ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์เป็นฐานผสานกับแนวคิดการรู้คิด เพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์เป็นฐานผสานกับแนวคิดการรู้คิด เพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ

สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ชื่อผู้วิจัย กาญกันตา เหมือนเพ็ชร

ตำแหน่ง ครูวิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

โรงเรียน ขุนหาญวิทยาสรรค์สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ

ปีที่พิมพ์ 2565

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพทั่วไป สภาพปัญหา และแนวทาง

การพัฒนารูปแบบจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์เป็นฐานผสานกับแนวคิดการรู้คิด

เพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) พัฒนารูปแบบ

การจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์เป็นฐานผสานกับแนวคิดการรู้คิด เพื่อส่งเสริมการคิด

อย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) ทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตาม

แนวคิดคอนสตรัคติวิสต์เป็นฐานผสานกับแนวคิดการรู้คิด เพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ

สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 4) ประเมินการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิด

คอนสตรัคติวิสต์เป็นฐานผสานกับแนวคิดการรู้คิด เพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับ

นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยระยะที่ 1 เป็นการศึกษาเอกสาร แนวคิดทฤษฎีและเก็บข้อมูลจาก

การสอบถามประชากรเป้าหมายคือ ครูผู้สอนภาษาไทย จากกลุ่มโรงเรียนขุนหาญสหวิพัฒน์จำนวน

26 คน และตรวจสอบข้อมูลโดยใช้วิธีการสนทนากลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญด้านภาษาไทย

จำนวน 5 คน ระยะที่ 2 การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์เป็นฐาน

ผสานกับแนวคิดการรู้คิด เพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

2.1) รูปแบบชั่วคราว 2.2) แบบประเมินความสอดคล้องของร่างรูปแบบ 2.3) พัฒนาหรือสร้าง

เครื่องมือประกอบรูปแบบ ระยะที่ 3 ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์เป็นฐานผสานกับแนวคิดการรู้คิด เพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียน

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ประชากร คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 11 ห้อง กลุ่มตัวอย่าง เป็น

นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/8 โรงเรียนขุนหาญวิทยาสรรค์ จำนวน 31คน ได้มาโดยวิธีการเลือกแบบ

แบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565

เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์เป็น

ฐานผสานกับแนวคิดการรู้คิด เพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา

ปีที่ 1 จำนวน 25 แผน แบบทดสอบวัดการคิดอย่างมีวิจารณญาณ 40 ข้อ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์

ทางการเรียนจำนวน 30 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูล ประกอบด้วย ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบน

มาตรฐาน ระยะที่ 4 คือ ประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้และสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์

ข้อมูล ประกอบด้วย ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัย พบว่า

1. ผลการศึกษาสภาพทั่วไปเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์เป็นฐาน

ผสานกับแนวคิดการรู้คิด เพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก

1.1 ผลการศึกษาสภาพปัญหาเกี่ยวกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดคอนสตรัค

ติวิสต์เป็นฐานผสานกับแนวคิดการรู้คิด เพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียน

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในภาพรวม ครูภาษาไทยมีความคิดเห็นต่อพฤติกรรมของนักเรียนที่ไม่ส่งเสริม

การคิดอย่างมีวิจารณญาณอยู่ในระดับมาก และความคิดเห็นต่อพฤติกรรมของนักเรียนที่ส่งเสริม

การคิดอย่างมีวิจารณญาณในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง

1.2 แนวทางการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์เป็นฐาน

ผสานกับแนวคิดการรู้คิด เพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

พบว่า รูปแบบประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ ได้แก่ หลักการ วัตถุประสงค์ เนื้อหา กิจกรรม และการ

ประเมินผล

2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์เป็นฐานผสานกับแนวคิดการรู้คิด

เพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ประกอบด้วย 5

องค์ประกอบ ได้แก่ หลักการ วัตถุประสงค์ เนื้อหา กิจกรรม และการประเมินผล โดยได้นำแนวคิด

ทฤษฎีสนับสนุนคือทฤษฎีสร้างสรรค์ความรู้(Constructivism) และทฤษฎีการรู้คิด (Metacognition)

ทั้งนี้ผู้วิจัยได้สังเคราะห์ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้5 ขั้น ประกอบด้วย 1) ขั้นสร้างสถานการณ์ปัญหา

(Problem Determination) เป็นขั้นที่ครูผู้สอนกระตุ้นให้นักเรียนเกิดความกระหายอยากรู้อยากเห็น

เกิดข้อสงสัย โดยการกระตุ้นด้วยภาพ วิดีโอ บทอ่านสั้นๆ หรือเกม ชวนสนทนาด้วยคำถามกระตุ้นคิด

ให้นักเรียนบอกเล่าตามประสบการณ์ความรู้เดิม แล้วชวนให้ต้องการค้นคว้าหาคำตอบ 2) ขั้นสำรวจ

และวิจารณ์(Research) เป็นขั้นสำรวจแสวงหาข้อมูลความรู้ใหม่ของนักเรียนจากแหล่งข้อมูล สื่อ ใบ

ความรู้ที่ครูจัดเตรียม หรือจากแหล่งความรู้ต่าง ๆ ผ่านกิจกรรมที่น่าสนใจ ให้ผู้เรียนตั้งคำถามและ

แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ร่วมกันวิเคราะห์ วิจารณ์ข้อมูลกับเพื่อนและครูผู้สอนในประเด็นที่ศึกษา

3) ขั้นตกผลึกความคิด (Synthesis) เป็นขั้นฝึกกระบวนการคิดไตร่ตรองหรือใคร่ครวญอย่างลึกซึ้ง

เพื่อให้ได้ความคิดรวบยอดที่สมบูรณ์ด้วยการปฏิบัติกิจกรรมส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ

5 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 การระบุประเด็นปัญหา ขั้นที่ 2 การยอมรับข้อตกลงเบื้องต้น ขั้นที่ 3 การนิรนัย

ขั้นที่ 4 การอุปนัย และขั้นที่ 5 ข้อสรุป 4) ขั้นสร้างผลงาน (Production) เป็นขั้นที่ให้นักเรียน

สร้างสรรค์ผลงาน สร้างสรรค์วิธีนำเสนอในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การอภิปราย การเขียน และแสดง

ผลงานที่เป็นความรู้ของตนให้ผู้อื่นรับรู้ เพื่อช่วยให้นักเรียนได้ตรวจสอบความเข้าใจของตน และ

5) ขั้นประเมินและสรุป (Summarize and Evaluate) เป็นขั้นให้นักเรียนสรุปองค์ความรู้เดิมและ

ความรู้ใหม่ของตน ด้วยการเรียบเรียงข้อมูลองค์ความรู้อย่างเป็นระบบ ระเบียบ สาระสำคัญครบถ้วน

เพื่อให้จดจำสิ่งที่เรียนรู้ได้ง่าย โดยครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเป็นความคิดรวบยอด ให้นักเรียน

เชื่อมโยงความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน และประเมินความรู้ที่ได้รับด้วยใบงาน ใบกิจกรรมหรือ

แบบทดสอบ

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์เป็นฐานผสานกับ

แนวคิดการรู้คิด เพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เป็น

ดังนี้

3.1 ผลการเปรียบเทียบความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียน

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบที่พัฒนาขึ้น พบว่า นักเรียนมีความสามารถ

ในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3.2 ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้

ตามรูปแบบที่พัฒนาขึ้น พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมี

นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. ผลการประเมินการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์เป็นฐานผสาน

กับแนวคิดการรู้คิด เพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

มีดังนี้

4.1 ผลการประเมินความเป็นไปได้ของการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิด

คอนสตรัคติวิสต์เป็นฐานผสานกับแนวคิดการรู้คิด เพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับ

นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก

4.2 ผลการประเมินความเป็นประโยชน์ของการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิด

คอนสตรัคติวิสต์เป็นฐานผสานกับแนวคิดการรู้คิด เพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับ

นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก

4.3 ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตาม

แนวคิดคอนสตรัคติวิสต์เป็นฐานผสานกับแนวคิดการรู้คิด เพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ

สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 อยู่ในระดับมา

โพสต์โดย เมลิสา : [31 ส.ค. 2566 เวลา 10:21 น.]
อ่าน [62998] ไอพี : 1.2.231.24
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 23,649 ครั้ง
รู้ยัง ! กรมขนส่งขยายเวลาใบขับขี่รถยนต์ชั่วคราว จาก 1 ปี เป็น 2 ปี
รู้ยัง ! กรมขนส่งขยายเวลาใบขับขี่รถยนต์ชั่วคราว จาก 1 ปี เป็น 2 ปี

เปิดอ่าน 43,716 ครั้ง
"ใบมะกรูด" แก้ความดันโลหิตสูง
"ใบมะกรูด" แก้ความดันโลหิตสูง

เปิดอ่าน 17,169 ครั้ง
วิจัยพบ"ตำลึงทอง"รักษากระดูกพรุน
วิจัยพบ"ตำลึงทอง"รักษากระดูกพรุน

เปิดอ่าน 49,464 ครั้ง
ลมบกและลมทะเล
ลมบกและลมทะเล

เปิดอ่าน 17,710 ครั้ง
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์

เปิดอ่าน 12,917 ครั้ง
8 วินัยใหม่เพิ่มเงินเก็บทั้งปี
8 วินัยใหม่เพิ่มเงินเก็บทั้งปี

เปิดอ่าน 23,345 ครั้ง
การวิจัยระดับปริญญาโทและปริญญาเอกทางเทคโนโลยีการศึกษา
การวิจัยระดับปริญญาโทและปริญญาเอกทางเทคโนโลยีการศึกษา

เปิดอ่าน 12,943 ครั้ง
9 วิธีเด็ด แก้หลับเวลากวดวิชา
9 วิธีเด็ด แก้หลับเวลากวดวิชา

เปิดอ่าน 30,824 ครั้ง
คอลัมน์: การศึกษา: ถึงคิว...พักงาน(ยาว) "ผอ.สมศ." ปลดล็อก..."ประเมินภายนอกรอบ 4"!!
คอลัมน์: การศึกษา: ถึงคิว...พักงาน(ยาว) "ผอ.สมศ." ปลดล็อก..."ประเมินภายนอกรอบ 4"!!

เปิดอ่าน 15,328 ครั้ง
พระจันทร์ยิ้มเมื่อคืนวันที่ 1 ธ.ค.51
พระจันทร์ยิ้มเมื่อคืนวันที่ 1 ธ.ค.51

เปิดอ่าน 280,569 ครั้ง
ความถี่และความบ่อย(ภาษาอังกฤษ)
ความถี่และความบ่อย(ภาษาอังกฤษ)

เปิดอ่าน 26,153 ครั้ง
ส่งเครื่องมือไปพิสูจน์หลักฐานว่ามนุษย์โลกเป็น ลูกหลานดาวอังคาร
ส่งเครื่องมือไปพิสูจน์หลักฐานว่ามนุษย์โลกเป็น ลูกหลานดาวอังคาร

เปิดอ่าน 14,753 ครั้ง
ปรากฏการณ์ในโฟโตสเฟียร์
ปรากฏการณ์ในโฟโตสเฟียร์

เปิดอ่าน 32,225 ครั้ง
คำอธิษฐานวันลอยกระทง
คำอธิษฐานวันลอยกระทง

เปิดอ่าน 18,273 ครั้ง
3 โรค ที่กระเทียมสามารถป้องกันได้
3 โรค ที่กระเทียมสามารถป้องกันได้

เปิดอ่าน 13,430 ครั้ง
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่!! ข้อคิดวันตรุษจีน
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่!! ข้อคิดวันตรุษจีน
เปิดอ่าน 16,714 ครั้ง
ติดกาแฟทั้งที อย่างนี้ต้องดื่มให้ฉลาด
ติดกาแฟทั้งที อย่างนี้ต้องดื่มให้ฉลาด
เปิดอ่าน 20,808 ครั้ง
แชร์ทั่วเน็ต!!! วิธีสยบมดง่ายๆ แค่เปลือกไข่ย่างไฟ
แชร์ทั่วเน็ต!!! วิธีสยบมดง่ายๆ แค่เปลือกไข่ย่างไฟ
เปิดอ่าน 53,389 ครั้ง
เคล็ดลับการเรียนเก่งด้วยตัวเอง
เคล็ดลับการเรียนเก่งด้วยตัวเอง
เปิดอ่าน 25,585 ครั้ง
12 เทคโนโลยี (ไม่) พร้อมใช้ใน Web 3.0
12 เทคโนโลยี (ไม่) พร้อมใช้ใน Web 3.0

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ