ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับวิธีการสอนแบบเปิด (Open Approach) เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่อง การเขียนอัลกอริทึมและการเขียนโ

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับวิธีการสอนแบบเปิด (Open Approach) เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่อง การเขียนอัลกอริทึมและการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ผู้วิจัย นางสาวนงนุช พรหมภักดิ์

ปีที่ศึกษา 2565

บทคัดย่อ

การวิจัยการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับวิธีการสอนแบบเปิด (Open Approach) เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่อง การเขียนอัลกอริทึมและการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีวัตถุประสงค์การวิจัย ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับวิธีการสอนแบบเปิด (Open Approach) 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับวิธีการสอนแบบเปิด (Open Approach) เรื่อง การเขียนอัลกอริทึมและการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับวิธีการสอนแบบเปิด (Open Approach) เรื่อง การเขียนอัลกอริทึมและการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับวิธีการสอนแบบเปิด (Open Approach)

วิธีการวิจัยประกอบไปด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่ 1) การศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับวิธีการสอนแบบเปิด (Open Approach) มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสภาพการเรียนการสอนวิชาวิทยาการคำนวณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ศึกษาหลักการ แนวการจัดการเรียนการสอน การวัดและประเมินผลตามแนวคิดการสอนวิชาวิทยาการคำนวณ และศึกษาหลักการ แนวการจัดการเรียนการสอน การวัดและประเมินผลตามแนวคิดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) และวิธีการสอนแบบเปิด เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบสอบถามสภาพการเรียนการสอน และแบบสัมภาษณ์เชิงลึก 2) การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับวิธีการสอนแบบเปิด (Open Approach) เรื่อง การเขียนอัลกอริทึมและการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) พัฒนารูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับวิธีการสอนแบบเปิด (Open Approach) เรื่อง การเขียนอัลกอริทึมและการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 (2) ประเมินรูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นโดยผู้ทรงคุณวุฒิ และ (3) การทดสอบประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอนกับนักเรียนที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่าง เพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการปรับปรุงรูปแบบการเรียนการสอน 3) การทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับวิธีการสอนแบบเปิด (Open Approach) เรื่อง การเขียนอัลกอริทึมและการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (2) ทักษะการคิดวิเคราะห์ และ (3) ความสามารถในการแก้ปัญหา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา

ปีที่ 2 หลังเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับวิธีการสอนแบบเปิด (Open Approach) เทียบกับเกณฑ์ที่โรงเรียนกำหนดไว้ร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม และ

มีจำนวนนักเรียนผ่านเกณฑ์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของนักเรียนทั้งหมด และ 4) การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับวิธีการสอนแบบเปิด (Open Approach) เรื่อง การเขียนอัลกอริทึมและการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น โดยให้นักเรียนตอบแบบสอบถามความพึงพอใจหลังเรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับวิธีการสอนแบบเปิด (Open Approach)

สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าประสิทธิภาพ E1/E2 ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้ t-test (Dependent Samples)

ผลการวิจัยปรากฏ พบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับวิธีการสอนแบบเปิด (Open Approach) พบว่า 1) สภาพการจัดการเรียนการสอนวิชาวิทยาการคำนวณโดยเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 3.62, S.D.=0.53) สภาพชั้นเรียนและบรรยากาศการเรียนรู้ ส่วนใหญ่จัดสภาพชั้นเรียนโดยให้นักเรียนนั่งเรียนแบบเดี่ยว 1 คน/ 1 เครื่อง ตามความสมัครใจ โดยหลักในการจัดการเรียนการสอนส่วนใหญ่มีขั้นนำเข้าสู่บทเรียนโดยการตั้งคำถามเพื่อทบทวนความรู้เดิมหรือการถามเพื่อนำเข้าสู่เนื้อหาใหม่ ขั้นสอนส่วนใหญ่ใช้วิธีการจัดการเรียนการสอนโดยครูเป็นผู้บรรยายและให้นักเรียนศึกษาเนื้อหาในแบบเรียนหรือใบความรู้ประกอบการบรรยาย ครูผู้สอนส่วนใหญ่ใช้เนื้อหาในการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ใบความรู้และใบงาน ในการจัดการเรียนการสอนส่วนใหญ่เน้นด้านความรู้โดยให้นักเรียนปฏิบัติการทำใบงานหรือแบบฝึกหัด ส่วนใหญ่มีการสรุปบทเรียนโดยการใช้คำถาม หรือมอบหมายให้นักเรียนทำใบงานหรือแบบฝึกหัดมาส่ง 2) ผลการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ทรงคุณวุฒิในด้านการจัดการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์ พบว่า (1) ผู้บริหารควรมีภาวะผู้นำทางวิชาการโดยร่วมกำหนดนโยบายกับฝ่ายวิชาการและหัวหน้ากลุ่มสาระในการพัฒนาหลักสูตรเพื่อต้องการให้การจัดการศึกษามุ่งสู่ความสำเร็จทั้งด้านผลสัมฤทธิ์และความเป็นเลิศทางวิชาการ (2) ครูควรมีบทบาทในการจัดการเรียนการรู้ที่มุ่งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามที่กำหนดเป็นเป้าหมายร่วมกัน โดยดำเนินการสอนทั้ง 8 กลุ่มสาระ เน้นการสอนโดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ จัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้อย่างหลากหลายและมีวิธีการจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับศักยภาพของผู้เรียน (3) นักเรียนควรมีนิสัยรักการอ่านและแสวงหาความรู้ด้วยตนเองจากห้องสมุด แหล่งเรียนรู้ และสื่อต่างๆ รอบตัว (4) การจัดกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสม สอดคล้องกับกรอบยุทธศาสตร์ชาติ และทักษะที่จำเป็นสำหรับศตวรรษที่ 21 ควรจัดกระบวนการเรียนการสอนให้นักเรียนรู้จักคิดวิเคราะห์ มีความคิดสร้างสรรค์ มีความมั่นใจในตนเอง รู้จักแสวงหาความรู้ รู้เท่าทันสารสนเทศในการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง มีความมุ่งมั่น อดทน ทำงานหนัก ทำงานได้เป็น รับผิดชอบต่อส่วนรวม (5) ควรจัดสภาพแวดล้อมภายในห้องเรียนคอมพิวเตอร์ให้เอื้อต่อการเรียนรู้และการสืบค้นความรู้ มีระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ระบบอินเทอร์เน็ตทั้งแบบมีสาย (LAN) และแบบไร้สาย (WiFi) เพื่อให้นักเรียนสามารถใช้เครื่องมือสื่อสารหรือคอมพิวเตอร์ในเชื่อมต่อเพื่อสืบค้นความรู้ได้ด้วยตนเอง (6) ควรมีการวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริง ครูผู้สอนมีการวัดผลประเมินผลตามสภาพจริงที่หลากหลาย เน้นการเขียนมากกว่าการเลือกตอบเพื่อให้เด็กได้คิดวิเคราะห์ (7) สนับสนุนให้ครูใช้สื่อที่หลากหลายในสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ มีสื่อเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเพียงพอ 3) ผลการศึกษา แนวคิดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) มีขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ที่สำคัญ 5 ขึ้นตอน คือ (1) ขั้นสร้างความสนใจ (engagement) (2) ขั้นสำรวจและค้นหา (exploration) (3) ขั้นอภิปรายและลงข้อสรุป (Explanation) (4) ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) และ (5) ขั้นประเมินความรู้ (Evaluation) และผลการสังเคราะห์องค์ประกอบวิธีการสอนแบบเปิด ประกอบด้วย (1) ขั้นนำเสนอปัญหา (2) ขั้นลงมือทำกิจกรรม (3) ขั้นอภิปราย และ (4) ขั้นสรุป

2. ผลการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับวิธีการสอนแบบเปิด (Open Approach) พบว่า 1) ผลการสร้างร่างรูปแบบการเรียนการสอนและร่างคู่มือการใช้รูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับวิธีการสอนแบบเปิด (Open Approach) เรื่อง การแก้ปัญหาด้วยคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยม

ศึกษาปีที่ 4 มีองค์ประกอบของรูปแบบ 4 องค์ประกอบ ได้แก่ (1) แนวคิดและทฤษฎีพื้นฐานการเรียนรู้ (2) จุดมุ่งหมาย (3) กระบวนการเรียนการสอน ซึ่งมีขั้นตอนการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับวิธีการสอนแบบเปิดไปใช้ ประกอบด้วย ขั้นสร้างความสนใจ (Interest Creation Stage) ขั้นนำเสนอปัญหา (Problem Presentation Stage) ขั้นสำรวจและทำกิจกรรม (Exploration and Activities Stage) ขั้นอภิปรายแลกเปลี่ยนความรู้ (Discussion and Learning Exchange Stage) ขั้นสรุป (Conclusion Stage) และ ขั้นประเมินความรู้ (Knowledge Evaluation Stage) (4) การวัดและประเมินผล 2) ผลการจัดประชุมแบบมีส่วนร่วมของครูผู้สอนรายวิชาวิทยาการคำนวณ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มโรงเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา กลุ่ม 1 พบว่า ผู้เข้าร่วมประชุมเห็นด้วยกับองค์ประกอบของรูปแบบการเรียนการสอนซึ่งมีความครบถ้วนเหมาะสม

กระบวนการเรียนการสอนมีขั้นตอนการเรียนที่เหมาะสมในการพัฒนานักเรียนให้สามารถปฏิบัติกิจกรรมได้ด้วยตนเอง แต่ในส่วนรายละเอียดกระบวนการเรียนการสอนในแผนการจัดการเรียนรู้ภายในคู่มือการใช้ ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมมีข้อเสนอแนะให้เพิ่มเติมรายละเอียดเกี่ยวกับเกณฑ์ในการประเมินความสามารถในการแก้ปัญหา เนื่องจากในเอกสารความรู้มีขั้นตอนให้นักเรียนได้ปฏิบัติการเขียนโปรแกรม ควรมีการประเมินทักษะในด้านนี้ด้วย เนื่องจากจุดมุ่งหมายในการพัฒนา มีการกล่าวถึงความสามารถในการแก้ปัญหา ส่วนรูปแบบการวัดและประเมินผลในรูปแบบการเรียนการสอนมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายที่กำหนดไว้ 3) ผลการประเมินรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับวิธีการสอนแบบเปิดโดยผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า ผลการประเมินรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับวิธีการสอนแบบเปิด (Open Approach) โดยผู้ทรงคุณวุฒิในภาพรวม ความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.56, S.D.=0.54) 4) ผลการทดสอบประสิทธิภาพรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับวิธีการสอนแบบเปิด (Open Approach) เรื่อง การเขียนอัลกอริทึมและการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ซึ่งไม่ใช่นักเรียนกลุ่มตัวอย่างเทียบกับเกณฑ์ 80/80 พบว่า

ค่าประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอนในการทดสอบประสิทธิภาพแบบกลุ่มเล็กมีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 72.21/71.25 และในการทดสอบประสิทธิภาพแบบภาคสนามมีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 76.13/75.22 ซึ่งค่าประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับวิธีการสอนแบบเปิด (Open Approach) เรื่อง การเขียนอัลกอริทึมและการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่พัฒนาขึ้นเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด 75/75

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับวิธีการสอนแบบเปิด (Open Approach) เรื่อง การเขียนอัลกอริทึมและการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับวิธีการสอนแบบเปิด (Open Approach) สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) คะแนนทักษะการคิดวิเคราะห์ หลังเรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับวิธีการสอนแบบเปิด (Open Approach) มีนักเรียนที่มีคะแนนผ่านเกณฑ์ที่โรงเรียนกำหนดไว้ร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม จำนวน 24 คน คิดเป็นร้อยละ 82.76 ของนักเรียนทั้งหมด และ 3) คะแนนความสามารถในการแก้ปัญหาหลังเรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับวิธีการสอนแบบเปิด (Open Approach) มีนักเรียนที่มีคะแนนผ่านเกณฑ์ที่โรงเรียนกำหนดไว้ร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม จำนวน 22 คน คิดเป็นร้อยละ 75.86 ของนักเรียนทั้งหมด

4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับวิธีการสอนแบบเปิด (Open Approach) เรื่อง การเขียนอัลกอริทึมและการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย ครูนุช : [7 ส.ค. 2566 เวลา 16:06 น.]
อ่าน [1484] ไอพี : 27.145.217.46
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 9,904 ครั้ง
วันเด็กปีนี้ ไปเที่ยวไหนดี
วันเด็กปีนี้ ไปเที่ยวไหนดี

เปิดอ่าน 16,216 ครั้ง
ถั่วเขียวขจัดรอยด่างดำ
ถั่วเขียวขจัดรอยด่างดำ

เปิดอ่าน 48,776 ครั้ง
ฝึกลูกจำศัพท์อังกฤษ50คำได้ไม่ต้องท่อง หมวดสิ่งของทั่วไป
ฝึกลูกจำศัพท์อังกฤษ50คำได้ไม่ต้องท่อง หมวดสิ่งของทั่วไป

เปิดอ่าน 15,656 ครั้ง
เสมาการ์ตูน
เสมาการ์ตูน

เปิดอ่าน 34,389 ครั้ง
“ไมโครกรีน” ผักจิ๋ว แต่คุณประโยชน์สูง...ทางเลือกใหม่ของผู้รักสุขภาพ “ทานน้อยแต่ได้ประโยชน์มาก”
“ไมโครกรีน” ผักจิ๋ว แต่คุณประโยชน์สูง...ทางเลือกใหม่ของผู้รักสุขภาพ “ทานน้อยแต่ได้ประโยชน์มาก”

เปิดอ่าน 11,819 ครั้ง
7 วิธีกินผักแบบไม่ขาดสารอาหาร รับเทศกาลเจ
7 วิธีกินผักแบบไม่ขาดสารอาหาร รับเทศกาลเจ

เปิดอ่าน 36,312 ครั้ง
เด็กๆ ควรใช้นิ้วมือในการนับเลขหรือไม่
เด็กๆ ควรใช้นิ้วมือในการนับเลขหรือไม่

เปิดอ่าน 163,637 ครั้ง
งานแกะสลักไม้
งานแกะสลักไม้

เปิดอ่าน 15,177 ครั้ง
10 เคล็ดลับเลิกบุหรี่
10 เคล็ดลับเลิกบุหรี่

เปิดอ่าน 2,501 ครั้ง
Customer data platform (CDP) โปรแกรมที่คนทำธุรกิจไม่ควรพลาด
Customer data platform (CDP) โปรแกรมที่คนทำธุรกิจไม่ควรพลาด

เปิดอ่าน 41,059 ครั้ง
Adjectives - Determiners
Adjectives - Determiners

เปิดอ่าน 21,107 ครั้ง
หลักสูตรการผลิตครู ควรเป็น 4 หรือ 5 ปีดี โดย : ดิเรก พรสีมา
หลักสูตรการผลิตครู ควรเป็น 4 หรือ 5 ปีดี โดย : ดิเรก พรสีมา

เปิดอ่าน 10,750 ครั้ง
"แบคทีเรีย" ลดพุงได้จริงหรือ?
"แบคทีเรีย" ลดพุงได้จริงหรือ?

เปิดอ่าน 17,481 ครั้ง
ดาวหาง "โฮล์มส" ระเหิดใหญ่กว่าดวงอาทิตย์แล้ว
ดาวหาง "โฮล์มส" ระเหิดใหญ่กว่าดวงอาทิตย์แล้ว

เปิดอ่าน 12,433 ครั้ง
ฮอตมาก อาจารย์สถาปัตย์ มทร.ศรีวิชัย ดัดแปลงเพลงฮิต "ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน" ทวงการบ้านนักศึกษา
ฮอตมาก อาจารย์สถาปัตย์ มทร.ศรีวิชัย ดัดแปลงเพลงฮิต "ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน" ทวงการบ้านนักศึกษา

เปิดอ่าน 10,793 ครั้ง
วิธีแต่งบ้านคลายร้อน
วิธีแต่งบ้านคลายร้อน
เปิดอ่าน 11,028 ครั้ง
ทำไมถึงต้องใช้บริการบริษัท Digital Agency
ทำไมถึงต้องใช้บริการบริษัท Digital Agency
เปิดอ่าน 308,894 ครั้ง
สำนวนภาษาอังกฤษที่น่ารู้
สำนวนภาษาอังกฤษที่น่ารู้
เปิดอ่าน 21,503 ครั้ง
คุณเป็นคนหนึ่งใช่ไหมที่ชอบจอดรถใต้ต้นไม้ เพื่อไม่ให้รถร้อน ลองอ่านบทความนี้ดู !!
คุณเป็นคนหนึ่งใช่ไหมที่ชอบจอดรถใต้ต้นไม้ เพื่อไม่ให้รถร้อน ลองอ่านบทความนี้ดู !!
เปิดอ่าน 40,122 ครั้ง
6 ข้อคิดดี ๆ จากนิทานอีสปที่คุณอาจจะลืมไปแล้ว
6 ข้อคิดดี ๆ จากนิทานอีสปที่คุณอาจจะลืมไปแล้ว

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ