ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระ เปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ผู้วิจัย นางสาวกาญชนาพร ทองเพ็ชร ตำแหน่งครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
โรงเรียนเทศบาลคลองท่อมใต้ เทศบาลตำบลคลองท่อมใต้ อำเภอคลองท่อม
จังหวัดกระบี่ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย
ปีที่วิจัย 2564
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development: R&D) มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อศึกษาสภาพการปฏิบัติและความต้องการในการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่าน และการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 (2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่าน และการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีประสิทธิภาพ (3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 (4) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัด การเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่าน และการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาลคลองท่อมใต้ เทศบาลตำบลคลองท่อมใต้ อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 34 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบ การจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่าน และการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ประถมศึกษาปีที่ 1 แบบฝึกเสริมทักษะภาษาไทย เรื่อง การอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น เป็นแบบเลือกตอบ ชนิด 3 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ การจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการวิเคราะห์สภาพการปฏิบัติและความต้องการในการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาการอ่าน และการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 พบว่า ความคิดเห็นของครูผู้สอน ระดับประถมศึกษาในโรงเรียนเทศบาลคลองท่อมใต้ ต่อสภาพการปฏิบัติการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.23 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน โดยเรียงลำดับด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย พบว่า มีการปฏิบัติในด้านการวัดและประเมินผล มีค่าคะแนนเฉลี่ยสูงสุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.33 รองลงมา ได้แก่ การปฏิบัติด้านการจัดการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.23 และ การปฏิบัติ ด้านการใช้สื่อ และแหล่งเรียนรู้ในการจัดการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.10 ตามลำดับ ส่วนความคิดเห็นของครูผู้สอนระดับประถมศึกษาในโรงเรียนเทศบาลคลองท่อมใต้ มีความต้องการในการจัด การเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากทุกข้อ โดยมีค่าเฉลี่ยโดยรวมเท่ากับ 4.34 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ครูผู้สอนระดับประถมศึกษา ในโรงเรียนเทศบาลคลองท่อมใต้ มีความต้องการรู้เรื่องการอ่านอยู่ในระดับมากทุกข้อ โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.37 และมีความต้องการรู้เรื่องการเขียน อยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.31
2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่าน และการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) แนวคิดและทฤษฎีพื้นฐาน 2) วัตถุประสงค์ 3) ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ (Syntax) 4) หลักการตอบสนอง (Principle of Reaction) 5) ระบบสนับสนุนการเรียนรู้ (Support System) และ 6) การวัดและประเมินผล (Evaluation) และออกแบบกระบวนการเรียนรู้ ตามรูปแบบที่ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน 1. หลักการ แนวคิดและทฤษฎีพื้นฐาน 2. วัตถุประสงค์ ของการจัดการเรียนรู้ 3. ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ ซึ่งออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ไว้ 3 ขั้นตอน 3.1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 3.2 ขั้นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ประกอบด้วย 8 ขั้น ขั้นที่ 1 ขั้นสร้างประสบการณ์ ขั้นที่ 2 ขั้นวิเคราะห์ประสบการณ์ ขั้นที่ 3 ขั้นปรับประสบการณ์นำไปสู่ความคิดรวบยอด ขั้นที่ 4 ขั้นพัฒนาความคิดด้วยข้อมูล ขั้นที่ 5 ขั้นทำตามแนวคิดที่กำหนด ขั้นที่ 6 ขั้นสร้างชิ้นงานตามความถนัด/ความสนใจ ขั้นที่ 7 ขั้นบูรณาการประสบการณ์และประยุกต์ใช้ ขั้นที่ 8 ขั้นแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์การเรียนรู้ของตนเองและผู้อื่น 3.3 ขั้นสรุป 4. ระบบสังคม 5. หลักการตอบสนอง และ 6. ระบบสนับสนุน
รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.63 เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า มีความเหมาะสมในระดับมากถึงมากที่สุด (มีค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 4.40- 4.80) และความคิดเห็น ของผู้เชี่ยวชาญที่มีต่อแผนการจัดการเรียนรู้ ตามรูปแบบรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีผลประเมินโดยภาพรวม มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.57 แสดงว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียนคำ ที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีความเหมาะสมสามารถนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ต่อไป
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 การทดสอบวัดความสามารถในการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 พบว่า คะแนนเต็ม 30 คะแนน นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน 15.46 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 51.52 คะแนนเฉลี่ยหลังเรียน 24.77 คะแนน คิดเป็น ร้อยละ 82.57 แสดงให้เห็นว่า หลังการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่าน และการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 นักเรียนมีความสามารถในการอ่าน และการเขียนคำที่ประสม ด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ เพิ่มขึ้น แสดงว่าการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดของรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่าน และการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ทำให้นักเรียน มีความสามารถในการอ่าน และการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ เพิ่มขึ้น
4. ผลการประเมินประสิทธิผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่าน และการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยมีวัตถุประสงค์ย่อย ดังนี้
1) ผลการวิเคราะห์ข้อมูลจากการทดสอบวัดความสามารถในการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 พบว่า คะแนนเต็ม 30 คะแนน นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน 14.65 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 48.82 คะแนนเฉลี่ย หลังเรียน 24.76 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 82.55 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า นักเรียนที่ได้รับ การจัดกิจกรรมด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่าน และการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 หลังเรียนมีความสามารถในการอ่านและการเขียนเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
2) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใจต่อการอ่านและการเขียนคำ ที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก