ชื่องานวิจัย การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามทฤษฎีคอนสตรัคชั่นนิสซึ่ม โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับ
เทคนิคเพื่อนคู่คิด รายวิชาเคมี 1 รหัส ว30221 เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา และการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สําหรับ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ผู้วิจัย นางอุดมศรี อุตส่าห์
สถานที่ทํางาน โรงเรียนบัวใหญ่ อําเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ปีที่พิมพ์ 2565
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามทฤษฎีคอนสตรัคชั่นนิสซึ่ม โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด รายวิชาเคมี 1 รหัส ว30221 เพื่อส่งเสริมความสามารถในแก้ปัญหาและการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 4 มีวัตถุประสงค์ของวิจัยเพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการรูปแบบการจัดการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ตามทฤษฎีคอนสตรัคชั่นนิสซึ่ม โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับ เทคนิคเพื่อนคู่คิด รายวิชาเคมี 1 รหัส ว30221 เพื่อส่งเสริมความสามารถในแก้ปัญหาและการคิด อย่างมีวิจารณญาณ สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 2) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ตามทฤษฎีคอนสตรัคชั่นนิสซึ่ม โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับ เทคนิคเพื่อนคู่คิด รายวิชาเคมี 1 รหัส ว30221 เพื่อส่งเสริมความสามารถในแก้ปัญหาและการคิด อย่างมีวิจารณญาณ สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 3) ศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการ เรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามทฤษฎีคอนสตรัคชั่นนิสซึ่ม โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด รายวิชาเคมี 1 รหัส ว30221 เพื่อส่งเสริมความสามารถในแก้ปัญหา และการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ 4) เพื่อประเมินผลการใช้ รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามทฤษฎีคอนสตรัคชั่นนิสซึ่ม โดยใช้การจัดการเรียนรู้ แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด รายวิชาเคมี 1 รหัส ว30221 เพื่อส่งเสริมความสามารถ ในแก้ปัญหาและการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ใน การวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนบัวใหญ่ อําเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา จํานวน 1 ห้องเรียนมีนักเรียนจํานวน 33 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่ม แบบกลุ่มโดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยมีเครื่องมือที่ใช้ใน การวิจัยได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามทฤษฎีคอนสตรัคชั่นนิสซึ่ม โดยใช้การจัดการ เรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด รายวิชาเคมี 1 รหัส ว30221 จํานวน 5 แผน รวมทั้งหมด 15 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 1) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน 2) แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหา 3) แบบทดสอบวัดความสามารถด้าน การคิดอย่างมีวิจารณญาณ 4) แบบประเมินรูปแบบหลังการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ตามทฤษฎีคอนสตรัคชั่นนิสซึ่ม โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด และ 4) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามทฤษฎี คอนสตรัคชั่นนิสซึ่ม โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิดสําหรับการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( X ) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าทีแบบไม่อิสระ (t-test dependent)
ผลการวิจัย
1. สภาพปัญหาและความต้องการรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามทฤษฎีคอนสตรัคชั่น นิสซึ่ม โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด รายวิชาเคมี 1 รหัส ว30221 เพื่อส่งเสริมความสามารถในแก้ปัญหาและการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สําหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มุ่งเน้นให้ผู้เรียนลงมือในการสร้างความรู้ ความเข้าใจให้แก่ตนเอง และในการจัดการเรียนการสอน ผู้เรียนควรได้ลงมือปฏิบัติมีการประเมินผู้เรียนทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติดังนั้นจึงเป็นแนวคิดในการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสําคัญ ส่งเสริม และฝึกฝนให้ผู้เรียนมีความรับผิดชอบต่อตนเอง มีทักษะในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามทฤษฎีคอนสตรัคชั่นนิสซึ่ม โดยใช้การจัดการเรียนรู้ แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด รายวิชาเคมี 1 รหัส ว30221 เพื่อส่งเสริมความสามารถ ในแก้ปัญหาและการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่พัฒนาขึ้น มีชื่อว่า OPPCRC MODEL มีองค์ประกอบคือ 1) หลักการ แนวคิด ทฤษี แนวคิด 2) วัตถุประสงค์ 3) กระบวนการจัดการเรียนรู้ 4) การวัดผลและประเมินผล 5) เงื่อนไขและปัจจัยในการนํารูปแบบไปใช้ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด มีกระบวนการจัดการเรียนรู้ 6 ขั้นคือ ขั้นที่ 1 ขั้นตั้งคําถาม (Questioning: Q) ขั้นที่ 2 ขั้นนําเสนอปัญหา (Problem Statement: P) ขั้นที่ 3 ขั้นการคิดวิเคราะห์ปัญหา (Problem Analysis: P) ขั้นที่ 4 ขั้นเชื่อมโยงความรู้ (Connecting: C) ข้ันที่ 5 ขั้นสะท้อนผล และสื่อสาร (Reflecting and Communicating: R) ขั้นที่ 6 ขั้นสรุป (Conclusion: C) เมื่อนําไป ทดลองใช้กับนักเรียนแบบภาคสนาม จํานวน 34 คน พบว่า มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.45/81.36 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กําหนดไว้ 80/80
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามทฤษฎีคอนสตรัคชั่นนิสซึ่ม โดยใช้ การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด รายวิชาเคมี 1 รหัส ว30221 เพื่อส่งเสริมความสามารถในแก้ปัญหาและการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 4 ที่ พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 ความสามารถในการแก้ปัญหาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมี นัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ผลการประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามทฤษฎีคอนสตรัคชั่นนิสซึ่ม โดยใช้ การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด รายวิชาเคมี 1 รหัส ว30221 เพื่อส่งเสริมความสามารถในแก้ปัญหาและการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 4 พบว่า
4.1 ผลการประเมินการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามทฤษฎีคอนสตรัคชั่นนิสซึ่ม โดยใช้ การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด รายวิชาเคมี 1 รหัส ว30221 เพื่อส่งเสริมความสามารถในแก้ปัญหาและการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 พบว่า โดยภาพรวมมีค่าความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ( X = 4.12, S.D. = 0.93)
4.2 ผลของการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 /1 โรงเรียนบัวใหญ่ ที่มีต่อ การจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามทฤษฎีคอนสตรัคชั่นนิสซึ่ม โดยใช้ การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะ หาความรู้ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด พบว่า ความพึงพอใจรวมทุกด้านอยู่ในระดับมาก ( X = 4.20, S.D. = 0.85)