ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รายงานวิจัยในชั้นเรียน เรื่อง การพัฒนาทักษะการอ่าน-เขียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้แบบฝึกอ่านออกเขียนได้ใน 4 เดือนด้วยทักษะ 5 ขั้นตอน

ชื่อเรื่อง การพัฒนาทักษะการอ่าน-เขียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้แบบฝึกอ่าน ออกเขียนได้ใน 4 เดือนด้วยทักษะ 5 ขั้นตอน

ชื่อผู้วิจัย นางสุนิสา พุทธศรี ครูโรงเรียนวัดอินทการาม สพป.สฎ. เขต 3

กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย

ปีการศึกษา 2565

บทคัดย่อ

การพัฒนาทักษะการอ่านการเขียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้แบบฝึกอ่านออกเขียนได้ใน 4 เดือนด้วยทักษะ 5 ขั้นตอน กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดอินทการาม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 3 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 6 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ 1) แบบฝึกอ่านออกเขียนได้ใน 4 เดือนด้วยทักษะ 5 ขั้นตอน 2) แบบทดสอบการอ่านการเขียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( ) และค่าร้อยละความก้าวหน้า

ผลการศึกษาพบว่า การทดสอบอ่านเขียนคำของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หลังการใช้แบบฝึกอ่านออกเขียนได้ใน 4 เดือนด้วยทักษะ 5 ขั้นตอน ( = 9.25, = 0.78) สูงกว่าก่อนการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากนิทาน ( = 5.00, = 1.03) มีคะแนนความก้าวหน้าเฉลี่ยเท่ากับ 4.83 คิดเป็นคะแนนเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น ร้อยละ 48.33

การพัฒนาทักษะการอ่าน-เขียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

โดยใช้แบบฝึกอ่าน ออกเขียนได้ใน 4 เดือนด้วยทักษะ 5 ขั้นตอน

ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา

ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ทำให้นักเรียนมีภาวะ

ถดถอยทางการเรียนรู้ตามวัย ขาดทักษะ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดย สพฐ.ได้กำหนดเป็น

หนึ่งในนโยบายเร่งด่วน สพฐ. Quick Policy ประจำปีงบประมาณ 2566 ด้านการแก้ไขปัญหา

ภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Leaning Loss)

จากการทดสอบการอ่านและการเขียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ในช่วงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงเปิดภาคเรียนใหม่ โดยผู้สอนได้นำคำจากบัญชีคำพื้นฐานระดับชั้นประถมศึกษา 2 พบว่ามีนักเรียนจำนวน 9 คนที่มีปัญหาในด้านการอ่าน การเขียน คือ ไม่สามารถอ่าน เขียนคำหรือข้อความได้ และไม่มีความสุขในการเรียนการสอน กลัววิตกในการอ่านการเขียน ผู้สอนจึงพัฒนาแบบฝึกอ่านออกเขียนได้ใน 4 เดือนด้วยทักษะ 5 ขั้นตอน เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาการอ่าน-เขียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และสามารถเกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพและเต็มศักยภาพต่อไป

วัตถุประสงค์ของการวิจัย

เพื่อศึกษาทักษะด้านการอ่านเขียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ด้วยแบบฝึกอ่านออกเขียนได้ใน 4 เดือนด้วยทักษะ 5 ขั้นตอน

ขอบเขตของการศึกษา

ผู้รายงานได้กำหนดขอบเขตของการศึกษา ดังนี้

กลุ่มเป้าหมาย

กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดอินท-การาม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 3 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 6 คน

ตัวแปรที่ศึกษา

ตัวแปรต้น คือ การจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกอ่านออกเขียนได้ใน 4 เดือนด้วยทักษะ 5 ขั้นตอน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ตัวแปรตาม คือ ผลการทดสอบการอ่านการเขียนคำของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษา

ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า ดำเนินการทดลองในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

1. ได้แนวทางสำหรับครูผู้สอนภาษาไทยในการเลือกกิจกรรมการเรียนการสอน

2. ได้แนวทางในการปรับปรุงและพัฒนาการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

นิยามศัพท์เฉพาะ

การสอนโดยใช้แบบฝึกอ่านออกเขียนได้ใน 4 เดือนด้วยทักษะ 5 ขั้นตอน หมายถึง

ครูผู้สอนได้ดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนบันได 5 ขั้น ซึ่งเริ่มต้นจาก

1) การฟังที่ดีเมื่อนักเรียนได้รับฟัง ควรจะต้องฝึกฝนและพัฒนาทักษะการฟังของตนอยู่เสมอ ฟังให้ได้ประเด็นชัดเจน ได้อักขระที่ถูกต้องในใจเมื่อฟังผู้อื่นพูด เพื่อให้สามารถทำความเข้าใจสิ่งที่ได้ฟังอย่างถ่องแท้ การฟังโดยที่มีการตั้งจุดมุ่งหมายในการฟังไว้ล่วงหน้าเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยพัฒนาทักษะการฟังได้

2) เมื่อฟังแล้วต้องสามารถอ่านตามได้ อ่านได้ถูกต้องจากการฟังมา การฝึกอ่านอยู่สม่ำเสมอ อ่านในทุกๆที่มีเจอข้อความ ความสำคัญของการอ่านยังทำให้นักเรียนมีความคิดสร้างสรรค์ สามารถจินตนาการในเนื้อเรื่องหรือบทความที่อ่านได้ การอ่านที่ถูกต้องคือการออกเสียงได้อย่างชัดเจน สื่อความถึงผู้ฟังได้

3) การคัดลายมือ เป็นการย้ำ ทวนเนื้อหา

ในเรื่องที่ฟังหรืออ่านมาการคัดลายมือเป็นการฝึกเขียนเบื้องต้น ที่จำเป็นต้องให้เคยชินกับการเขียนที่สวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อยเพราะเป็นพื้นฐานที่จะนำไปสู่การเขียนได้ถูกต้อง คล่องแคล่ว รวดเร็ว สวยงาม และน่าอ่าน

4) เขียนตามคำบอก

5) เมื่อนักเรียนเขียนได้อย่างถูกต้องแล้วก็นำไปสู่การแต่งประโยค เพื่อให้นักเรียนได้มีจินตนาการในการแต่งประโยค และรู้จักการนำเอาคำหลาย ๆ คำมาเรียงต่อกันเป็นกลุ่มคำ เป็นประโยคที่มีความหมายถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ทั้งในด้านรูปแบบและความหมาย ที่มีทั้งภาคประธานและภาคแสดง

ผลการทดสอบการอ่านและเขียนคำ หมายถึง ทักษะในการอ่านออกเสียงคำและเขียนคำ ภายหลังสิ้นสุดจากการเรียนการสอน ซึ่งสามารถวัดได้จากคะแนนในการทำแบบทดสอบการอ่านเขียนที่ผู้รายงานสร้างขึ้น

สรุปผลการวิจัย

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนคำ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้ แบบฝึกอ่านออกเขียนได้ใน 4 เดือนด้วยทักษะ 5 ขั้นตอน พบว่า หลังการใช้แบบฝึกอ่านออกเขียนได้ใน 4 เดือนด้วยทักษะ 5 ขั้นตอนนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น

อภิปรายผล

ผลการศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้ปรากฏว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หลังการใช้ แบบฝึกอ่านออกเขียนได้ใน 4 เดือนด้วยทักษะ 5 ขั้นตอน มีคุณภาพและประสิทธิภาพอย่างดียิ่ง ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

1. แบบฝึกอ่านออกเขียนได้ใน 4 เดือนด้วยทักษะ 5 ขั้นตอน เป็นแบบฝึกที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพตามผลของการวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าว

2. แบบฝึกอ่านออกเขียนได้ใน 4 เดือนด้วยทักษะ 5 ขั้นตอน สร้างขึ้นอย่างถูกวิธี ได้ผ่านขั้นตอนการสร้างและพัฒนาอย่างเป็นระบบ เริ่มตั้งแต่เอกสารหลักสูตรและเอกสารที่เกี่ยวข้องในการใช้หลักสูตร และยังได้รับการแนะนำ ข้อเสนอแนะจากผู้มีประสบการณ์ด้านเนื้อหาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และความเหมาะสมของเนื้อหา

3. การสอนโดยใช้ แบบฝึกอ่านออกเขียนได้ใน 4 เดือนด้วยทักษะ 5 ขั้นตอน ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสมกับการฝึกทักษะการอ่านและการเขียน

4. การพัฒนาทักษะการอ่าน-เขียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้แบบฝึกอ่าน ออกเขียนได้ใน 4 เดือนด้วยทักษะ 5 ขั้นตอนได้เรียงลำดับความยากง่ายสอดคล้องตามธรรมชาติการเรียนรู้ ทำให้นักเรียนรู้สึกว่าตนเองประสบความสำเร็จในการเรียนรู้ จึงสรุปได้ว่าแบบฝึกอ่านออกเขียนได้ใน 4 เดือนด้วยทักษะ 5 ขั้นตอน มีประสิทธิภาพ สามารถนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ส่งผลให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น

ข้อเสนอแนะ

จากผลการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มีข้อเสนอแนะเพื่อประโยชน์ต่อวงการศึกษา ดังนี้ก่อนนำแบบฝึกไปใช้ประกอบการสอน ผู้สอนควรศึกษารายละเอียดของทุกกิจกรรมก่อนนำไปใช้

โพสต์โดย KruSu : [10 ก.ย. 2566 เวลา 07:29 น.]
อ่าน [3350] ไอพี : 58.11.92.58
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 34,328 ครั้ง
คู่มือการจัดทำแผนชั้นเรียนรายปีและแผนชั้นเรียนเต็มรูปของสถานศึกษา สังกัด สพฐ.
คู่มือการจัดทำแผนชั้นเรียนรายปีและแผนชั้นเรียนเต็มรูปของสถานศึกษา สังกัด สพฐ.

เปิดอ่าน 48,441 ครั้ง
การศึกษาขั้นพื้นฐานมุ่งสู่อนาคต (Basic Education for Future) : ทีปกร จิร์ฐิติกุลชัย
การศึกษาขั้นพื้นฐานมุ่งสู่อนาคต (Basic Education for Future) : ทีปกร จิร์ฐิติกุลชัย

เปิดอ่าน 13,089 ครั้ง
พบรอยเท้าไดโนเสาร์ อายุกว่า 200 ล้านปี
พบรอยเท้าไดโนเสาร์ อายุกว่า 200 ล้านปี

เปิดอ่าน 11,948 ครั้ง
ชมคลิป เลขาฯกพฐ.เผยผลคัดเลือก ผอ.และรอง ผอ.โรงเรียนและการสอบครูผู้ช่วยกรณีเศษ
ชมคลิป เลขาฯกพฐ.เผยผลคัดเลือก ผอ.และรอง ผอ.โรงเรียนและการสอบครูผู้ช่วยกรณีเศษ

เปิดอ่าน 16,181 ครั้ง
มาทำความรู้จักกับวันสำคัญทางพระพุทธศาสนากันเถอะ
มาทำความรู้จักกับวันสำคัญทางพระพุทธศาสนากันเถอะ

เปิดอ่าน 14,333 ครั้ง
ลูกน้อยทานยาลดไข้หลายวัน เป็นอันตรายไหม
ลูกน้อยทานยาลดไข้หลายวัน เป็นอันตรายไหม

เปิดอ่าน 13,902 ครั้ง
สีสันกับสุขภาพจิต
สีสันกับสุขภาพจิต

เปิดอ่าน 13,723 ครั้ง
น้ำประปาที่ใช้ในบ้าน สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 7
น้ำประปาที่ใช้ในบ้าน สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 7

เปิดอ่าน 14,251 ครั้ง
มัลติมีเดีย ที่มาของการขยายเทคโนโลยีเครือข่าย
มัลติมีเดีย ที่มาของการขยายเทคโนโลยีเครือข่าย

เปิดอ่าน 21,079 ครั้ง
อีกวิธีสำหรับหยุดอาการ "สะอึก"
อีกวิธีสำหรับหยุดอาการ "สะอึก"

เปิดอ่าน 76,840 ครั้ง
เกณฑ์วิทยฐานะใหม่
เกณฑ์วิทยฐานะใหม่

เปิดอ่าน 27,286 ครั้ง
การศึกษาไทยอาการหนัก คุณหมอต้องส่งเข้าห้อง ICU
การศึกษาไทยอาการหนัก คุณหมอต้องส่งเข้าห้อง ICU

เปิดอ่าน 7,493 ครั้ง
ประโยชน์ของ มะละกอสุก หวานอร่อย ช่วยต้านมะเร็งหลายชนิด
ประโยชน์ของ มะละกอสุก หวานอร่อย ช่วยต้านมะเร็งหลายชนิด

เปิดอ่าน 9,388 ครั้ง
การใช้คลังข้อสอบมาตรฐาน (Standardize ltem Bank System : SIBS) เพื่อขับเคลื่อนการยกระดับผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET)
การใช้คลังข้อสอบมาตรฐาน (Standardize ltem Bank System : SIBS) เพื่อขับเคลื่อนการยกระดับผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET)

เปิดอ่าน 12,196 ครั้ง
ดาวน์โหลดไฟล์หนังสือและหนังสือเสียง "สอนนอกกรอบ : ยุทธวิธีจับใจศิษย์"
ดาวน์โหลดไฟล์หนังสือและหนังสือเสียง "สอนนอกกรอบ : ยุทธวิธีจับใจศิษย์"

เปิดอ่าน 1,056 ครั้ง
การเล่นเกมบนสมาร์ทวอทช์: ฟีเจอร์สนุก ๆ เพื่อความบันเทิงบนข้อมือของคุณ
การเล่นเกมบนสมาร์ทวอทช์: ฟีเจอร์สนุก ๆ เพื่อความบันเทิงบนข้อมือของคุณ
เปิดอ่าน 15,937 ครั้ง
กว่าจะมาเป็น นพวรรณ เลิศชีวกานต์
กว่าจะมาเป็น นพวรรณ เลิศชีวกานต์
เปิดอ่าน 20,022 ครั้ง
สุดยอด 5 ผลไม้บำรุงเลือด
สุดยอด 5 ผลไม้บำรุงเลือด
เปิดอ่าน 15,713 ครั้ง
ประวัติวันเด็กแห่งชาติ
ประวัติวันเด็กแห่งชาติ
เปิดอ่าน 37,978 ครั้ง
ฮือฮา นาซาค้นพบกาแล๊คซี่"ซูเปอร์มัม คอสมิค"แหล่งกำเนิดดวงดาวจำนวนมาก
ฮือฮา นาซาค้นพบกาแล๊คซี่"ซูเปอร์มัม คอสมิค"แหล่งกำเนิดดวงดาวจำนวนมาก

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

Thailand Web Stat

Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ