บทคัดย่อ
จังหวัดบุรีรัมย์เป็นอีกหนึ่งจังหวัดในภาคอีสานที่ผลักดันนโยบายด้านการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง มีการนำเอกลักษณ์และ Soft Power ในด้านต่าง ๆ ของจังหวัดมาต่อยอดด้วยการจัดงานเทศกาลเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การเล่นว่าวอีสาน จังหวัดบุรีรัมย์เริ่มจัดงานมหกรรมว่าวอีสานขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อปี 2529 ในช่วงเดือนธันวาคมทุกปี ช่วงที่มีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดผ่าน ข้าวในนากำลังออกรวงชาวนาจะออกจากบ้าน ไปทำลานนวดข้าว ซึ่งบรรยากาศในยามค่ำคืนที่เงียบสงบและห่างไกลจากหมู่บ้านดูจะเงียบเหงา และหวาดกลัวจึงคิดประดิษฐ์ทำว่าวสองห้องปล่อยติดลมบนไว้ตลอดคืนให้เสียงของแอกเป็นเพื่อน ไล่ความเหงา (นายทรงศักดิ์ พิราบขาว ภูเก้าแก้ว ,2566)
การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) เป็นการเรียนรู้ที่สามารถพัฒนาทักษะความคิดระดับสูงอย่างมีประสิทธิภาพช่วยให้ผู้เรียนวิเคราะห์สังเคราะห์และประเมินข้อมูลในสถานการณ์ใหม่ได้ดีในที่สุดจะช่วยให้ผู้เรียนเกิดแรงจูงใจและฝักใฝ่การเรียนรู้ โดยเริ่มจากสิ่งใกล้ตัวในชุมชนที่นักเรียนสนใจคือการเล่นว่าวอีสานในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวข้าว ว่าวอีสานมีหลายชนิดต้องใช้ความรู้และทักษะหลายอย่าง การประดิษฐ์และการเล่นว่าวจึงสามารถนำมาจัดกิจกรรมการเรียนรู้บูรณาการได้หลายกลุ่มสาระการเรียนรู้
วิธีการดำเนินงาน
โรงเรียนรวมมิตรวิทยาเป็นโรงเรียนในโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา Partnership School ได้พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาเป็นหลักสูตรฐานสมรรถนะ ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการจัดทำและพัฒนาหลักสูตรทั้งฝ่ายบริหาร ครู นักเรียน ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาและชุมชน เป็นหลักสูตรที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากสิ่งใกล้ตัว ใกล้ชิดธรรมชาติ วัฒนธรรมประเพณีในชุมชนเพื่อให้นักเรียนไม่ลืมรากเหง้าและความเป็นบุรีรัมย์มีการกำหนดเป็นนโยบายของโรงเรียนที่จะใช้เอกลักษณ์ความเป็นท้องถิ่น และ Soft Power ด้านต่าง ๆ ในท้องถิ่นมาจัดเป็นสถานการณ์การเรียนรู้หรือเป็นสื่อการเรียนรู้ให้ผู้เรียน เป็นการปลูกฝังค่านิยมความรักษ์ท้องถิ่นให้มีในนักเรียนทุกคนตาม School Concept ยุวทูตน้อยรักษ์ท้องถิ่น ทำกินด้วยสัมมาชีพ มีจิตอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การเรียนรู้ของผู้เรียนจะไม่ถูกจำกัดอยู่แค่ภายในห้องเรียนอีกต่อไป นักเรียนจะได้เรียนรู้ทุกสิ่งที่อยากเรียนรู้โดยมีครูเป็นผู้อำนวยการเรียนรู้หรือ Facilitator โดยมีวิธีการดำเนินงานดังนี้
ขั้นเตรียมการ Plan (P)
1. โรงเรียนมีการกำหนดแผนงาน/โครงการกิจกรรมเกี่ยวกับการใช้ Soft Power เป็นสื่อหรือสถานการณ์การเรียนรู้ ดังนี้
- โครงการส่งเสริมการเรียนรู้มุ่งสู่ Smart Kids
- กิจกรรมศึกษาแหล่งเรียนรู้
- กิจกรรม Soft Power บุรีรัมย์ สู่สัมมาชีพ
2. มีการจัดทำหน่วยการเรียนรู้บูรณาการคุณค่าสู่ชีวิต ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 6 ตาม Roadmap แดนวัฒนธรรม เลิศล้ำกีฬา มีแผนการจัดการเรียนรู้ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ดังนี้
- ตอนที่ 1 รู้จักว่าวอีสาน Soft Power บุรีรัมย์
- ตอนที่ 2 มาทำว่าวกันเถอะ
- ตอนที่ 3 Soft Power สู่สัมมาชีพ
ขั้นปฏิบัติ DO (D)
การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ในหน่วย แดนวัฒนธรรม เลิศล้ำกีฬา ดังนี้
- ตอนที่ 1 รู้จักว่าวอีสาน Soft Power บุรีรัมย์ มีแผนการจัดการเรียนรู้ทั้งหมด 2 แผนการจัดการเรียนรู้
(1) การศึกษาเรียนรู้ในห้องเรียนโดยให้นักเรียนสืบค้นชื่อและลักษณะของว่าวอีสาน และงานมหกรรมว่าวอีสานของอำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ และนำเสนอในรูปแบบป้ายนิเทศ
(2) การศึกษาเรียนรู้นอกห้องเรียนกับปราชญ์ชุมชนที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการทำว่าวอีสานและเคยได้รับรางวัลชนะเลิศจากการแข่งขันว่าวในมหกรรมว่าวอีสานที่อำเภอห้วยราช นายชัยแพร ประเสริฐแก้ว ที่อยู่ บ้านหนองโคลน หมู่ที่ 5 ต.สระทอง อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์
- ตอนที่ 2 มาทำว่าวกันเถอะ
(1) นักเรียนแบ่งกลุ่มเพื่อออกแบบและวางแผนการทำว่าวของตนเอง โดยเลือกจากว่าวอีสานที่นักเรียนชอบและสนใจ หรืออาจมีการผสมผสานว่าวหลายชนิดให้เป็นว่าวเอกลักษณ์เฉพาะกลุ่มตนเอง
(2) ลงมือปฏิบัติจริงโดยใช้วัสดุที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น
- ตอนที่ 3 Soft Power สู่สัมมาชีพ นักเรียนประดิษฐ์ว่าวเพื่อจำหน่ายให้เพื่อน ๆ น้อง ๆ และในชุมชน
ขั้นตรวจสอบ Check (C)
1. การประเมินเพื่อตรวจสอบความรู้ความเข้าใจของนักเรียนแบ่งการประเมินเป็น 3 ระยะ คือประเมินก่อนเรียน ขณะเรียนและหลังเรียน
2. บันทึกปัจจัยความสำเร็จตามจุดประสงค์การเรียนรู้และปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นทั้งก่อนเรียนรู้ ระหว่างเรียนรู้แหลังการเรียนรู้
ขั้นปรับปรุงและต่อยอด Act (C)
1. การนำปัญหาอุปสรรคมาพัฒนาและปรับปรุงแก้ไขหากไม่สามารถทำได้ทันทีให้มีการจดบันทึกแนวทางการแก้ไขไว้เพื่อนำไปปรับใช้กับการศึกษาเรียนรู้ต่อไป
2. การนำปัจจัยความสำเร็จมาต่อยอดเพื่อพัฒนางานด้านอื่น ๆ และการจัดการเรียนรู้เรื่องอื่นรวมทั้งการต่อยอดสู่การประกอบอาชีพของผู้เรียน
มีการประเมินผู้เรียนเป็น 3 ระยะ ดังนี้ ก่อนเรียนรู้ นักเรียนมีความสนใจและอยากเรียนเรื่องว่าวบุรีรัมย์ เพราะเป็นช่วงฤดูที่เหมาะกับการเล่นว่าว
ระหว่างเรียนรู้ นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ดีทั้งในห้องเรียนและการศึกษาเรียนรู้นอกห้องเรียนจากปราชญ์ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำว่าว สามารถนำมาประดิษฐ์ว่าวได้ด้วยตัวเอง
หลังเรียนรู้ นักเรียนสามารถนำความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ไปปฏิบัติจริง สามารถประดิษฐ์ว่าวเพื่อจำหน่ายให้เพื่อน ๆ และน้อง ๆ ในโรงเรียนจนเกิดรายได้ ดังตาราง
ผู้เรียนมีทักษะการปฏิบัติงานที่ดี รวมทั้งมีเจตคติที่ดีต่อประเพณีการเล่นว่าวและการสืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่น
ข้อเสนอแนะในการนำไปใช้และแนวทางการต่อยอด
ในการนำกิจกรรม Soft Power บุรีรัมย์ ลำนำการเรียนรู้ว่าวอีสาน ไปใช้ ควรพิจารณาดังนี้
1. ควรวิเคราะห์ School Concept และหลักสูตรสถานศึกษาเพื่อปรับกิจกรรมให้เหมาะสมและมีการศึกษาบริบทพื้นที่ ความนิยมและประเพณีการเล่นว่าวของชุมชน
2. แนวทางการต่อยอดคือในเบื้องต้นได้เสนอกิจกรรมเพิ่มเติมในโครงการส่งเสริมการเรียนรู้สู่ Smart Kids ให้มีกิจกรรมแข่งขันว่าวโดยเริ่มจากในโรงเรียนก่อนแล้วประสานกับชุมชนเพื่อจัดเป็นมหกรรมงานว่าวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของชุมชนต่อไป