ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามแนวคิดการเรียนรู้แบบยืดหยุ่นเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้สูงขึ้นและความใฝ่เรียนรู้ในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อโรคของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามแนวคิดการเรียนแบบยืดหยุ่น

เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้สูงขึ้นและความใฝ่เรียนรู้ในช่วงวิกฤต

การแพร่ระบาดเชื้อโรคของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ผู้วิจัย อนิวัตต์ ตั้งธีรโชติกุล ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ

ปีที่ศึกษา 2564

คำสำคัญ การจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามแนวคิดการเรียนรู้แบบบยืดหยุ่น, ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน, ความใฝ่เรียนรู้, ช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อโรค

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย คือ 1) เพื่อศึกษาแนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง สภาพปัจจุบัน ปัญหาการจัดการเรียนรู้ และแนวทางในการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ตามแนวคิดแบบยืดหยุ่น เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้สูงขึ้นและความใฝ่เรียนรู้ในช่วงวิกฤตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) เพื่อพัฒนาร่างรูปแบบ สร้างรูปแบบ ตรวจสอบรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ตามแนวคิดแบบยืดหยุ่น เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้สูงขึ้นและความใฝ่เรียนรู้ในช่วงวิกฤตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความใฝ่เรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ในช่วงวิกฤตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ โดยรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ตามแนวคิดแบบยืดหยุ่น ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โดยประยุกต์แนวคิดแบบยืดหยุ่น เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้สูงขึ้นและความใฝ่เรียนรู้ในช่วงวิกฤตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 2 ห้อง รวม 61 คนได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random sampling) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 จำนวน 29 คน เป็นกลุ่มทดลอง และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 จำนวน 31 คนเป็นกลุ่มควบคุมเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ 1) แบบสอบถามครูเกี่ยวกับสภาพปัญหาการจัดการเรียน การสอนวิทยาศาสตร์ 2) แบบประเมินความเหมาะสมของรูปแบบการเรียนการสอน 3) แผนการจัดการเรียนรู้ 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทิ์ทางการเรียน 5) แบบวัดความใฝ่เรียนรู้ สถิติที่ใช้ในการ วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและทดสอบสมมติฐานโดยใช้ t–test for Independent Samples และ Two –Way ANOVA Repeated Measures

ผลการวิจัยพบว่า

1. สภาพปัญหาในการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่อยู่ในระดับมากมี 2 ประเด็นคือ ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความใฝ่เรียนรู้

2. รูปแบบการเรียนที่สร้างขึ้นประกอบด้วย 1) ขั้นนำและเชื่อมโยง (Form Up Step : F) 2) ขั้นแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Cooperative Learning Step : C) 3) ขั้นนำเสนอความรู้ (Breif Step : B) 4) ขั้นสรุปความรู้ (Learning Conclusion Step : L) 5) ขั้นฝากงานค้นคว้า (Preparing to Step : P) ผลการประเมินความเหมาะสมพบว่า มีความเหมาะสมระดับมากที่สุดมีความสอดคล้องกันทุกขั้นตอนและ มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด

3. ผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามแนวคิดการเรียนแบบยืดหยุ่น เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้สูงขึ้นและความใฝ่เรียนรู้ในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดเชื้อโรค ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า 1) นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนการสอนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนมีพัฒนาการด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความใฝ่เรียนรู้หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) นักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามแนวคิดการเรียนแบบยืดหยุ่น เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้สูงขึ้นและความใฝ่เรียนรู้ในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดเชื้อโรค ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีคะแนน หลังเรียนสูงกว่านักเรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนการสอนวิธีปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

โพสต์โดย หนึ่ง : [3 ก.ย. 2566 เวลา 13:37 น.]
อ่าน [2174] ไอพี : 27.55.92.188
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,830 ครั้ง
ถามหาการศึกษา4.0 จะเริ่มต้นเมื่อใด?
ถามหาการศึกษา4.0 จะเริ่มต้นเมื่อใด?

เปิดอ่าน 21,750 ครั้ง
3 steps พุงยุบใน 2 weeks
3 steps พุงยุบใน 2 weeks

เปิดอ่าน 23,185 ครั้ง
อ่านกันชัดๆ ที่นี่ "อยากเป็นครู ทำอย่างไร?"
อ่านกันชัดๆ ที่นี่ "อยากเป็นครู ทำอย่างไร?"

เปิดอ่าน 12,571 ครั้ง
มาดูกัน 5 วิธีปรับโฉมระบบเผาผลาญ
มาดูกัน 5 วิธีปรับโฉมระบบเผาผลาญ

เปิดอ่าน 14,496 ครั้ง
เหตุการณ์ในแผ่นดินเมื่อปี พ.ศ. 2475
เหตุการณ์ในแผ่นดินเมื่อปี พ.ศ. 2475

เปิดอ่าน 10,328 ครั้ง
สร้างความรู้ใหม่ คือหัวใจปฏิรูปการศึกษา : เสรี พงศ์พิศ
สร้างความรู้ใหม่ คือหัวใจปฏิรูปการศึกษา : เสรี พงศ์พิศ

เปิดอ่าน 35,503 ครั้ง
การใช้ลายมือชื่อผู้รับเงินด้วยลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ในใบเสร็จฯในการเบิกเงินสวัสดิการการศึกษาบุตร
การใช้ลายมือชื่อผู้รับเงินด้วยลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ในใบเสร็จฯในการเบิกเงินสวัสดิการการศึกษาบุตร

เปิดอ่าน 25,132 ครั้ง
การใช้งานโปรแกรม Google Earth
การใช้งานโปรแกรม Google Earth

เปิดอ่าน 98,250 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 3 จำนวนผู้เล่น(The Number Of Players)
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 3 จำนวนผู้เล่น(The Number Of Players)

เปิดอ่าน 16,269 ครั้ง
“มะระ”ป้องเบาหวาน-จัดการริดสีดวง!
“มะระ”ป้องเบาหวาน-จัดการริดสีดวง!

เปิดอ่าน 8,727 ครั้ง
ยูฟ่าประกาศห้ามทรูวิชั่นส์ถ่ายทอดบอลยูโร
ยูฟ่าประกาศห้ามทรูวิชั่นส์ถ่ายทอดบอลยูโร

เปิดอ่าน 4,209 ครั้ง
เทคนิคการคูณเลข
เทคนิคการคูณเลข

เปิดอ่าน 10,391 ครั้ง
รถชนประวัติการณ์ 100 คัน ที่เท็กซัส
รถชนประวัติการณ์ 100 คัน ที่เท็กซัส

เปิดอ่าน 24,969 ครั้ง
ปลูกข่าข้างบ่อปลา สร้างรายได้ถึง 400,000 บาท/ไร่
ปลูกข่าข้างบ่อปลา สร้างรายได้ถึง 400,000 บาท/ไร่

เปิดอ่าน 13,940 ครั้ง
ปลูกฝังทักษะสมองอย่างไรให้เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในอนาคต
ปลูกฝังทักษะสมองอย่างไรให้เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในอนาคต

เปิดอ่าน 30,831 ครั้ง
ทักษะที่จำเป็นสำหรับศตวรรษที่ 21 ประชากรรุ่นใหม่จำเป็นต้องเรียนรู้และมีทักษะอะไรบ้าง
ทักษะที่จำเป็นสำหรับศตวรรษที่ 21 ประชากรรุ่นใหม่จำเป็นต้องเรียนรู้และมีทักษะอะไรบ้าง
เปิดอ่าน 10,602 ครั้ง
ทำไมเราถึงหาว รู้ไหม?
ทำไมเราถึงหาว รู้ไหม?
เปิดอ่าน 9,460 ครั้ง
ระวังตกเป็นคนนิสัยเสียโดยไม่รู้ตัว
ระวังตกเป็นคนนิสัยเสียโดยไม่รู้ตัว
เปิดอ่าน 11,793 ครั้ง
อันตราย! ดื่มน้ำเกินพิกัด
อันตราย! ดื่มน้ำเกินพิกัด
เปิดอ่าน 32,064 ครั้ง
การถ่ายโอนสถานศึกษาและเปลี่ยนสถานะครู เป็นพนักงานของรัฐ : ปัญหาที่เกาไม่ถูกที่คัน
การถ่ายโอนสถานศึกษาและเปลี่ยนสถานะครู เป็นพนักงานของรัฐ : ปัญหาที่เกาไม่ถูกที่คัน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ