บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง : รูปแบบการบริหารสถานศึกษาสู่การเป็นโรงเรียนคุณภาพตามแนวคิดแบบ Smart School Model ของโรงเรียนเทศบาลท่าตูม
ผู้วิจัย : นายพงษ์ศักดิ์ อินทร์สอน
ปีการศึกษา : 2564
บทความวิจัยเรื่อง รูปแบบการบริหารสถานศึกษาสู่การเป็นโรงเรียนคุณภาพตามแนวคิดแบบ Smart School Model ของโรงเรียนเทศบาลท่าตูม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพและปัญหาการบริหารสถานศึกษาสู่การเป็นโรงเรียนคุณภาพตามแนวคิดแบบ SMART School Model ของโรงเรียนเทศบาลท่าตูม 2) สร้างและพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาสู่การเป็นโรงเรียนคุณภาพตามแนวคิดแบบ SMART School Model ของโรงเรียนเทศบาลท่าตูม 3) ทดลองใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาสู่การเป็นโรงเรียนคุณภาพตามแนวคิดแบบ SMART School Model ของโรงเรียนเทศบาลท่าตูม และ 4) ประเมินรับรองคุณภาพรูปแบบการบริหารสถานศึกษาสู่การเป็นโรงเรียนคุณภาพตามแนวคิดแบบ SMART School Model ของโรงเรียนเทศบาลท่าตูม วิธีดำเนินการวิจัยแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน ได้แก่ 1) ศึกษาสภาพและปัญหาการบริหารสถานศึกษาสู่การเป็นโรงเรียนคุณภาพตามแนวคิดแบบ SMART School Model ของโรงเรียนเทศบาลท่าตูม กลุ่มตัวอย่าง คือ โรงเรียนเทศบาลท่าตูม สังกัดเทศบาลตำบลท่าตูม จำนวน 151 คน ได้แก่ ผู้อำนวยการ รองผู้อำนวยการ คณะกรรมการสถานศึกษา หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ ครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยผู้วิจัยใช้สูตรการคำนวณขนาดกลุ่มตัวอย่างของตารางของเครจซี่และมอร์แกน (Krejcie & Morgan) 2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาสู่การเป็นโรงเรียนคุณภาพตามแนวคิดแบบ SMART School Model ของโรงเรียนเทศบาลท่าตูม กลุ่มผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 9 คน โดยใช้วิธีเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาสู่การเป็นโรงเรียนคุณภาพตามแนวคิดแบบ SMART School Model ของโรงเรียนเทศบาลท่าตูม กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ โรงเรียนเทศบาลท่าตูม สังกัดเทศบาลตำบลท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 73 คน ได้แก่ ผู้อำนวยการ ครูและบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียนเทศบาลท่าตูม ซึ่งเลือกการสุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 และ 4) เพื่อประเมินรับรองคุณภาพรูปแบบการบริหารสถานศึกษาสู่การเป็นโรงเรียนคุณภาพตามแนวคิดแบบ SMART School Model ของโรงเรียนเทศบาลท่าตูม กลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญซึ่งผู้วิจัยใช้วิธีการสัมมนาอิงผู้เชี่ยวชาญ (Connoisseurship) ในการการประเมินรับรองคุณภาพรูปแบบการบริหารสถานศึกษาสู่การเป็นโรงเรียนคุณภาพตามแนวคิดแบบ SMART School Model ของโรงเรียนเทศบาลท่าตูม โดยผู้วิจัยคัดเลือกโดยการสุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) จำนวน 10 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบวิเคราะห์เอกสาร 2) แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งมีโครงสร้าง 3) คู่มือรูปแบบการบริหารสถานศึกษาสู่การเป็นโรงเรียนคุณภาพตามแนวคิดแบบ SMART School Model 4) แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการใช้รูปแบบ 5) แบบประเมินความเหมาะสม ความสอดคล้อง ความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์ของรูปแบบการบริหารสถานศึกษาสู่การเป็นโรงเรียนคุณภาพตามแนวคิดแบบ SMART School Model ของโรงเรียนเทศบาลท่าตูม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลจากการการวิเคราะห์ความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพและปัญหาการบริหารสถานศึกษาจากกลุ่มตัวอย่าง พบว่า มีระดับสภาพที่เป็นจริง โดยรวมทุกด้านอยู่ในระดับมาก ( = 3.74, S.D. = 1.09) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ตัวบ่งชี้โรงเรียนมีความพร้อมในการจัดการศึกษา ในด้านผู้บริหารมีคุณวุฒิ ความรู้ ความสามารถ ทางการบริหารจัดการ เป็นที่ยอมรับ ในวงการศึกษา และชุมชนอยู่ในระดับใดอยู่ในระดับสภาพที่เป็นจริงมาก ( = 4.24, S.D. = .98) รองลงมาคือ ตัวบ่งชี้โรงเรียนควรได้รับทรัพยากร ด้านครู บุคลากรทางการศึกษา เงิน และเทคโนโลยี ไม่เพียงพอ ควรมีการรวมกลุ่มกันบริหารจัดการเรียนการสอนและพัฒนาวิชาการร่วมกันตามบริบท อยู่ในระดับใด ( = 3.82, S.D. = .97) ตามลำดับ และเมื่อพิจารณาจากสภาพที่ที่คาดหวัง โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.66, S.D. = .64) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ตัวบ่งชี้ผู้บริหาร สถานศึกษาตัดสินใจทางการศึกษาบนพื้นฐานของข้อมูล และฟังความเห็นของครู ผู้ปกครอง และชุมชนอยู่ในระดับใด ( = 4.83, S.D. = .47) รองลงมาคือตัวบ่งชี้ท่านคิดว่าขนาดของโรงเรียนในความรับผิดชอบหรือที่เกี่ยวข้อง มีความเหมาะสมกับจำนวนนักเรียน และครูอยู่ในระดับใด ( = 4.78, S.D. = .53) และตัวบ่งชี้ โรงเรียนควรได้รับทรัพยากรด้านครู บุคลากรทางการศึกษา เงิน และเทคโนโลยี ไม่เพียงพอ ควรมีการรวมกลุ่มกันบริหารจัดการเรียนการสอน และพัฒนาวิชาการ อยู่ในระดับใด ( = 4.73, S.D. = .59) ตามลำดับ
2. ผลสร้างและพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาสู่การเป็นโรงเรียนคุณภาพตามแนวคิดแบบ SMART School Model ของโรงเรียนเทศบาลท่าตูม พบว่า ผู้บริหารโรงเรียนควรกระตุ้นให้ครู บุคลากร นักเรียน และ ทุกภาคส่วนขององค์กร เกิดความตระหนักร่วมกัน เกิดองค์กรแห่งการเรียนรู้โดยมีแผนการดำเนินงาน มีการวัดผลประเมินผล มีวิธีปฏิบัติ ที่เป็นเลิศ และมีคู่เทียบคู่แข่งขันที่ดี จึงจะเกิดผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล แบบก้าวกระโดดเพิ่มมากขึ้นจนบรรลุตามวิสัยทัศน์ที่วางไว้นำไปสู่ รูปแบบการบริหารสถานศึกษาตามแนวคิดแบบ SMART School Model หมายถึง ความสัมพันธ์ขององค์ประกอบการบริหารสถานศึกษาสู่การเป็นโรงเรียนคุณภาพ ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ จำนวน 20 ตัวบ่งชี้ ได้แก่ องค์ประกอบที่ 1 ความเป็นเลิศของผู้บริหาร (SMART Director) องค์ประกอบที่ 2 ความเป็นเลิศของครู (SMART Teacher) องค์ประกอบที่ 3 ความเป็นเลิศของนักเรียน (SMART Student) และองค์ประกอบที่ 4 ความเป็นเลิศของสิ่งแวดล้อม (SMART Environment) และผลการประเมินความเหมาะสมของคู่มือการใช้รูปแบบ พบว่า คู่มือการใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาสู่การเป็นโรงเรียนคุณภาพตามแนวคิดแบบ SMART School Model ของโรงเรียนเทศบาลท่าตูมนั้น มีความเหมาะสมของคู่มือการใช้รูปแบบโดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยระดับความเหมาะสม อยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.70, S.D.= .58) และหากพิจารณาเป็น รายข้ออยู่ในระดับมากที่สุดเรียงจากมากไปหาน้อยทั้ง 3 อันดับ รองลงมา คือ คู่มืออ่านแล้วเข้าใจง่าย สามารถนำไปใช้ในสถานการณ์จริงได้ ( =4.82, S.D.= .51) คู่มือการดำเนินการตามรูปแบบ มีประโยชน์ต่อการปฏิบัติงาน ( =4.80, S.D.= .58) และความครอบคลุมเนื้อหาด้านรายละเอียดขององค์ประกอบในการบริหารคุณภาพ ( =4.73, S.D.= .63) ตามลำดับ
3. ผลทดลองการใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาสู่การเป็นโรงเรียนคุณภาพตามแนวคิดแบบ SMART School Model ของโรงเรียนเทศบาลท่าตูม พบว่า 1) ด้านการบริหารทั่วไป พบว่า รูปแบบการบริหารสถานศึกษาตามแนวคิดแบบ SMART School Model ของโรงเรียนเทศบาลท่าตูม ที่นำมาใช้ในด้านการบริหารทั่วไป โดยรวมแล้วมีค่าเฉลี่ยระดับความพึงพอใจ อยู่ในระดับมาก ( = 4.08, S.D.=.28) 2) ด้านการบริหารวิชาการ พบว่า รูปแบบการบริหารสถานศึกษาตามแนวคิดแบบ SMART School Model ของโรงเรียนเทศบาลท่าตูม ที่นำมาใช้ในด้านการบริหารวิชาการ โดยรวมแล้ว มีค่าเฉลี่ยระดับความพึงพอใจ อยู่ในระดับมาก ( = 4.06, S.D.= .34) 3) ด้านการบริหารงบประมาณ พบว่า รูปแบบการบริหารสถานศึกษาตามแนวคิดแบบ SMART School Model ของโรงเรียนเทศบาล ท่าตูม ที่นำมาใช้ในด้านการบริหารงบประมาณ โดยรวมแล้วมีค่าเฉลี่ยระดับความพึงพอใจ อยู่ในระดับมาก ( =4.20, S.D.=0.45) 4) ด้านการบริหารงานบุคคล พบว่า รูปแบบการบริหารสถานศึกษาตามแนวคิดแบบ SMART School Model ของโรงเรียนเทศบาลท่าตูม ที่นำมาใช้ในด้านการพัฒนาบุคลากร โดยรวมแล้วมีค่าเฉลี่ยระดับ ความพึงพอใจ อยู่ในระดับมาก ( =4.25, S.D.=.52) และ 5) ด้านการบริหารงานกิจการนักเรียน พบว่า รูปแบบการบริหารสถานศึกษาตามแนวคิดแบบ SMART School Model ของโรงเรียนเทศบาลท่าตูม ที่นำมาใช้ในด้านการพัฒนาบุคลากร โดยรวมแล้วมีค่าเฉลี่ยระดับความพึงพอใจ อยู่ในระดับมาก ( =4.29, S.D.=.63)
4. ผลการประเมินรับรองคุณภาพรูปแบบการบริหารสถานศึกษาสู่การเป็นโรงเรียนคุณภาพตามแนวคิดแบบ SMART School Model ของโรงเรียนเทศบาลท่าตูม ด้วยการประชุมสัมมนา อิงผู้เชี่ยวชาญ (Connoisseurship) สามารถสรุปผลโดยใช้เกณฑ์การรับรองคุณภาพความสอดคล้องกับมาตรฐานการประเมิน Joint Committee on Standards for Educational Evaluation (1980) อ้างถึงจาก ราตรี นันทสุคนธ์. 2547 : 90-95 พบว่า คุณภาพรูปแบบมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( =4.18, S.D.=.21) และหากพิจารณาเป็นรายข้ออยู่ในระดับมากที่สุดเรียงจากมากไปหาน้อยทั้ง 4 อันดับ คือ ด้านความถูกต้อง (Accuracy Standard) พบว่า การประเมินรับรองคุณภาพ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( =4.44, S.D.=.17) รองลงมา คือ ด้านความเหมาะสม (Propriety Standard) พบว่า การประเมินรับรองคุณภาพ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( =4.24, S.D.=0.22) ด้านความเป็นไปได้ (Feasibility Standard) พบว่า การประเมินรับรองคุณภาพ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( =4.12, S.D.=.36) และด้านอรรถประโยชน์ (Utility Standard) พบว่า การประเมินรับรองคุณภาพ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( =3.92, S.D.= .30)
คำสำคัญ : รูปแบบ,การบริหารสถานศึกษา,โรงเรียนคุณภาพ,Smart School,โรงเรียนเทศบาลท่าตูม