ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ด้วยกิจกรรมการสอนแบบเพื่อนช่วยเพื่อนโดยใช้แบบฝึกทักษะ

แบบเสนอผลงาน/นวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice)

ระดับเขตพื้นที่การศึกษา ปีการศึกษา 2566

ครูผู้สอนคณิตศาสตร์ยอดเยี่ยม

ชื่อผู้เสนอผลงาน นางพัชรี ภูนฤมิต

ประเภทสถานศึกษา : ขนาดเล็ก

ประเภทผลงาน : ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน

โรงเรียน : บ้านเกาะวิทยา อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช

ชื่อผลงาน การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ด้วยกิจกรรมการสอนแบบเพื่อนช่วยเพื่อนโดยใช้แบบฝึกทักษะ

1. ความสำคัญของผลงานหรือนวัตกรรมที่นำเสนอ

1.1 ความสำคัญสภาพปัญหา

โรงเรียนบ้านเกาะวิทยาเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก จัดการเรียนการสอนตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 นักเรียนส่วนใหญ่เป็นนักเรียนที่มีฐานะยากจน ผู้ปกครองมีอาชีพรับจ้าง ครอบครัวแตกแยกอาศัยอยู่กับปู่ย่าตายาย ความรู้พื้นฐานอยู่ในระดับปานกลางและอ่อน โรงเรียนบ้านเกาะวิทยามีครูคณิตศาสตร์เพียงหนึ่งคน มีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจำนวน 22 คน จัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามหลักสูตรสถานศึกษา รายวิชาพื้นฐานจำนวน 1.0 หน่วยกิตจำนวน 2 ชั่วโมง รายวิชาเพิ่มเติมจำนวน 1.5 หน่วยกิตจำนวน 3 ชั่วโมง รวมเรียนคณิตศาสตร์สัปดาห์ละ 5 ชั่วโมง นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายส่วนใหญ่เป็นนักเรียนเดิมจากมัธยมศึกษาตอนต้น ครูผู้สอนจึงรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล ทั้งด้านการเรียนและด้านครอบครัว จึงได้ศึกษาวิธีการสอนแบบเพื่อนช่วยเพื่อน และพบว่าการจัดกิจกรรมแบบเพื่อนช่วยเพื่อนเหมาะสมและสามารถแก้ปัญหาในการจัดการเรียนการสอนให้นักเรียนได้มากที่สุด

“เพื่อนช่วยเพื่อน” เป็นการจัดการความรู้ก่อนลงมือทำกิจกรรม (Learning Before Doing) เพื่อแสวงหาผู้ช่วยที่มีความแตกต่าง มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรู้ เพื่อขยาย กรอบความคิดให้กว้างและมีประสิทธิภาพมายิ่งขึ้น เปิดมุมมองความคิดที่หลากหลายจากการแลกเปลี่ยนระหว่างทีมที่มีทักษะ ความสามารถ และ ประสบการณ์ที่แตกต่างกัน ทำให้ไม่มองอะไรเพียงด้านเดียว เป็นกลยุทธ์ทางการสอนที่ประสบผลสำเร็จในทีมขนาดเล็ก ที่ซึ่ง นักเรียนมีระดับความสามารถแตกต่างกัน ใช้ความหลากหลายของกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อการ ปรับปรุงความเข้าใจต่อเนื้อหาวิชา สมาชิกแต่ละคนในทีมมีความรับผิดชอบไม่เพียงแต่เฉพาะการ เรียนรู้แต่ยังรวมถึงการช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีมในการเรียนรู้ด้วย นอกจากนี้ยังมีการสร้างบรรยากาศ เพื่อให้บังเกิดการบรรลุผลสำเร็จที่ตั้งไว้ด้วย

กิจกรรมวิธีการเรียนรู้แบบเพื่อนช่วยเพื่อน เป็นแนวคิดที่เปิดโอกาสให้นักเรียนมีโอกาส เรียนรู้ได้ด้วยตนเองเป็นการกระจายบทบาทการสอนจากครูไปสู่นักเรียนนับว่าเป็นวิธีการสอนที่ยึดนักเรียนเป็นศูนย์กลางและได้มีผู้กล่าวถึงความหมายไว้ดังนี้

ชูศรี วงศ์รัตนะ และคณะ(2545) กล่าวว่าการเรียนรู้แบบเพื่อนช่วยเพื่อน(Peer-Assisted Learning) เป็นการเรียนรู้โดยให้นักเรียนช่วยเพื่อนซึ่งกนและกันแทนที่ครูจะเป็นผู้สอนโดยตรงเป็นการสอนตัวต่อตัวที่เพื่อนอาจช่วยเหลือแนะนำเพื่อนโดยตรง หรือใช้สื่อการเรียนรู้อื่นมาประกอบ เช่น แบบฝึก หนังสือเรียนเล่มเล็กบทเรียนสำเร็จรูป วีดีทัศน์คอมพิวเตอร์ช่วยสอน และการเรียนการสอนแบบเพื่อนช่วยเพื่อนซึ่งมีลักษณะเป็นการเรียนรู้

ระหวางกัน ถ้าครูผู้สอนและผู้เรียนคุ้นเคยกับการเปลี่ยนแปลงเรียนรู้ซึ่งกันและกัน โดยที่ตรูเป็นที่ปรึกษาและคอยดูแลนักเรียนตลอด

Imel (1994) กล่าวว่า วิธีการเรียนรู้แบบเพื่อนช่วยเพื่อน หมายถึง กระบวนการเรียนการสอนที่ให้ผู้เรียนจับคู่สอนกนเอง

Thomas (1993) กล่าวว่าเป็นกระบวนการเรียนการสอนที่ให้ผู้เรียนที่มีความสามารถ ทางการเรียนสูงกว่าและได้รับการฝึกฝน รวมทั้งอยู่ภายใต้ความควบคุมจากครูผู้สอนช่วยเหลือผู้เรียนคนอื่นในการเรียน โดยเป็นผู้เรียนที่อยูในระดับชั้นเดียวกัน

จากความหมายดังกล่าวข้างต้น วิธีการเรียนรู้แบบเพื่อนช่วยเพื่อน หมายถึง การจัดกิจกรรม การเรียนรู้เป็นคู่หรือกลุ่มย่อยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันมีการผลัดเปลี่ยนกันเป็นผู้สอนและผู้เรียน เพื่อให้ได้มาซึ่งความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกบบทเรียน ครูผู้สอนมีบทบาทหน้าที่เป็นพียงผู้ให้คำ แนะนำและจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับผู้เรียน

1.2 แนวทางแก้ไขและพัฒนา

การศึกษาผู้เรียนรายบุคคลทำให้ข้าพเจ้าได้รู้จักนักเรียนในด้านต่าง ๆ เช่น พฤติกรรมด้านการเรียน ความรู้พื้นฐาน ภาวะการเป็นผู้นำ สติปัญญา นอกจากนั้นการทำงานที่มอบหมาย เช่น แบบฝึกทักษะถ้าเป็นแบบเดียวกันผู้เรียนจะทำเหมือนกันโดยไม่ได้ผ่านการคิดหรือฝึกทักษะเลย ด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้าได้เลือก รูปแบบการสอนเพื่อนช่วยเพื่อน บูรณาการกับแบบฝึกทักษะเพื่อผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง ด้วยการร่วมคิดร่วมฝึกเป็นคู่หรือเป็นกลุ่มคนเก่งช่วยคนที่อ่อนกว่าและนำเสนอขั้นตอนการคิด โดยครูใช้คำถามตอบให้นักเรียนได้สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองตามศักยภาพ

2. จุดประสงค์และเป้าหมาย ของการดำเนินงาน

จุดประสงค์

การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ด้วยกิจกรรมการสอนแบบเพื่อนช่วยเพื่อนโดยใช้แบบฝึกทักษะ ได้กำหนดจุดประสงค์ไว้ดังนี้

1. เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6

2. เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ O-NET นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

3. เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้ มีความพึงพอใจต่อการเรียนคณิตศาสตร์

เป้าหมายเชิงปริมาณ : นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 โรงเรียนบ้านเกาะวิทยา จำนวน 22 คน

เป้าหมายเชิงคุณภาพ

1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 มีระดับผลการเรียน 2.5 ขึ้นไป

ร้อยละ 80

2. ผลสัมฤทธิ์ O-NET นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สูงขึ้น

3. ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้ มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนคณิตศาสตร์

โพสต์โดย จิม : [29 ส.ค. 2566 เวลา 09:49 น.]
อ่าน [1259] ไอพี : 118.173.214.99
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 21,006 ครั้ง
10 เรื่องจริงเกี่ยวกับความฝัน ที่คุณอาจไม่เคยรู้
10 เรื่องจริงเกี่ยวกับความฝัน ที่คุณอาจไม่เคยรู้

เปิดอ่าน 13,584 ครั้ง
คนแบบไหนที่ต้องการวิตามินซี
คนแบบไหนที่ต้องการวิตามินซี

เปิดอ่าน 8,011 ครั้ง
ชู
ชู'กรุงเก่า'นำร่อง ย่อโลกก.ท่องเที่ยวไทย

เปิดอ่าน 12,134 ครั้ง
จุ่มลวก (หรือลวง)
จุ่มลวก (หรือลวง)

เปิดอ่าน 140,482 ครั้ง
การทำงานของเอนไซม์
การทำงานของเอนไซม์

เปิดอ่าน 29,623 ครั้ง
ต้นมันปู
ต้นมันปู

เปิดอ่าน 15,812 ครั้ง
การถวายสังฆทานที่ถูกต้อง โดยท่าน "ว.วชิรเมธี"
การถวายสังฆทานที่ถูกต้อง โดยท่าน "ว.วชิรเมธี"

เปิดอ่าน 10,862 ครั้ง
ดูกันหรือยัง "กังนัม สไตล์" Original
ดูกันหรือยัง "กังนัม สไตล์" Original

เปิดอ่าน 9,524 ครั้ง
10 วิธีปลูกผักสวนครัวในกระถาง
10 วิธีปลูกผักสวนครัวในกระถาง

เปิดอ่าน 15,020 ครั้ง
วันข้าราชการพลเรือน 1 เมษายน
วันข้าราชการพลเรือน 1 เมษายน

เปิดอ่าน 26,262 ครั้ง
พิธีวิวาห์ซาไก
พิธีวิวาห์ซาไก

เปิดอ่าน 16,388 ครั้ง
ผลวิจัยชี้ใบสาบเสือแห้งห้ามเลือดได้ดีกว่าผ้าก๊อซ
ผลวิจัยชี้ใบสาบเสือแห้งห้ามเลือดได้ดีกว่าผ้าก๊อซ

เปิดอ่าน 20,233 ครั้ง
8 วิธีปรับโฉม "โรงเรียน" ใหม่ จัดอย่างไรให้เด็กเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ
8 วิธีปรับโฉม "โรงเรียน" ใหม่ จัดอย่างไรให้เด็กเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ

เปิดอ่าน 48,213 ครั้ง
"อู่ซ่อมคน" : รางวัลชนะเลิศ การประกวดสปอตโทรทัศน์วันครู ประจำปี 2560
"อู่ซ่อมคน" : รางวัลชนะเลิศ การประกวดสปอตโทรทัศน์วันครู ประจำปี 2560

เปิดอ่าน 4,416 ครั้ง
กรมอนามัย เผย 6 วิธี ป้องกันโควิด-19 บนรถรับ-ส่งนักเรียน
กรมอนามัย เผย 6 วิธี ป้องกันโควิด-19 บนรถรับ-ส่งนักเรียน

เปิดอ่าน 15,123 ครั้ง
ชาวโลกแห่ดูคลิป สิ่งเล็กๆ ในสังคมที่เรียกว่า “น้ำใจ“ ยอดคนดูเกือบ3ล้านครั้งแล้ว
ชาวโลกแห่ดูคลิป สิ่งเล็กๆ ในสังคมที่เรียกว่า “น้ำใจ“ ยอดคนดูเกือบ3ล้านครั้งแล้ว
เปิดอ่าน 89,644 ครั้ง
แบบจำลองการสื่อสารของแชนนัน และวีเวอร์
แบบจำลองการสื่อสารของแชนนัน และวีเวอร์
เปิดอ่าน 12,611 ครั้ง
ดูชัดๆ ฟ้าผ่าสุดโหด
ดูชัดๆ ฟ้าผ่าสุดโหด
เปิดอ่าน 13,019 ครั้ง
"การผลิต" กับการศึกษาประเทศสิงคโปร์
"การผลิต" กับการศึกษาประเทศสิงคโปร์
เปิดอ่าน 13,926 ครั้ง
พระจันทร์ยิ้มเมื่อคืนวันที่ 1 ธ.ค.51
พระจันทร์ยิ้มเมื่อคืนวันที่ 1 ธ.ค.51

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ