมชาติ ที่ดีต่อผิวพรรณ

เปิดอ่าน 10,112 ครั้ง
ประกาศสงกรานต์ ปี ๒๕๕๒
ประกาศสงกรานต์ ปี ๒๕๕๒

เปิดอ่าน 30,424 ครั้ง
แนวโน้มนโยบายด้านการศึกษาของโดนัลด์ ทรัมพ์
แนวโน้มนโยบายด้านการศึกษาของโดนัลด์ ทรัมพ์

เปิดอ่าน 9,088 ครั้ง
ปลุกพลังเยียวยาตัวเอง ด้วยเคล็ดลับจากแดนอาทิตย์อุทัย
ปลุกพลังเยียวยาตัวเอง ด้วยเคล็ดลับจากแดนอาทิตย์อุทัย

เปิดอ่าน 46,707 ครั้ง
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล

เปิดอ่าน 11,640 ครั้ง
เตือนตากแดดนาน เสี่ยงเสียชีวิต
เตือนตากแดดนาน เสี่ยงเสียชีวิต

เปิดอ่าน 29,228 ครั้ง
อาหาร 7 อย่างที่กินแล้วกระปรี้กระเปร่าสุด ๆ
อาหาร 7 อย่างที่กินแล้วกระปรี้กระเปร่าสุด ๆ

เปิดอ่าน 14,357 ครั้ง
คนขับรถเมล์ เป็นลมขณะขับรถ ผู้โดยสารช่วยกันประคองรถวุ่น
คนขับรถเมล์ เป็นลมขณะขับรถ ผู้โดยสารช่วยกันประคองรถวุ่น

เปิดอ่าน 11,309 ครั้ง
เตือนภัยมัลแวร์อาจโจมตีเว็บไซต์ได้
เตือนภัยมัลแวร์อาจโจมตีเว็บไซต์ได้

เปิดอ่าน 22,204 ครั้ง
นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

เปิดอ่าน 8,628 ครั้ง
ธปท. ยันไม่มีปลอม แบงก์เอทีเอ็ม
ธปท. ยันไม่มีปลอม แบงก์เอทีเอ็ม

เปิดอ่าน 24,902 ครั้ง
รายนามศิลปินแห่งชาติ 2559 จำนวน 12 ท่าน
รายนามศิลปินแห่งชาติ 2559 จำนวน 12 ท่าน

เปิดอ่าน 14,906 ครั้ง
‘ครู’กับ‘ศิษย์’ ใกล้ชิดแค่ไหน? จึงจะ‘พอดี’ : โดย รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์
‘ครู’กับ‘ศิษย์’ ใกล้ชิดแค่ไหน? จึงจะ‘พอดี’ : โดย รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์

เปิดอ่าน 15,717 ครั้ง
คู่มือส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศึกษา
คู่มือส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศึกษา
เปิดอ่าน 142,161 ครั้ง
นิยามทางการศึกษา
นิยามทางการศึกษา
เปิดอ่าน 30,782 ครั้ง
น่าชื่นชม!!เด็กม.3รับแปลภาษาจีนรายได้ร่วม3หมื่นต่อเดือน
น่าชื่นชม!!เด็กม.3รับแปลภาษาจีนรายได้ร่วม3หมื่นต่อเดือน
เปิดอ่าน 10,148 ครั้ง
สแกน...ลดเวลาเรียน "3 สัปดาห์"บรรลุเป้า?
สแกน...ลดเวลาเรียน "3 สัปดาห์"บรรลุเป้า?
เปิดอ่าน 20,733 ครั้ง
วิธีการดูแลรักษาหน้าจอ Touch Screen
วิธีการดูแลรักษาหน้าจอ Touch Screen

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ