ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค STAD ประกอบบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน รายวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้รายงาน นางกิ่งกาญจน์ ทองเกลียว
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนไตรมิตร
อำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ จังหวัดศรีสะเกษ
ปีที่วิจัย 2564
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยเพื่อการพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค STAD ประกอบบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน รายวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เป็นการวิจัยโดยใช้ระเบียบวิธีการวิจัยและพัฒนา (Research and Development : R&D) ซึ่งแบ่งขั้นตอนการวิจัยออกเป็น 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการเรียนการสอนเทคโนโลยี รูปแบบการสอนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค STAD ประกอบบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน รายวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ระยะที่ 2 พัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค STAD ประกอบบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน รายวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ระยะที่ 3 ทดลองใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค STAD ประกอบบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน รายวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยมีวัตถุประสงค์ย่อยคือ1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนโดยรูปแบบการสอนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค STAD ประกอบบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน รายวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 2) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค STAD ประกอบบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน รายวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของรูปแบบการสอนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค STAD ประกอบบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน รายวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ระยะที่ 4 ประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนด้วยรูปแบบการสอนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค STAD ประกอบบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน รายวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนไตรมิตร ตำบลเสียว อำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ จังหวัดศรีสะเกษ องค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 33 คน ได้มาด้วยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เพื่อให้สะดวกในการจัดการเรียนรู้ และตรงตามตารางเรียนของโรงเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ รูปแบบการสอนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค STAD ประกอบบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน รายวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจ
ผลการวิจัยพบว่า
ระยะที่ 1 ศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการเรียนการสอนเทคโนโลยี รูปแบบการสอนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค STAD ประกอบบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน รายวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
จากการศึกษาสภาพปัจจุบันและความต้องการในการเรียนรายวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า ผู้เรียนมีข้อจำกัดเรื่องความรู้ ความเข้าใจ และทักษะการทำกิจกรรมร่วมกัน ครูผู้สอนในโรงเรียนส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการอบรม ขาดทักษะในการสร้างองค์ความรู้ การเพิ่มพูนความรู้หรือขาดการเรียนรู้ที่จะนำมาพัฒนาสื่อ รูปแบบใหม่ ๆ ครูยังไม่มีการนำสื่อ นวัตกรรมมาใช้ ในการจัดการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่องแต่ส่วนใหญ่มีแนวโน้มในการพัฒนาที่ดีขึ้น
ดังนั้น การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค STAD ประกอบบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน รายวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) เป็นการส่งเสริมให้ผู้เรียนได้รู้จักการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันเชิงบวก ผู้เรียนจะรู้สึกว่า ตนจำเป็นจะต้องอาศัยผู้อื่นในการที่จะทำงานกลุ่มให้สำเร็จได้
ระยะที่ 2 พัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค STAD ประกอบบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน รายวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
จากกระบวนการจัดทำรูปแบบการสอนนั้นโดยอาศัยกระบวนการวิจัยและพัฒนา ผู้วิจัยได้ศึกษาและทำตามขั้นตอนอย่างเป็นระบบและวิธีการที่เหมาะสม จึงทำให้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค STAD ประกอบบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน รายวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีความเหมาะสม
ระยะที่ 3 ทดลองใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค STAD ประกอบบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน รายวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า
คะแนนประเมินผลหลังการพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค STAD ประกอบบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน รายวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีความแตกต่างกับคะแนนประเมินผลก่อนการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน รายวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .01 นั่นคือ การจัดการเรียนการสอน รายวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีการนำบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน รายวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) มาประกอบการจัดการเรียนรู้ นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงขึ้นกว่าก่อนเรียน
ประสิทธิภาพของการพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค STAD ประกอบบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน รายวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เท่ากับ 82.84/85.96 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80 / 80 ที่ตั้งไว้
ค่าดัชนีประสิทธิผลของการพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค STAD ประกอบบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน รายวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 0.6984 แสดงว่า นักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนรู้ซึ่งมีคะแนนเพิ่มขึ้นร้อยละ 69.84
ระยะที่ 4 ประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนด้วยรูปแบบการสอนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค STAD ประกอบบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน รายวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยรูปแบบการสอนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค STAD ประกอบบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน รายวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในระดับพึงพอใจมากที่สุด