ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางโรงเรียนสอนคิด Thinking School เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดของนักเรียนโรงเรียนเมืองจันทร์วิทยาคม

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายของการวิจัยเพื่อ 1). ศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา แนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางโรงเรียนสอนคิด Thinking School เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดของนักเรียนโรงเรียนเมืองจันทร์วิทยาคม 2). เพื่อหาประสิทธิภาพรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางโรงเรียนสอนคิด Thinking School เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดของนักเรียนโรงเรียนเมืองจันทร์วิทยาคม 3). เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ ตามแนวทางโรงเรียนสอนคิด Thinking School เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดของนักเรียนโรงเรียนเมืองจันทร์วิทยาคม 4). เพื่อประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางโรงเรียนสอนคิด Thinking School เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดของนักเรียนโรงเรียนเมืองจันทร์วิทยาคม ในการวิจัยกลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนโรงเรียนเมืองจันทร์วิทยาคม จำนวน 322 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางโรงเรียนสอนคิด Thinking School เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดของนักเรียนโรงเรียนเมืองจันทร์วิทยาคม มีผลการประเมินโดยรวมเฉลี่ย 4.57 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.64 แบบทดสอบวัดทักษะการคิด ความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา เท่ากับ 1.00 มีค่าความยาก (p) ตั้งแต่ 0.26 - 0.56 ค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (D) ตั้งแต่ 0.44 - 0.94 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ (α) เท่ากับ 0.83 และแบบสอบถามความพึงพอใจ เป็นแบบมาตรตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ แบ่งเป็น 4 ด้าน รวม 20 ข้อ สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่า เฉลี่ย (μ )ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (σ )สถิติทีแบบไม่อิสระ (t-test dependent ) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) นำเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการพรรณนาวิเคราะห์

ผลการวิจัย พบว่า

ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา แนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางโรงเรียนสอนคิด Thinking School เพื่อส่งเสริมทักษะการคิด

พบว่า ในการจัดการเรียนรู้ ครูผู้สอนยังขาดการสนับสนุนและเปิดโอกาสให้นักเรียนได้คิด

อย่างอิสระ หลากหลายแนวทาง ครูส่วนใหญ่จะจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามเนื้อหาในหนังสือเรียน ขาดแนวทางในการจัดการเรียนรู้เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนกล้าคิด กล้าแสดงออก และส่วนมากยังไม่ให้ความสำคัญในการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการคิด และนักเรียนส่วนมากยังไม่ได้รับการสนับสนุนให้เรียนรู้ตามกรอบแนวทางการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งกิจกรรมที่ครูจัดให้นักเรียนยังไม่มีความลุ่มลึกพอที่จะเชื่อมโยงไปสู่การพัฒนาทักษะด้านการคิด ให้บรรลุผล ครูไม่ได้สนับสนุนให้คิดหาแนวทางหรือแบบแผนการค้นหาคำตอบที่แตกต่างหลากหลายด้วยวิธีการแบบใหม่ จึงส่งผลให้นักเรียนต้องการพัฒนาทักษะด้านการคิดเพิ่มขึ้นอีก ครูผู้สอนจึงจำเป็นที่จะต้องจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่กระตุ้นให้นักเรียนกล้าคิด คิดเป็นระบบ อยากเรียนรู้สิ่งแปลกใหม่

ขั้นตอนที่ 2 การหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ตามแนวทางโรงเรียนสอนคิด Thinking School เพื่อส่งเสริมทักษะการคิด

พบว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางโรงเรียนสอนคิด Thinking School มีประสิทธิภาพและความเหมาะสม สามารถพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียน โดยมีวิธีการสอนThink school 4 ขั้นตอน คือ 1. Do now เตรียมความพร้อมก่อนเรียน 2. Purpose แจ้งจุดประสงค์ สร้างความกระจ่างทั้งต่อครูและนักเรียนในเรื่องที่จะเรียนรู้ 3. Work Mode ปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้เนื้อหาด้วยเครื่องมือสอนคิด 4. Reflective Thinking การคิดแบบสะท้อนกลับเพื่อตรวจสอบความรู้ความเข้าใจผลการตรวจสอบรูปแบบการเรียนการสอน

ขั้นตอนที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางโรงเรียนสอนคิด Thinking School เพื่อส่งเสริมทักษะการคิด

พบว่า นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางโรงเรียนสอนคิด Thinking School เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดของนักเรียนโรงเรียนเมืองจันทร์วิทยาคมมีทักษะการคิดหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

ขั้นตอนที่ 4 ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางโรงเรียน สอนคิด Thinking School เพื่อส่งเสริมทักษะการคิด

พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนจัดการรู้ ในแต่ละด้านอยู่ในระดับมากที่สุด (μ = 4.54 ,σ = 0.86 ) และเมื่อแยกเป็นรายด้าน พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อ ตามแนวทางโรงเรียนสอนคิด Thinking School เพื่อส่งเสริมทักษะการคิด โดยเรียงจากค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย ได้ดังนี้ ด้านกิจกรรมการเรียนรู้ ( μ = 4.65, σ = 0.79) รองลงมาได้แก่ ด้านครูผู้สอน (μ =4.55, σ = 0.63) ด้านวัดและประเมินผล ( μ = 4.53 , σ = 0.74 ) และลำดับสุดท้ายคือ ด้านประโยชน์ที่ได้รับ ( μ = 4.45 , σ = 0.98 ) โดยประเด็นกิจกรรมการเรียนรู้ส่งเสริมให้นักเรียนได้แลกเปลี่ยนความรู้ความคิดด้วยตนเองและร่วมเรียนรู้กับผู้อื่น นักเรียนมีความพึงพอใจมากที่สุดที่สุด ( μ = 4.87) และพึงพอใจน้อยที่สุด คือการจัดการเรียนรู้ช่วยให้นักเรียนสร้างความรู้ ความเข้าใจด้วยตนเอง มีอิสระในการคิด ( μ = 4.19)

โพสต์โดย พรรณ : [12 ส.ค. 2566 เวลา 07:01 น.]
อ่าน [3532] ไอพี : 1.10.250.20
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 15,719 ครั้ง
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อระบบการศึกษาไทยในแบบ "รองเท้าเบอร์เดียว"
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อระบบการศึกษาไทยในแบบ "รองเท้าเบอร์เดียว"

เปิดอ่าน 23,848 ครั้ง
วิธีระงับความโกรธ
วิธีระงับความโกรธ

เปิดอ่าน 97,436 ครั้ง
ประวัติย่อของคณิตศาสตร์ : พีธาคอรัส (Pythagorus)
ประวัติย่อของคณิตศาสตร์ : พีธาคอรัส (Pythagorus)

เปิดอ่าน 12,489 ครั้ง
ปัจจัยฉุดรั้งการศึกษา (1)
ปัจจัยฉุดรั้งการศึกษา (1)

เปิดอ่าน 25,983 ครั้ง
ปราบชิคุนกุนยาด้วยสมุนไพร
ปราบชิคุนกุนยาด้วยสมุนไพร

เปิดอ่าน 16,981 ครั้ง
รู้หรือไม่ สิทธิบัตรการออกแบบชิ้นแรก ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา คือ...
รู้หรือไม่ สิทธิบัตรการออกแบบชิ้นแรก ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา คือ...

เปิดอ่าน 9,042 ครั้ง
วันวิสาขบูชา คือวันอะไร
วันวิสาขบูชา คือวันอะไร

เปิดอ่าน 242,774 ครั้ง
เรื่องที่ควรรู้ ก่อนคิดจะเลี้ยง "ไซบีเรียน ฮัสกี้"
เรื่องที่ควรรู้ ก่อนคิดจะเลี้ยง "ไซบีเรียน ฮัสกี้"

เปิดอ่าน 37,619 ครั้ง
การประเมินวิทยฐานะช่วงเปลี่ยนผ่านจากเกณฑ์เก่าสู่ระบบ PA (ศึกษานิเทศก์)
การประเมินวิทยฐานะช่วงเปลี่ยนผ่านจากเกณฑ์เก่าสู่ระบบ PA (ศึกษานิเทศก์)

เปิดอ่าน 17,879 ครั้ง
ฤกษ์ดี ฤกษ์มงคล เดือนธันวาคม 2551
ฤกษ์ดี ฤกษ์มงคล เดือนธันวาคม 2551

เปิดอ่าน 17,114 ครั้ง
"รางวัลให้ครู"
"รางวัลให้ครู"

เปิดอ่าน 27,051 ครั้ง
เผย 5 สมุนไพร ลดความดันโลหิตสูง ที่คุณคาดไม่ถึง
เผย 5 สมุนไพร ลดความดันโลหิตสูง ที่คุณคาดไม่ถึง

เปิดอ่าน 16,485 ครั้ง
บทความพิเศษ "เมื่อระบบการศึกษาของไทยล้มเหลว"
บทความพิเศษ "เมื่อระบบการศึกษาของไทยล้มเหลว"

เปิดอ่าน 35,541 ครั้ง
กีฬาวิ่ง 31 ขา สามัคคี
กีฬาวิ่ง 31 ขา สามัคคี

เปิดอ่าน 15,750 ครั้ง
เตือนภัย : ฝนตก ยุงลายชุกชุม ระวังไข้เลือดออกคุกคามเด็กๆ
เตือนภัย : ฝนตก ยุงลายชุกชุม ระวังไข้เลือดออกคุกคามเด็กๆ

เปิดอ่าน 16,879 ครั้ง
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับผลไม้
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับผลไม้
เปิดอ่าน 11,957 ครั้ง
แนวทางการส่งเสริมพัฒนาการเด็กวัย3 - 6 ปี สำหรับพ่อแม่ ผู้ปกครอง
แนวทางการส่งเสริมพัฒนาการเด็กวัย3 - 6 ปี สำหรับพ่อแม่ ผู้ปกครอง
เปิดอ่าน 21,112 ครั้ง
การศึกษาในอนาคต
การศึกษาในอนาคต
เปิดอ่าน 20,097 ครั้ง
แนวทางการพัฒนาทักษะการค้นคว้า และศึกษาด้วยตนเองเพื่อรองรับ AEC : 2558
แนวทางการพัฒนาทักษะการค้นคว้า และศึกษาด้วยตนเองเพื่อรองรับ AEC : 2558
เปิดอ่าน 17,087 ครั้ง
Download "ส.ค.ส."พระราชทาน ให้กำลังใจพสกนิกร "ตั้งอยู่ในความเพียร"
Download "ส.ค.ส."พระราชทาน ให้กำลังใจพสกนิกร "ตั้งอยู่ในความเพียร"

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ