|
|
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาและหาประสิทธิภาพรูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ของนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้การวิจัยเป็นฐานเพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดเชิงวิจัย การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์และจิตวิทยาศาสตร์ 2) ประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่ใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ของนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้การวิจัยเป็นฐานเพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดเชิงวิจัย การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์และจิตวิทยาศาสตร์ ในการจัดการเรียนการสอน โดยมีวัตถุประสงค์เฉพาะ ประกอบด้วย 2.1) ศึกษาผลหลัก (Main effects) และผลปฏิสัมพันธ์ (Interaction effects) ของ ความสามารถพื้นฐานและการเรียนรู้ของนักเรียนร่วมกันที่ส่งผลต่อทักษะการเรียนรู้แบบวิจัยเป็นฐาน การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ และจิตวิทยาศาสตร์ 2.2) เปรียบเทียบทักษะการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของนักเรียนที่มีความสามารถพื้นฐานและการเรียนรู้ต่างกัน ก่อนและหลังเรียนการใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ของนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้การวิจัยเป็นฐานเพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดเชิงวิจัย การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์และจิตวิทยาศาสตร์ และ 2.3) ศึกษาพัฒนาการและความคงทนด้านทักษะการเรียนรู้แบบวิจัยเป็นฐานของนักเรียนที่มีความสามารถพื้นฐานและการเรียนรู้ต่างกัน ที่เรียนตามรูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ของนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้การวิจัยเป็นฐานเพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดเชิงวิจัย การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์และจิตวิทยาศาสตร์ และ 3) ประเมินจิตวิทยาศาสตร์ของนักเรียนที่มีความสามารถพื้นฐานและการเรียนรู้ต่างกัน หลังเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ของนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้การวิจัยเป็นฐานเพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดเชิงวิจัย การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์และจิตวิทยาศาสตร์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญาในพระอุปถัมภ์ฯ เทศบาลนครภูเก็ต ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 มีนักเรียน 41 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย รูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ของนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้การวิจัยเป็นฐานเพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดเชิงวิจัย การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์และจิตวิทยาศาสตร์ คู่มือการใช้รูปแบบ หน่วยและแผนการจัดการเรียนรู้ แบบประเมินทักษะการวิจัย แบบทดสอบทักษะการ แก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ และแบบวัดจิตวิทยาศาสตร์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวน แบบ 2 ทาง (Two - Way ANOVA) ค่าทีแบบไม่อิสระ (t - test for dependent samples) และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัย พบว่า
1. รูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ของนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้การวิจัยเป็นฐานเพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดเชิงวิจัย การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์และจิตวิทยาศาสตร์ มีชื่อว่า RPSCSA Model มี 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการ เน้นที่ผู้เรียนเป็นผู้สร้าง ความรู้ขึ้นเองอย่างเป็นระบบโดยอาศัยการแสวงหาความรู้ด้วยกระบวนการวิจัย และผู้เรียนมีบทบาทสำคัญในการเรียนรู้ ผ่านกิจกรรมที่เน้นการร่วมมือกันเรียนรู้ร่วมกับการเรียนรู้แบบนําตนเอง 2) วัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะการวิจัย ทักษะการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ และจิตวิทยาศาสตร์ของนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 5 3) กระบวนการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย 6 ขั้น คือ (1) ขั้นตระหนักในปัญหา (Raising Awareness of Problems : R) (2) ขั้นค้นพบปัญหา (Problem Finding : P) (3) ขั้นค้นคว้าหาคําตอบ (Searching How to Solve Problems : S) (4) ขั้น รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล (Collecting and Analyzing Data : C) (5) ขั้นสรุปและนําเสนอผลการวิจัย(Summarizing and Research Finding : S) และ(6) ขั้นประเมินผล (Assessing : A) 4) การวัดและประเมินผล 3 ด้าน คือ ด้านทักษะการวิจัย ด้านทักษะการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ และ ด้านจิตวิทยาศาสตร์ และ5) เงื่อนไขสำคัญในการนํารูปแบบไปใช้ให้ประสบผลสำเร็จ ประกอบด้วย นักเรียนมีพื้นฐานความสามารถในการคิดเชิง ระบบ มีความรับผิดชอบ มุ่งมั่นในการทำงาน ใช้ผลการวิจัยและกระบวนการวิจัยเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ และใช้สถานการณ์ปัญหาในชีวิตประจำวัน โดยพบว่า รูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ของนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้การวิจัยเป็นฐานเพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดเชิงวิจัย การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์และจิตวิทยาศาสตร์ มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.36/76.86
|
โพสต์โดย somkit : [4 ก.ย. 2566 เวลา 14:57 น.] อ่าน [2580] ไอพี : 124.120.194.102
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 17,029 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,817 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,165 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,494 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,241 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,370 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,647 ครั้ง
| เปิดอ่าน 80,573 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,913 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,228 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,771 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,309 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,069 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,691 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,965 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 12,439 ครั้ง
| เปิดอ่าน 5,756 ครั้ง
| เปิดอ่าน 59,953 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,179 ครั้ง
| เปิดอ่าน 27,159 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|