รายงานวิจัยในชั้นเรียน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566
ชื่อเรื่อง การพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาเคมี เรื่อง ปริมาณสัมพันธ์
โดยใช้เทคนิคการแก้ปัญหาของโพลยา
ชื่อผู้วิจัย นายสมพงษ์ กลับเส็ง
ปีที่ศึกษา ปีการศึกษา 2566
..
ความเป็นมาและความสำคัญ
กระบวนการจัดการเรียนรู้เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยพัฒนาด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ตลอดจนการคิดแก้ปัญหาของนักเรียน เพราะฉะนั้นการเลือกรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสม หรือเลือกประสบการณ์ต่างๆ ทีดีให้กับนักเรียน เน้นให้นักเรียนได้ฝึกคิด และแก้ปัญหาด้วยตนเอง จะสามารถทำให้นักเรียนพัฒนาสติปัญญาและความคิดของนักเรียนได้ การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ จะช่วยส่งเสริมให้นักเรียนพัฒนาตามศักยภาพ และตามธรรมชาติ คือสามารถพัฒนาได้ทั้งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กระบวนการคิดและเจตคติทางวิทยาศาสตร์
ซึ่งจากการสังเกตผลการเรียนของนักเรียนในปีการศึกษาที่ผ่านมา พบว่า นักเรียนมีปัญหาเรื่องของการเรียนเคมี โดยเฉพาะเรื่องปริมาณสัมพันธ์ ซึ่งเป็นเนื้อหาที่เป็นการคำนวณ ซึ่งทำให้ผลการเรียนของนักเรียนค่อนข้างต่ำ จึงส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในวิชาเคมี ต่ำกว่าเป้าหมายที่โรงเรียนกำหนด
จากสภาพปัญหาและแนวคิดดังกล่าว จึงทำให้หาวิธีการให้นักเรียนมีผลการเรียนเรื่อง
ปริมาณสัมพันธ์ รายวิชาเคมี2 (เพิ่มเติม) สูงขึ้น เพื่อส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความสามารถในการคิดแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการแก้ปัญหาของโพลยา ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 5 ขั้น เพื่อเป็นแนวทางที่เหมาะสมต่อผลทางการเรียน เรื่องปริมาณสัมพันธ์ รายวิชาเคมี2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และความสามารถในการคิดแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ เพื่อนักเรียนได้ใช้กระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง และเป็นแนวทางในการศึกษาหาความรู้ของนักเรียน พร้อมทั้งแนวทางในการจัดการเรียนรู้ของครูต่อไป
วัตถุประสงค์
1. เพื่อพัฒนาผลการเรียนของนักเรียนโดยการใช้กระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ร่วมกับเทคนิคการแก้ปัญหาของโพลยา ในวิชาเคมี2 ว 30222 เรื่องปริมาณสัมพันธ์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
2. เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 ในรายวิชาเคมี 2 ว30222 ให้สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
3. เพื่อประเมินความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ ในระดับ มากขึ้นไป และมีเจตคติที่ดีต่อวิชาเคมี
วิธีดำเนินการวิจัย
ประชากร/กลุ่มตัวอย่าง
- นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย/นวัตกรรม
- โจทย์ปัญหาเคมี เรื่อง ปริมาณสัมพันธ์ โดยใช้เทคนิคการแก้ปัญหาของโพลยา
การเก็บรวบรวมข้อมูล เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง
การวิเคราะห์ข้อมูล/สถิติที่ใช้ในการวิจัย ค่าเฉลี่ย ((x)) ̅ , ร้อยละ (%)
วิธีดำเนินการวิจัย
1. ศึกษา วิเคราะห์ หลักสูตร และ แนวคิด ทฤษฎี เกี่ยวกับเนื้อหาวิชาที่เรียน การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น และเทคนิคการแก้ปัญหาของโพลยา
- การสร้างความสนใจ (Engage) เป็นการนำเข้าสู่บทเรียนหรือเรื่องที่สนใจ ซึ่งอาจเกิดขึ้น
เองจากความสงสัยหรือความสนใจของตัวนักเรียนเอง หรือเกิดจากการอภิปรายภายในกลุ่ม เรื่องที่น่าสนใจอาจมาจากเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในช่วงเวลานั้น หรือเป็นเรื่องที่เชื่อมโยงกับความรู้เดิมที่เพิ่งเรียนมารู้มาแล้วเป็นตัวกระตุ้นให้นักเรียนสร้างคำถาม กำหนดประเด็นที่จะศึกษา ในกรณีที่ยังไม่มีประเด็นใดน่าสนใจ ครูอาจะจะจัด กิจกรรมหรือสถานการณ์เพื่อกระตุ้น ยั่วยุ หรือท้าทายให้นักเรียนตื่นเต้น สงสัย ใครรู้ อยากรู้อยากเห็น หรือขัดแย้ง เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหา การศึกษาค้นคว้า หรือการทดลอง แต่ไม่ควรบังคับให้นักเรียนยอมรับประเด็นหรือปัญหาที่ครูกำลังสนใจเป็นเรื่องที่จะศึกษา ทำได้หลายแบบ เช่น สาธิต ทดลอง นำเสนอข้อมูล เล่าเรื่อง/เหตุการณ์ ให้ค้นคว้า/อ่านเรื่อง อภิปราย/พูดคุย สนทนา ใช้เกม ใช้สื่อ วัสดุอุปกรณ์ สร้างสถานการณ์/ปัญหาที่น่าสนใจ ที่น่าสงสัยแปลกใจ
- การสำรวจและค้นคว้า (Explore) นักเรียนดำเนินการสำรวจ ทดลอง ค้นหา และรวบรวมข้อมูล วางแผนกำหนดการสำรวจตรวจสอบ หรือออกแบบการทดลอง ลงมือปฏิบัติ เช่น สังเกต วัด ทดลอง รวบรวมข้อมูล ข้อสนเทศ หรือปรากฎการณ์ต่างๆ
- การอธิบาย (Explain) นักเรียนนำข้อมูลที่ได้จากการสำรวจและค้นหามาวิเคราะห์ แปลผล สรุปและอภิปราย พร้อมทั้งนำเสนอผลงานในรูปแบบต่างๆ ซึ่งอาจเป็นรูปวาด ตาราง แผนผัง ผลงานมีความหลากหลาย สนับสนุนสมมติฐานที่ตั้งไว้หรือโต้แย้งกับสมมติฐานที่ตั้งไว้ หรือไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นที่กำหนดไว้ โดยมีการอ้างอิงความรู้ประกอบการให้เหตุผลสมเหตุสมผล การลงข้อสรุปถูกต้องเชื่อถือได้ มีเอกสารอ้างอิงและหลักฐานชัดเจน
- การขยายความรู้ (Evaborate)
ครูจัดกิจกรรมหรือสถานการณ์ เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ลึกซื้งขึ้น หรือขยายกรอบความคิดกว้างขึ้นหรือเชื่อมโยงความรู้เดิมสู่ความรู้ใหม่หรือนำไปสู่การศึกษาค้นคว้า ทดลอง เพิ่มขึ้น เช่น ตั้งประเด็นเพื่อให้นักเรียน ชี้แจงหรือร่วมอภิปรายแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซักถามให้นักเรียนชัดเจนหรือกระจ่างในความรู้ที่ได้หรือเชื่อมโยงความรู้ที่ได้กับความรู้เดิม
นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรม เช่น อธิบายและขยายความรู้เพิ่มเติมมีความละเอียดมากขึ้น ยกสถานการณ์ ตัวอย่าง อธิบายเชื่อมโยงความรู้ที่ได้เป็นระบบและลึกซึ้งยิ่งขึ้น หรือสมบูรณ์ละเอียดขึ้น นำไปสู่ความรู้ใหม่หรือความรู้ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ประยุกต์ความรู้ที่ได้ไปใช้ในเรื่องอื่นหรือสถานการณ์อื่นๆ หรือสร้างคำถามใหม่และออกแบบการสำรวจ ค้นหา และรวบรวมเพื่อนำไปสู่การสร้างความรู้ใหม่
- การประเมิน (Evaluate)
นักเรียนระบุสิ่งที่นักเรียนได้เรียนรู้ทั้งด้านกระบวนการและผลผลิต
นักเรียนตรวจสอบความถูกต้องของความรู้ที่ได้ เช่น วิเคราะห์วิจารณ์แลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน คิดพิจารณาให้รอบคอบทั้งกระบวนการและผลงาน อภิปราย ประเมินปรับปรุง เพิ่มเติมและสรุป ถ้ายังมีปัญหา ให้ศึกษาทบทวนใหม่อีกครั้ง อ้างอิงทฤษฎีหรือหลักการและเกณฑ์ เปรียบเทียบผลกับสมมติฐาน เปรียบเทียบความรู้ใหม่กับความรู้เดิม
นักเรียนทราบจุดเด่น จุดด้อยในการศึกษาค้นคว้า หรือทดลองมาถึงตอนนี้เราก็ทราบทั้งเรื่องเกี่ยวกับแนวคิด ทฤษฎี และรูปแบบการเรียนการสอนแบบ Inquiry
เทคนิคการแก้โจทย์ปัญหาของโพลยา
ขั้นที่ 1 การทำความเข้าใจปัญหา นักเรียนต้องทำความเข้าใจโจทย์ขั้นนี้เป็นการช่วยให้
นักเรียนรู้จักวิเคราะห์โจทย์ที่พบว่าโจทย์กำหนดอะไรให้บ้าง และสิ่งที่กำหนดให้มีความสัมพันธ์กันอย่างไรมีเงื่อนไขอะไรบ้างในการที่จะช่วยหาสิ่งที่โจทย์ต้องการทราบ
ขั้นที่ 2 การวางแผนแก้ปัญหา นักเรียนต้องรู้จักการวางแผนการแก้ปัญหาโดยจะคิดหา
วิธีการวางแผนการแก้ปัญหา ว่าจะใช้วิธีการหรือหลักการใดมาคิดแก้ปัญหานั้นๆ
ขั้นที่ 3 การดำเนินการตามแผน นักเรียนจะต้องดำเนินการคำนวณตามแผนที่วางไว้นั้น
ขั้นที่ 4 การตรวจสอบ เมื่อนักเรียนแก้ปัญหาสำเร็จก็จะตรวจสอบดูว่าผลที่ได้นั้น ถูกต้องมีความเป็นไปได้สำหรับโจทย์นั้นหรือไม่ (Polya, 1957: 87 อ้างถึงใน โสมภิลัย สุวรรณ์, 2554: 1617)
2. ออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้
สร้างเครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง
- จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้วิชาเคมี เรื่องปริมาณสัมพันธ์ โดยใช้วิธีการสอนแบบ
สืบเสาะหาความรู้ร่วมกับวิธีการแก้โจทย์ปัญหาตามแนวคิดของโพลยา จำนวน 5 แผน โดยสร้างและหาคุณภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ ดังนี้
ศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องและทำความเข้าใจวิธีการจัดการ เรียนรู้ตามแนวคิด
ของโพลยา ศึกษาหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์สร้างโครงสร้างแผนการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เขียนแผนการจัดการเรียนรู้วิชาเคมี ตามแนวคิดของโพลยา
นำแผนการจัดการเรียนรู้ให้ผู้เชี่ยวชาญ (คณะครูกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ในชั่วโมง PLC) เพื่อตรวจสอบปรับปรุงแก้ไข
- ทำแบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาเคมี โดยสร้างและหาคุณภาพของ
แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาเคมี ดังนี้
ศึกษาแนวคิดทฤษฎีวิธีการ สร้างแบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหา
เคมี
ศึกษาแบบเรียนคู่มือครูการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
วิเคราะห์ความสอดคล้อง สร้างแบบทดสอบแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน
30 ข้อ นำแบบทดสอบให้ผู้เชี่ยวชาญจากการประชุมกลุ่ม PLC ตรวจสอบเพื่อปรับปรุงแก้ไข
- แบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดของโพลยา โดยสร้าง
และหาคุณภาพของแบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดของโพลยา ดังนี้
ศึกษา เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวกับความพึงพอใจ สร้างแบบประเมินความพึงพอใจมี
ลักษณะเป็นแบบสอบถามที่ใช้ มาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ 10 ข้อ นำแบบประเมินความพึงพอใจตรวจสอบเพื่อปรับปรุงแก้ไข
3. แลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อตรวจสอบคุณภาพการจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้
4. ปรับปรุง/พัฒนากิจกรรมการจัดการเรียนรู้
- การปฏิบัติ (Do)
จัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ร่วมกับ
เทคนิคการแก้ปัญหาของโพลยา
ขั้นตอนการดำเนินการพัฒนา
การพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาเคมี เรื่อง ปริมาณสัมพันธ์ โดยใช้เทคนิคการแก้ปัญหาของโพลยา โดยมีขั้นตอนนี้
1. การคิดค้น (invention)
- ศึกษา แนวคิดและทฤษฎี วิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2551 กลุ่ม
สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หลักสูตรสถานศึกษา แนวคิดทฤษฎีการแก้โจทย์ปัญหาของ
โพลยา
- วิเคราะห์ข้อมูลการศึกษานักเรียนเป็นรายบุคคลที่ผู้สอนได้ทำการสำรวจก่อนเริ่มเรียนภาค
เรียนที่ 2/2564
- วางแผนออกแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 E ร่วมกับการใช้เทคนิคการ
แก้โจทย์ปัญหาของโพลยา
2. การพัฒนา (Development)
การพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ โดยจัดทำตามขั้นตอนดังนี้
- วิเคราะห์คำอธิบายรายวิชา เพื่อกำหนดหน่วยการเรียนรู้ หัวข้อการเรียนรู้ และเวลาที่
จะใช้การทำกิจกรรม
- วิเคราะห์จุดประสงค์รายวิชาและมาตรฐานรายวิชา เพื่อกำหนดผลการเรียนรู้ที่คาดหวังให้
เกิดขึ้นกับผู้เรียน ทั้งด้าน ความรู้ทักษะกระบวนการ เจตคติและพฤติกรรมลักษณะนิสัยที่พึงประสงค์ โดยการเขียนในรูปจุดประสงค์ทั่วไปและเชิงพฤติกรรม
- วิเคราะห์สาระการเรียนรู้จากผลการเรียนรู้ในรายวิชาเคมี 2 ว30222
- วิเคราะห์กระบวนจัดการเรียนรู้ เลือกรูปแบบการจัดการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับจุดประสงค์
การเรียนรู้ สามารถเรียนรู้ได้ง่าย เหมาะสมกับวัย ธรรมชาติของผู้เรียนและสถานที่ กิจกรรมที่ปฏิบัติควรสอดคล้องกับชีวิตประจำวันและชีวิตจริง มีทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน
- วิเคราะห์กระบวนประเมินผล วิธีการวัดและประเมินผลต้องสอดคล้องกับจุดประสงค์การ
เรียนรู้ใช้วิธีการวัดที่หลากหลาย แปลผลการวัดและการประเมินเพื่อนำไปสู่การพัฒนาและปรับปรุง
- วิเคราะห์แหล่งการเรียนรู้ โดยให้เรียนรู้จากแหล่งความรู้หลากหลาย
- จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้เรื่องปริมาณสัมพันธ์ จำนวน 5 คาบ
การสร้างเครื่องมือวัดและประเมิน ดังนี้
- แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับเทคนิคการแก้โจทย์ปัญหาของโพลยา จำนวน 5 แผน
- ข้อสอบวัดผลสัมฤทธิ์ เรื่องปริมาณสัมพันธ์ แบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ
- แบบประเมินความพึงพอใจในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ผลงานที่เกิดจากการดำเนินงาน
เชิงปริมาณ
1. ผู้เรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ร่วมกับเทคนิค
การแก้ปัญหาของโพลยา เรื่องปริมาณสัมพันธ์ มีผลการเรียนผ่านเกณฑ์ร้อย 75
ผลการพัฒนา พบว่า ผู้เรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ร่วมกับเทคนิคการแก้ปัญหาของโพลยา เรื่องปริมาณสัมพันธ์ มีผลการเรียนเฉลี่ยหลังเรียน ร้อยละ 81.92 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
ตารางที่ 1 แสดงคะแนนก่อน และหลังเรียน และคะแนนการพัฒนา
เลขที่ คะแนน
ก่อนเรียน
(30 คะแนน) คะแนน
หลังเรียน
(30 คะแนน) คะแนน
พัฒนา เลขที่ คะแนน
ก่อนเรียน
(30 คะแนน) คะแนน
หลังเรียน
(30 คะแนน) คะแนน
พัฒนา
1 10 25 15 21 8 23 15
2 10 24 14 22 10 25 15
3 9 26 17 23 12 24 12
4 11 23 12 24 12 21 9
5 10 24 14 25 15 22 7
6 10 25 15 26 13 22 9
7 8 25 17 27 9 26 17
8 9 24 15 28 9 25 16
9 9 26 17 29 10 25 15
10 12 25 13 30 10 26 16
11 13 26 13 31 11 23 12
12 11 28 17 32 11 24 13
13 11 24 13 33 12 27 15
14 14 23 9 34 12 28 16
15 11 21 10 35 10 24 14
16 9 25 16 36 10 25 15
17 10 25 15 37 14 26 12
18 11 26 15 38 11 24 13
19 12 24 12 39 10 26 16
20 13 24 11 40 9 24 15
ร้อยละ 35.92 81.92 46.00
2. ผู้เรียนมีผลโดยมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาเคมี 2 ว30222 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ไม่น้อยกว่าร้อยละ 75
ผลการพัฒนา พบว่า ผู้เรียนมีผลโดยมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาเคมี 2 ว30222ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ย ร้อยละ 76.12 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2. เชิงคุณภาพ
ผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ในระดับมากขึ้นไป และมีเจตคติที่ดีต่อ
วิชาเคมี
ผลการพัฒนา พบว่า ผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ในระดับ มาก
สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
ตารางที่ 3 แสดงความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ที่ รายการ/ข้อคำถาม X ̅ แปลความหาย
1 นักเรียนมีความพึงพอใจในการเรีนการสอนโดยใช้เทคนิคการแก้โจทย์ปัญหาของโพลยา 4.58 มากที่สุด
2 นักเรียนมีบทบาทในการเรียนมากขึ้นจากการจัดกิจกรรม 4.38 มาก
3 การเตรียมการสอนมีขั้นตอนที่สามารถเข้าใจง่ายขึ้น 4.62 มากที่สุด
4 กระตุ้นให้เกิดการวิเคราะห์เนื้อหาจากการเรียนรู้ 4.12 มาก
5 เวลาที่ใช้ในการจัดกิจกรรมมีความเหมาะสม 4.58 มากที่สุด
6 สื่อการสอนเหมาะสมกับเนื้อหาวิชาและช่วยให้เกิดการเรียนรู้ 4.37 มาก
7 เอกสารประกอบการเรียนมีความสอดคล้องกับเนื้อหา 4.33 มาก
8 การจัดกิจกรรมสร้างบรรยากาศที่ดีในการเรียนรู้ 4.25 มาก
9 การอธิบายเนื้อหาและยกตัวอย่างประกอบ ตรงประเด็น เข้าใจง่าย และชัดเจน 4.54 มากที่สุด
10 การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ทำให้มีทัศนคติที่ดีต่อวิชาเคมี 4.67 มากที่สุด
รวม (เฉลี่ย) 4.44 มาก