ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดแบบเชิงรุก Active learning เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องกีฬาเปตอง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและ พลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดแบบเชิงรุก Active learning เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องกีฬาเปตอง

กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและ พลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ผู้รายงาน นายเฉลิมพล สังข์ฆพงษ์

ปีการศึกษา 2565

บทคัดย่อ

การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ เป็นการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดแบบเชิงรุก Active learning เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องกีฬาเปตอง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 วัตถุประสงค์ของการศึกษาค้นคว้า 1)เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดแบบเชิงรุก Active learning เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องกีฬาเปตอง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดแบบเชิงรุก Active learning เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องกีฬาเปตอง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดแบบเชิงรุก Active learning เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องกีฬาเปตอง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 4). เพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดแบบเชิงรุก Active learning เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องกีฬาเปตอง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 30 คน ซึ่งได้มาด้วยวิธีการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster random sampling) โดยจับสลากได้นักเรียนโรงเรียนเทศบาล 1 (กบินทร์ราษฎรอำรุง) อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษามี 3 ชนิด ได้แก่ (1)แผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดแบบเชิงรุก Active learning เรื่องกีฬาเปตอง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 16 แผน (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง กีฬาเปตอง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือกจานวน 30 ข้อ มีค่าความยาก (p)ตั้งแต่ 0.37 ถึง 0.77 ค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.33 ถึง 0.83 และความเชื่อมั่นทั้งฉบับ(rcc) มีค่าเท่ากับ 0.95 และ (3) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนซึ่งแบ่งเป็น 4 ด้าน ประกอบด้วย 1) ด้านเนื้อหา 2)ด้านกระบวนการจัดการเรียนรู้ 3) ด้านสื่อและอุปกรณ์ และ 4) ด้านการวัดและประเมินผล รวมทั้ง 4 ด้าน จำนวน 20 ข้อมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ (α) มีค่าเท่ากับ 0.825 สถิติที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (x ̅) ร้อยละ (Percentage) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)

ผลการศึกษาพบว่า

11. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับสภาพปัญหาในการเรียนและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนและสภาพการจัดการเรียนการสอนวิชาพลศึกษาในโรงเรียนสังกัดเทศบาลตำบลกบินทร์ และของครูผู้สอน ด้านผู้เรียน พบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนตามหลักสูตรต่ำกว่าเกณฑ์ ผลการสัมภาษณ์นักเรียน เกี่ยวกับปัญหาในการเรียนและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่า ด้านสภาพปัญหาในการเรียน ครูผู้สอนเน้นเนื้อหาสาระ และกฎเกณฑ์และคำศัพท์เฉพาะที่เป็นภาษาอังกฤษ กิจกรรมไม่น่าสนใจ และต้องการให้ครูปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอนหรือวิธีจัดกิจกรรมให้น่าสนใจกว่านี้ ด้านผู้สอน พบว่า ผลจากการสัมภาษณ์ครูผู้สอนเกี่ยวกับสภาพการจัดการเรียนการสอนวิชาพลศึกษาในโรงเรียนสังกัดเทศบาลตำบลกบินทร์ พบว่า ครูผู้สอนใช้เนื้อหาในสื่อการเรียนการ สอนจากสำนักพิมพ์ต่างๆ ภายในประเทศ ครูผู้สอนไม่ได้ออกแบบเนื้อหาในการจัดการเรียนการ สอนเอง ตลอดจนเทคนิควิธีการสอน ยังใช้รูปแบบเดิมๆ ยังคงเน้นการสาธิตจาการปฏิบัติของครู มากกว่าให้นักเรียนปฏิบัติกันเอง ยึดเอกสารประกอบการสอนเป็นหลัก

2. ประสิทธิภาพของการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดแบบเชิงรุก Active learning เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องกีฬาเปตอง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.02/82.11 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดแบบเชิงรุก Active learning เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องกีฬาเปตอง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

3.1 ค่าดัชนีประสิทธิผลของการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดแบบเชิงรุก Active learning เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องกีฬาเปตอง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 0.6307 แสดงว่า นักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนรู้ซึ่งมีคะแนนเพิ่มขึ้นร้อยละ 63.07

3.2 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดแบบเชิงรุก Active learning เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องกีฬาเปตอง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ค่าเฉลี่ยหลังเรียน (x̄ ) = 24.97 สูงกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน (x̄ ) = 15.47 นั่นคือ การจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดแบบเชิงรุก Active learning เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องกีฬาเปตอง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นกว่าก่อนเรียน

4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดแบบเชิงรุก Active learning เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องกีฬาเปตอง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยแบบประเมินแบ่งออกเป็น 4 ด้าน ประกอบด้วย 1) ด้านเนื้อหา (x ̅ = 4.52 , S.D = 0.59) ระดับพึงพอใจมากที่สุด 2) ด้านกระบวนการจัดการเรียนรู้(x ̅ =4.50 ,S.D =0.56) ระดับความพึงพอใจมากที่สุด 3) ด้านสื่อและอุปกรณ์ ( x ̅=4.54 , S.D= 0.52 )ระดับความพึงพอใจมากที่สุด 4) ด้านการวัดและประเมินผล(x ̅ =4.53 ,S.D= 0.53 ) ระดับความพึงพอใจมากที่สุด และรวมทุกด้าน (x ̅=4.52, S.D= 0.52) ระดับความพึงพอใจมากที่สุด

โพสต์โดย chalerm : [20 ส.ค. 2566 เวลา 09:28 น.]
อ่าน [2004] ไอพี : 101.109.21.196
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,914 ครั้ง
เคล็ดลับการถ่ายภาพ ทะเล ให้สวยถูกใจ
เคล็ดลับการถ่ายภาพ ทะเล ให้สวยถูกใจ

เปิดอ่าน 20,655 ครั้ง
เสริมดวงชะตาให้ดี ด้วยการเสริมฮวงจุ้ยประตูบ้าน
เสริมดวงชะตาให้ดี ด้วยการเสริมฮวงจุ้ยประตูบ้าน

เปิดอ่าน 13,450 ครั้ง
วิธีสำหรับทำให้ผิวขาวใส แบบไร้สารเคมี
วิธีสำหรับทำให้ผิวขาวใส แบบไร้สารเคมี

เปิดอ่าน 50,782 ครั้ง
รวมคำสั่ง RUN ที่จำเป็นต้องใช้
รวมคำสั่ง RUN ที่จำเป็นต้องใช้

เปิดอ่าน 17,405 ครั้ง
เลือดกำเดามาจากไหน?
เลือดกำเดามาจากไหน?

เปิดอ่าน 25,354 ครั้ง
วิวัฒนาการ ตู้ไปรษณีย์ สู่สัญลักษณ์ที่สุดเมืองไทย
วิวัฒนาการ ตู้ไปรษณีย์ สู่สัญลักษณ์ที่สุดเมืองไทย

เปิดอ่าน 9,611 ครั้ง
How to Sync Keyboard Shortcuts with iCloud in iOS 6
How to Sync Keyboard Shortcuts with iCloud in iOS 6

เปิดอ่าน 32,486 ครั้ง
ขนาดของหน่วยความจำและขนาดของภาพเมื่อนำไปอัด
ขนาดของหน่วยความจำและขนาดของภาพเมื่อนำไปอัด

เปิดอ่าน 14,592 ครั้ง
ระวัง! ของกินเล่นพลังงานสูง
ระวัง! ของกินเล่นพลังงานสูง

เปิดอ่าน 14,804 ครั้ง
กล้วยป่า
กล้วยป่า

เปิดอ่าน 24,826 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาแล้ว ปฏิรูปการลูกเสือด้วยครับ โดย จารึก อะยะวงศ์
ปฏิรูปการศึกษาแล้ว ปฏิรูปการลูกเสือด้วยครับ โดย จารึก อะยะวงศ์

เปิดอ่าน 11,982 ครั้ง
5 ประโยชน์จากน้ำมันมะกอก
5 ประโยชน์จากน้ำมันมะกอก

เปิดอ่าน 12,762 ครั้ง
เผย 10 สุดยอดวิดีโอบน "ยูทูบ" ที่คนไทยชอบชมมากที่สุดปี 2558
เผย 10 สุดยอดวิดีโอบน "ยูทูบ" ที่คนไทยชอบชมมากที่สุดปี 2558

เปิดอ่าน 47,280 ครั้ง
ศ.ดร.ชัยยงค์ พรหมวงศ์
ศ.ดร.ชัยยงค์ พรหมวงศ์

เปิดอ่าน 14,422 ครั้ง
วันปิยมหาราช 23 ตุลาคม
วันปิยมหาราช 23 ตุลาคม

เปิดอ่าน 20,286 ครั้ง
4 วิธีแก้เมาแบบฉับพลัน ด้วยตัวเอง
4 วิธีแก้เมาแบบฉับพลัน ด้วยตัวเอง
เปิดอ่าน 19,654 ครั้ง
ไผ่บงหวาน..บ้านนาทุ่ม สร้างรายได้เดือนละแสน
ไผ่บงหวาน..บ้านนาทุ่ม สร้างรายได้เดือนละแสน
เปิดอ่าน 15,154 ครั้ง
4 ท่าบริหาร เพื่อหน้าท้องเพรียวสวย
4 ท่าบริหาร เพื่อหน้าท้องเพรียวสวย
เปิดอ่าน 51,808 ครั้ง
เเนะ 7 วิธีมี "เงินเก็บ" เพิ่มมากขึ้นภายใน 1 ปี
เเนะ 7 วิธีมี "เงินเก็บ" เพิ่มมากขึ้นภายใน 1 ปี
เปิดอ่าน 9,119 ครั้ง
กรมทางหลวงแนะ 13 เส้นทางเลี่ยงขึ้นเหนือ-ล่องใต้ ช่วงสงกรานต์
กรมทางหลวงแนะ 13 เส้นทางเลี่ยงขึ้นเหนือ-ล่องใต้ ช่วงสงกรานต์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ