ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติและกระบวนการทำงานกลุ่ม โดยใช้ศูนย์การเรียนรู้ เศรษฐกิจพอเพียงเป็นฐาน เรื่อง การปลูกไม้ผลเศรษฐก

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1)ศึกษาบริบทความพร้อมของโรงเรียนและความจำเป็นในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติและกระบวนการทำงานกลุ่ม โดยใช้ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเป็นฐาน เรื่อง การปลูกไม้ผลเศรษฐกิจทั่วไป สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 2)พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติและกระบวนการทำงานกลุ่ม โดยใช้ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเป็นฐาน เรื่อง การปลูกไม้ผลเศรษฐกิจทั่วไป สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 3)ทดลองการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติและกระบวนการทำงานกลุ่ม โดยใช้ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเป็นฐาน เรื่อง การปลูกไม้ผลเศรษฐกิจทั่วไป สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่พัฒนาขึ้น และ 4)ประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติและกระบวนการทำงานกลุ่ม โดยใช้ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเป็นฐาน เรื่อง การปลูกไม้ผลเศรษฐกิจทั่วไป สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

4.1)เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการก่อนเรียนและหลังเรียนหลังการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติและกระบวนการทำงานกลุ่ม โดยใช้ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเป็นฐาน เรื่อง การปลูกไม้ผลเศรษฐกิจทั่วไป สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

4.2)เพื่อศึกษาทักษะการปฏิบัติงานของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติและกระบวนการทำงานกลุ่ม โดยใช้ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเป็นฐาน เรื่อง การปลูกไม้ผลเศรษฐกิจทั่วไป

4.3)เพื่อศึกษาความพึงพอใจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติและกระบวนการทำงานกลุ่ม โดยใช้ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเป็นฐาน เรื่อง การปลูกไม้ผลเศรษฐกิจทั่วไป กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/2 จำนวน 21 คน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนพรานวิบูลวิทยา อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติและกระบวนการทำงานกลุ่ม โดยใช้ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเป็นฐาน เรื่อง การปลูกไม้ผลเศรษฐกิจทั่วไป สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบประเมินทักษะการปฏิบัติงาน แบบสอบถามความพึงพอใจ แบบสอบถามความคิดเห็นผู้ปกครอง ผู้บริหาร ครู ด้านบริบทความพร้อมของโรงเรียนและความต้องการของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 แบบสัมภาษณ์ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าสถิติ ร้อยละ(%) ค่าเฉลี่ย (x̄) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) สถิติทดสอบ t แบบไม่อิสระ (Dependent Samples) และการวิเคราะห์เนื้อหา(Content analysis)

ผลการวิจัย พบว่า

1. บริบทของโรงเรียน ความต้องการและข้อมูลพื้นฐานในการจัดการเรียนรู้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติและกระบวนการทำงานกลุ่ม โดยใช้ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเป็นฐาน เรื่อง การปลูกไม้ผลเศรษฐกิจทั่วไป สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.65, S.D. = 0.52) และความต้องการของนักเรียนและข้อมูลพื้นฐานในการจัดการเรียนรู้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติและกระบวนการทำงานกลุ่ม โดยใช้ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเป็นฐาน เรื่อง การปลูกไม้ผลเศรษฐกิจทั่วไป สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.57, S.D. = 0.45)

2. ประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติและกระบวนการทำงานกลุ่ม โดยใช้ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเป็นฐาน เรื่อง การปลูกไม้ผลเศรษฐกิจทั่วไป สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ซึ่งมี 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการและแนวคิดของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ 2)วัตถุประสงค์ของรูปแบบ 3)กระบวนการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน คือ (1)ขั้นเตรียมความพร้อม (2)ขั้นเข้าใจและลงมือปฏิบัติ (3)ขั้นได้ผลงานและชิ้นงาน (4)ขั้นการวัดผลประเมินผล โดยพบว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติและกระบวนการทำงานกลุ่ม โดยใช้ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเป็นฐาน เรื่อง การปลูกไม้ผลเศรษฐกิจทั่วไป สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.45/86.82 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้

3. ผลการทดลองการใช้รูปแบบในการจัดการเรียนรู้ ทั้ง 7 แผนการจัดการเรียนรู้และ 7 ฐานการเรียนรู้ พบว่า นักเรียนมีความกระตือรือร้น มีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนมีการปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนักเรียนด้วยกัน มีกระบวนการกลุ่ม ตลอดจนแลกเปลี่ยนเรียนรู้สามารถปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ได้อย่างดีและมีคะแนนการทดสอบย่อยหลังเรียน ในทุกฐานการเรียนรู้ ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 100

4. ผลการประเมินรูปแบบ พบว่า 4.1)ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การปลูกไม้ผลเศรษฐกิจทั่วไป ของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติและกระบวนการทำงานกลุ่ม โดยใช้ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเป็นฐาน เรื่อง การปลูกไม้ผลเศรษฐกิจทั่วไป สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 สูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4.2)ทักษะการปฏิบัติงานของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติและกระบวนการทำงานกลุ่ม โดยใช้ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเป็นฐาน เรื่อง การปลูกไม้ผลเศรษฐกิจทั่วไป โดยภาพรวม มีทักษะการปฏิบัติงานกลุ่ม อยู่ในระดับดี( = 4.35, S.D. = 0.49) 4.3)ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติและกระบวนการทำงานกลุ่ม โดยใช้ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเป็นฐาน เรื่อง การปลูกไม้ผลเศรษฐกิจทั่วไป พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ( = 4.38, S.D. = 0.42)

โพสต์โดย ครูการงาน : [30 ส.ค. 2566 เวลา 10:54 น.]
อ่าน [2148] ไอพี : 1.1.252.8
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 64,435 ครั้ง
"นายกรัฐมนตรี" อธิบาย "ไทยแลนด์ 4.0" และ "คนไทย 4.0" ให้เข้าใจง่าย
"นายกรัฐมนตรี" อธิบาย "ไทยแลนด์ 4.0" และ "คนไทย 4.0" ให้เข้าใจง่าย

เปิดอ่าน 23,589 ครั้ง
วิธีระงับความโกรธ
วิธีระงับความโกรธ

เปิดอ่าน 15,238 ครั้ง
อวสาน Hotmail ไมโครซอฟท์เปิดตัว Outlook.com แล้ว
อวสาน Hotmail ไมโครซอฟท์เปิดตัว Outlook.com แล้ว

เปิดอ่าน 11,257 ครั้ง
คลิปเรื่องเด่นเย็นนี้ กับความเป็นจริงเรื่อง การถอดวิชานาฏศิลป์ ?
คลิปเรื่องเด่นเย็นนี้ กับความเป็นจริงเรื่อง การถอดวิชานาฏศิลป์ ?

เปิดอ่าน 20,153 ครั้ง
พิสูจน์กฎคณิตศาสตร์โดยใช้ภาพ
พิสูจน์กฎคณิตศาสตร์โดยใช้ภาพ

เปิดอ่าน 12,630 ครั้ง
เปิด 10 เมนูสุขภาพ รับปี 2556 สไตล์อายุรวัฒน์
เปิด 10 เมนูสุขภาพ รับปี 2556 สไตล์อายุรวัฒน์

เปิดอ่าน 15,882 ครั้ง
เกิดทฤษฎีอันใหม่ดาวพุธกับดาวศุกร์ เป็นเศษเดน ของโลก
เกิดทฤษฎีอันใหม่ดาวพุธกับดาวศุกร์ เป็นเศษเดน ของโลก

เปิดอ่าน 20,138 ครั้ง
ปัญหาขาดแคลนครูในโรงเรียนขนาดเล็ก แก้ไขอย่างไรดี
ปัญหาขาดแคลนครูในโรงเรียนขนาดเล็ก แก้ไขอย่างไรดี

เปิดอ่าน 17,905 ครั้ง
ไม่อยากเสียเงินฟรี ต้องอ่าน ก่อนติดฟิล์มกระจกบ้านต้องรู้อะไรบ้าง
ไม่อยากเสียเงินฟรี ต้องอ่าน ก่อนติดฟิล์มกระจกบ้านต้องรู้อะไรบ้าง

เปิดอ่าน 19,263 ครั้ง
สุดยอด 5 ผลไม้บำรุงเลือด
สุดยอด 5 ผลไม้บำรุงเลือด

เปิดอ่าน 14,344 ครั้ง
เปลี่ยนระบบโทรศัพท์ใหม่ แต่ใช้เบอร์เดิมได้ เริ่ม 1 ก.ย.
เปลี่ยนระบบโทรศัพท์ใหม่ แต่ใช้เบอร์เดิมได้ เริ่ม 1 ก.ย.

เปิดอ่าน 47,029 ครั้ง
ระเบียบการจ่ายค่าตอบแทนพิเศษ ของผู้ที่เงินเดือนเต็มขั้น
ระเบียบการจ่ายค่าตอบแทนพิเศษ ของผู้ที่เงินเดือนเต็มขั้น

เปิดอ่าน 20,231 ครั้ง
ท่าบริหารไหล่และแขนคนทำงาน
ท่าบริหารไหล่และแขนคนทำงาน

เปิดอ่าน 28,059 ครั้ง
31 พฤษภาคม วันงดสูบบุหรี่โลก
31 พฤษภาคม วันงดสูบบุหรี่โลก

เปิดอ่าน 42,159 ครั้ง
มิติของเทคโนโลยีการศึกษากับการสอนทางไกล
มิติของเทคโนโลยีการศึกษากับการสอนทางไกล

เปิดอ่าน 39,974 ครั้ง
เทควันโด : ประโยชน์ของการเล่นกีฬาเทควันโด
เทควันโด : ประโยชน์ของการเล่นกีฬาเทควันโด
เปิดอ่าน 36,865 ครั้ง
เด็กๆ ควรใช้นิ้วมือในการนับเลขหรือไม่
เด็กๆ ควรใช้นิ้วมือในการนับเลขหรือไม่
เปิดอ่าน 112,830 ครั้ง
เรื่องของกาพย์ที่คุณควรรู้
เรื่องของกาพย์ที่คุณควรรู้
เปิดอ่าน 15,352 ครั้ง
กำจัดความเครียดได้ง่าย ๆ ด้วยการกินอาหาร
กำจัดความเครียดได้ง่าย ๆ ด้วยการกินอาหาร
เปิดอ่าน 29,073 ครั้ง
มาค้นหาไฟล์ใหญ่ๆในฮาร์ดดิสก์กันเถอะ
มาค้นหาไฟล์ใหญ่ๆในฮาร์ดดิสก์กันเถอะ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ