|
|
การวิจัยเรื่อง การพัฒนาสมรรถนะการแก้ปัญหาสถานการณ์ในชีวิตประจำวันที่เกี่ยวข้องกับวิชาคณิตศาสตร์ ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดลาดชิด (ลาดชิดวิทยาคาร) มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาสมรรถนะการแก้ปัญหาสถานการณ์ในชีวิตประจำวันที่เกี่ยวข้องกับวิชาคณิตศาสตร์ ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดลาดชิด (ลาดชิดวิทยาคาร) 2) เพื่อศึกษาผลของการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน ที่มีต่อเจตคติในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัด ลาดชิด (ลาดชิดวิทยาคาร) โดยมีสมมติฐานการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดลาดชิด (ลาดชิดวิทยาคาร) ที่เรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน หน่วยการเรียนรู้ ป.3 CAFÉ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ซึ่งประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดลาดชิด (ลาดชิดวิทยาคาร) ปีการศึกษา 2565 จำนวน 26 คน มีเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบทดสอบเชิงสถานการณ์ แบบประเมินพฤติกรรมสำหรับครูและนักเรียน และแผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ ป.3 CAFÉ
ซึ่งกระบวนการในการเก็บรวบรวมข้อมูล เริ่มจากทำการประเมินความสามารถในการแก้ปัญหาชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 26 คน ด้วยแบบทดสอบเชิงสถานการณ์ แบบประเมินพฤติกรรมสำหรับครูและนักเรียน แล้วบันทึกผลไว้เป็นคะแนนก่อนเรียน จากนั้นออกแบบการจัดการเรียนรู้ โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-based Learning : PBL) วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบความถูกต้องของหน่วยการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ และนำมาแก้ไข ปรับปรุง และดำเนินการจัดการเรียนการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ ป.3 CAFÉ จำนวน 6 แผน กับนักเรียน เมื่อจัดการเรียนการสอนเสร็จแล้วทำการประเมินความสามารถในการแก้ปัญหาชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 26 คน ด้วยแบบทดสอบเชิงสถานการณ์ แบบประเมินพฤติกรรมสำหรับครูและนักเรียน แล้วบันทึกผลไว้เป็นคะแนนหลังเรียน และสอบถามความพึงพอใจในการเรียนของนักเรียน แล้วบันทึกผลไว้เป็นคะแนนหลังเรียน และนำผลการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนมาวิเคราะห์และสรุปผล โดยนำคะแนนแบบทดสอบก่อนเรียนและคะแนนแบบทดสอบหลังเรียนมาหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต (x ̅) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยของคะแนนแบบทดสอบก่อนเรียนและคะแนนแบบทดสอบหลังเรียน โดยทดสอบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยโดยการทดสอบค่าที (t test) แล้วนำเสนอข้อมูลตารางประกอบความเรียง สามารถสรุปผลการวิจัยได้ดังนี้
1. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดลาดชิด (ลาดชิดวิทยาคาร) ทำแบบทดสอบเชิงสถานการณ์ สมรรถนะการแก้ปัญหาสถานการณ์ในชีวิตประจำวันที่เกี่ยวข้องกับวิชาคณิตศาสตร์ หลังเรียนมีคะแนนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
2. การจัดการเรียนรู้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานทำให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดลาดชิด (ลาดชิดวิทยาคาร) มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนวิชาคณิตศาสตร์
|
โพสต์โดย นางสาวธนัชชา เขียวหวาน : [9 ก.ย. 2566 เวลา 10:10 น.] อ่าน [2821] ไอพี : 1.47.68.214
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 12,782 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,912 ครั้ง
| เปิดอ่าน 26,028 ครั้ง
| เปิดอ่าน 30,994 ครั้ง
| เปิดอ่าน 42,792 ครั้ง
| เปิดอ่าน 4,435 ครั้ง
| เปิดอ่าน 26,259 ครั้ง
| เปิดอ่าน 22,468 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,519 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,235 ครั้ง
| เปิดอ่าน 48,161 ครั้ง
| เปิดอ่าน 3,895 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,345 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,597 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,670 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 425,738 ครั้ง
| เปิดอ่าน 33,227 ครั้ง
| เปิดอ่าน 7,025 ครั้ง
| เปิดอ่าน 645 ครั้ง
| เปิดอ่าน 23,446 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|