ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาญี่ปุ่นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก Active Learning ตามแนวความคิด ARCS MODEL ด้วยส

ชื่อผู้ส่งผลงาน นางสาววราภรณ์ เหมยนรินทร์ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ

โรงเรียน วังเหนือวิทยา สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาลำปาง ลำพูน

ชื่อเรื่องวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาญี่ปุ่นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก Active Learning ตามแนวความคิด ARCS MODEL ด้วยสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล

๑. ความสำคัญและความสำคัญ

ปัจจุบันภาษาต่างประเทศมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการติดต่อสื่อสารในด้านต่างๆ อาทิ ธุรกิจระหว่างประเทศ การศึกษา และการท่องเที่ยว ประเทศไทยได้ถูกยกย่องให้เป็นประเทศแห่งการท่องเที่ยวอันดับต้นของอาเซียน ทำให้ภาษาต่างประเทศที่สองมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น

กระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดภาษาต่างประเทศเป็นสาระการเรียนรู้พื้นฐานซึ่งกำหนดให้เรียนตลอดหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน คือ ภาษาอังกฤษ ส่วนภาษาต่างประเทศอื่นเช่น ภาษาฝรั่งเศส เยอรมัน จีน ญี่ปุ่น และภาษากลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน หรือภาษาอื่นๆ ให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษา ดังนั้นครูผู้สอนต้องการ จัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบบูรณาการนำเอาภาษาต่างประเทศที่สองมาปรับใช้ โดยการนำเอากิจวัตรประจำวันต่างๆ มาจัดกิจกรรมการเรียนรู้ การฝึกภาษาจากกิจกรรมที่ได้ลงมือทำด้วยตนเองเป็นประจำ ผู้เรียนมีโอกาสได้ยิน ได้เห็น และได้ใช้ในกิจวัตรประจำวัน สามารถพบเห็นอยู่รอบตัวเป็นประจำ ไม่ต้องท่องจำ ไม่รู้สึกเป็นบทเรียนเหมือนภาษาที่พบในตำราแต่สามารถเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ทั้งด้านภาษาและชีวิตของผู้เรียนเองได้

จากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาภาษาญี่ปุ่นที่ผ่านมา ได้พบปัญหาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖/๕ กลุ่มการเรียนภาษาญี่ปุ่น โรงเรียนวังเหนือวิทยา คือ นักเรียนกลุ่มหนึ่งยังขาดความมั่นใจในการพูดภาษาญี่ปุ่น ทำให้ความสามารถในทักษะภาษาด้านอื่นๆของนักเรียนลดลง และส่งผลถึงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาญี่ปุ่นลดลงอีกด้วย ด้วยเหตุนี้เพื่อเป็นการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาญี่ปุ่น ครูผู้สอนจึงได้นำรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ตามทฤษฎี ARCS MODEL ซึ่งเป็นทฤษฎีที่เกี่ยวกับการเร้าความสนใจ ความรู้สึกเกี่ยวพันกับเนื้อหา ความมั่นใจและพึงพอใจของนักเรียน โดยการใช้สื่อเทคโนโลยีดิจิทัล มาปรับใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจแก่นักเรียน และยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาญี่ปุ่นสื่อสาร ๕ ให้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖/๕ กลุ่มการเรียนภาษาญี่ปุ่น โรงเรียนวังเหนือวิทยา

๒. วัตถุประสงค์และเป้าหมาย

๒.๑ วัตถุประสงค์

๒.๑.๑ เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาญี่ปุ่นสื่อสาร ๕ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ ๖/๕ กลุ่มการเรียนภาษาญี่ปุ่น โรงเรียนวังเหนือวิทยา จำนวน ๑๔ คน

๒.๑.๒ เพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจในการเรียน และสร้างเจตคติที่ดีให้แก่นักเรียนให้ได้เห็นถึงความสำคัญของภาษาญี่ปุ่นสู่การพัฒนาต่อยอดในอนาคต

๒.๒ เป้าหมาย

๒.๒.๑ เชิงปริมาณ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖/๕ กลุ่มการเรียนภาษาญี่ปุ่น โรงเรียนวังเหนือวิทยา จำนวน ๑๔ คน ได้ผ่านกระบวนการจัดการเรียนรู้ผ่านการลงมือทำและการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้โดยใช้ทฤษฎี ARCS MODEL ด้วยสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล

๒.๒.๒ เชิงคุณภาพ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖/๕ กลุ่มการเรียนภาษาญี่ปุ่น โรงเรียนวังเหนือวิทยา จำนวน ๑๔ คน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาญี่ปุ่นสื่อสาร ๕ เพิ่มขึ้น

๓. กระบวนการ/ขั้นตอนการดำเนินงาน

ดำเนินงานโดยใช้กระบวนการ PDCA ตามแผนผังดังนี้

๓.๑ ขั้นวางแผน (Plan)

๓.๑.๑ ศึกษาหลักสูตรของสถานศึกษาและแนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning

๓.๑.๒ ศึกษาและวิเคราะห์ปัญหานักเรียนรายบุคคล

๓.๒ ขั้นดำเนินการ (Do)

๓.๒.๑ ขั้นเตรียมการจัดกิจกรรมการเรียนรู้

- ออกแบบกิจกรรมและจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้ทฤษฎี ARCS MODEL ของ John M.Keller

- จัดทำสื่อ/นวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิตัลที่น่าดึงดูดใจและเหมาะสมกับเนื้อหา

๓.๒.๒ ขั้นดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ทฤษฎี ARCS MODEL ดังนี้

A (Attention) ข้าพเจ้าได้ดำเนินการจัดกิจกรรมโดยการสร้างและดึงดูดความสนใจของนักเรียนในขั้นตอนการนำเข้าสู่บทเรียน โดยการให้นักเรียนเล่นเกมส์บิงโกออนไลน์ซึ่งเป็นเกมส์ที่มีความสัมพันธ์กับเนื้อหา ที่เรียน ทำให้เนื้อหามีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ข้าพเจ้าได้มีการแทรกกิจกรรมระหว่างเรียน และนำสื่อเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นให้นักเรียนมีความสนใจอย่างต่อเนื่อง

R (Relevance) ข้าพเจ้าได้นำเอาสื่อประกอบการจัดกิจกรรมที่ได้ใช้ในชีวิตประจำวันของนักเรียนอาทิเช่น ดินสอกด เครื่องเหลาดินสอ คอมพิวเตอร์ เครื่องเล่นเทป เป็นต้น ซึ่งนักเรียนสามารถนำเนื้อหาที่เรียน ไปประยุกต์ใช้ได้กับอุปกรณ์หลากหลายชนิดที่อยู่ในชีวิตประจำวันได้จริง ซึ่งอุปกรณ์ที่นักเรียนได้เห็นบ่อยๆจะทำให้นักเรียนเกิดความคุ้นเคยและสร้างความเกี่ยวเนื่องของภาษาได้ดียิ่งขึ้น

C (Confidence) ข้าพเจ้าสร้างความเชื่อมั่นในตนเองแก่นักเรียน ทำให้นักเรียนมีความสนใจและมุ่งมั่นในการเรียนโดย ๑.บอกจุดประสงค์ในการเรียนอย่างชัดเจน ๒.เปิดโอกาสให้นักเรียนได้พูดและนำสื่อใกล้ตัวมาฝึกใช้อย่างหลากหลาย ๓.ช่วยเหลือนักเรียนให้สามารถสื่อสารได้อย่างถูกต้องเหมาะสม

S (Satisfaction) ข้าพเจ้าดำเนินกิจกรรมโดยทำให้นักเรียนมีความพึงพอใจในการเรียน โดยการให้คำชมเชย ชื่นชม เมื่อนักเรียนสามารทำได้ตามจุดประสงค์ และให้กำลังใจนักเรียนที่ยังไม่ผ่านพร้อมกับให้คำแนะนำและแก้ไขให้ถูกต้อง

๓.๓ ขั้นตรวจสอบ (Check)

๓.๓.๑ ประเมินนักเรียนมีความตื่นตัวในการทำกิจกรรมระหว่างการดำเนินกิจกรรมโดยใช้ แบบบันทึกการสังเกตและประเมินผลพฤติกรรมนักเรียนรายบุคคล และมีการปรับปรุงเป็นระยะ

๓.๓.๒ วัดและประเมินผลจากผลการเรียนระหว่างภาคเรียนรายวิชาภาษาญี่ปุ่นสื่อสาร ๕

๓.๓.๓ วัดและประเมินผลจากผลสัมฤทธิ์ปลายภาคเรียนรายวิชาภาษาญี่ปุ่นสื่อสาร ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๖

๓.๔ ขั้นปรับปรุงและพัฒนา (Action)

๓.๔.๑ วิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการดำเนินกิจกรรมจากแบบบันทึกการสังเกตและประเมินพฤติกรรมนักเรียนรายบุคคลเพื่อนำข้อมูลไปปรับปรุงพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ครั้งต่อไป

๓.๔.๒ วิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาญี่ปุ่นสื่อสาร ๕ เพื่อนำข้อมูลไปวางแผน

พัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในปีการศึกษาถัดไป

๔. ผลการดำเนินงาน/ผลสัมฤทธิ์/ประโยชน์ที่ได้รับ

๔.๑ ผลที่เกิดขึ้นตามวัตถุประสงค์

๔.๑.๑ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖/๕ แผนการเรียนภาษาญี่ปุ่น ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ จำนวน ๑๔ คน มีผลสัมฤทธิ์ระหว่างเรียน ดีขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ โดยรายวิชาภาษาญี่ปุ่นเพื่อการสื่อสาร๕ มีการวัดผลประเมินผลครอบคลุมทั้ง ๔ ทักษะทางภาษา ฟัง พูด อ่าน และเขียน

๔.๑.๒ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖/๕ แผนการเรียนภาษาญี่ปุ่น ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ จำนวน ๑๔ คน เกิดแรงจูงใจในการเรียน และมีเจตคติที่ดีต่อวิชาภาษาญี่ปุ่น

๔.๒ ผลสัมฤทธิ์ของงาน

ผลการดำเนินงานจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุก Active Learning โดยใช้ทฤษฎี ARCS MODEL ด้วยสื่อเทคโนโลยีดิจิทัลของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖/๕ แผนการเรียนภาษาญี่ปุ่น ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ พบว่านักเรียนมีความกระตือรือร้น สนุกสนาน และมีความมั่นใจในการพูดมากขึ้น นักเรียน มีความพึงพอใจ และภาคภูมิใจในตนเอง ทำให้นักเรียนสามารถจดจำและเข้าใจเนื้อหาที่เรียนไปได้เป็นอย่างดี นักเรียนเกิดทักษะทางภาษา การฟัง พูด อ่าน และเขียน สามารถสร้างองค์ความรู้ด้วยจากกระบวนการ Active Learning คือการลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง นักเรียนสามารถถามและตอบโดยใช้ความรู้ที่เรียนมาอย่างไม่รู้ตัว ซึ่งต่างไปจากการเรียนการสอนแบบอธิบายหรือบรรยาย มีความมั่นใจและมีแรงจูงใจในการเรียนจากการใช้ทฤษฎี ARCS MODEL และมีความตื่นเต้น สนใจในการทำกิจกรรมจากการใช้สื่อเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยเหมาะสมกับวัยของนักเรียน จากรูปแบบการดำเนินกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุก Active Learning โดยใช้ทฤษฎี ARCS MODEL ด้วยสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล ส่งผลให้นักเรียนได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับที่ ๒ จากกิจกรรมการแข่งขันทักษะภาษาญี่ปุ่น ในงานนิทรรศการญี่ปุ่น ครั้งที่ ๒๕ ณ มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่

๔.๓ ประโยชน์ที่ได้รับ

๔.๓.๑ นักเรียนเกิดทักษะทางภาษา การฟัง พูด อ่าน และเขียน โดยสร้างองค์ความรู้จากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)

๔.๓.๒ นักเรียนมีความมั่นใจและมีแรงจูงใจในการเรียนภาษาญี่ปุ่นจากการใช้ทฤษฎี ARCS MODEL

๔.๓.๓ นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการทำกิจกรรมมากขึ้น

๔.๓.๔ นักเรียนมีความสามารถทางการเรียนสูง มีพฤติกรรมกล้าแสดงออกสูงขึ้น และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสัมพันธ์ทางบวกกับพฤติกรรมกล้าแสดงออก

๔.๓.๕ นักเรียนได้ฝึกการยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น ทำให้เกิดเป็นนิสัยที่ติดตัวและเคยชินจนสามารถพัฒนาไปใช้ในชีวิตประจำวัน

๔.๓.๖ นักเรียนสามารถเปลี่ยนจากผู้รับองค์ความรู้มาเป็นผู้สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองและเผยแพร่องค์ความรู้สู่ผู้อื่น

๔.๓.๗ ครูผู้สอนโรงเรียนวังเหนือวิทยามีแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สามารถแก้ไข และพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

๕. ปัจจัยความสำเร็จ

๕.๑ ครูผู้สอนมีแนวความคิดในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่สร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพจากการเข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการ โครงการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาลำปาง ลำพูน ทำให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้

๕.๒ ผู้บริหารและคณะครูเห็นชอบและให้การสนับสนุนที่เอื้อต่อการจัดการเรียนการสอนอย่างเพียงพอตลอดการดำเนินกิจกรรมจนประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์

๕.๓ การใช้สื่อเทคโนโลยีในการสร้างสื่อการเรียนรู้จากโปรแกรม Canva เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้เรียน สร้างบรรยากาศในการเรียนที่ดี ทำให้นักเรียนตื่นตัวและกระตือรือร้นในการทำกิจกรรมจนบรรลุเป้าหมาย

๕.๔ การประชาสัมพันธ์องค์ความรู้ที่ได้จากการดำเนินกิจกรรมร่วมกันผ่านการเผยแพร่ทั้งภายใน และภายนอกสถานศึกษาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้องค์ความรู้ที่ได้จากการศึกษา ค้นคว้าได้เผยแพร่ไปในวงกว้าง

๕.๕ สถานศึกษาได้รับการยอมรับในด้านการจัดการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ

๕.๖ ผู้ปกครองให้การยอมรับและสนับสนุน

๕.๗. นักเรียนได้รับความรู้ที่นำไปใช้ได้จริงและนำไปต่อยอดได้ในอนาคต

๖. บทเรียนที่ได้รับ

๖.๑ ข้อสรุปที่ได้เรียนรู้จากการสร้าง/พัฒนาสื่อ/นวัตกรรม

๖.๑.๑ นักเรียนเกิดทักษะทางภาษา การฟัง พูด อ่าน และเขียน โดยสร้างองค์ความรู้จากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)

๖.๑.๒ นักเรียนมีความมั่นใจและมีแรงจูงใจในการเรียนภาษาญี่ปุ่นจากการใช้ทฤษฎี ARCS MODEL

๖.๑.๓ จากการใช้สื่อเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีความน่าสนใจ เหมาะสมกับวัยของนักเรียน ทำให้นักเรียนมีความตื่นตัว ให้ความสนใจในการทำกิจกรรม เกิดบรรยากาศที่ดีเหมาะสมต่อการเรียนรู้

๖.๑.๔ นักเรียนมีความภาคภูมิใจ เกิดเจตคติที่ดีต่อวิชาภาษาญี่ปุ่น

๖.๑.๔ นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างเรียนในระดับดีขึ้นไป

๖.๒ ข้อเสนอแนะ ข้อควรระวัง

๖.๒.๑ ครูผู้สอนต้องวางแผนในการดำเนินกิจกรรมตั้งแต่เริ่มต้นจนจบกิจกรรมให้มีความชัดเจน เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้

๖.๒.๒ ครูผู้สอนควรตรวจสอบระหว่างทำจัดกิจกรรรมโดยให้นักเรียนได้มีการลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง มีส่วนร่วมในกิจกรรมมากที่สุดและทั่วถึงทุกคน เพื่อให้นักเรียนสามารถสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ตลอดจนนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ต่างๆ ได้ อันจะทำให้เกิดความคงทนในการเรียนรู้ได้ดีขึ้น

๖.๒.๓ ครูผู้สอนควรคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลในขณะร่วมทำกิจกรรม

๖.๒.๔ ครูผู้สอนควรสะท้อนตนเอง (Self-reflection) จากการดำเนินกิจกรรม

๖.๓ แนวทางในการพัฒนานวัตกรรมเพิ่มเติม

๖.๓.๑ การพัฒนาผลงานหรือนวัตกรรม ควรจัดทำในรูปแบบของสื่อออนไลน์ เช่น การอัพโหลดลงสื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อให้นักเรียนสามารถศึกษาและค้นคว้าได้ง่ายขึ้น

๖.๓.๒ ควรมีการจัดการกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกทักษะด้านอื่นๆด้วย เช่น ด้านความรู้คำศัพท์ ตัวอักษรคันจิ เป็นต้น

๖.๓.๓. ควรมีการจัดกิจกรรมเช่นนี้กับนักเรียนในระดับชั้นอื่นๆ

๗. การเผยแพร่

๗.๑ ความโดดเด่นของผลงาน

๗.๑.๑ ผลงานมีความทันสมัยและน่าสนใจโดยการใช้โปรแกรม Canva ในการผลิตสื่อการเรียนรู้

๗.๑.๒ ผลงานมีความเข้าใจง่าย มีการสอนทางภาษาอย่างเป็นลำดับขั้นตอน

๗.๑.๓ ผลงานมีความสะดวกและรวดเร็วในการเข้าถึงของนักเรียน

๗.๒ ข้อมูลที่ทำให้เห็นร่องรอยหลักฐานการเผยแพร่ผลงาน

๗.๒.๑ เผยแพร่แก่นักเรียนและคณะครูผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย โดยการส่งผ่าน Group Line

๗.๒.๒ เผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์ Idea square ผ่านทาง padlet ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาลำปาง ลำพูน

๗.๓ การยกย่องชมเชย/การยอมรับ

๗.๓.๑ นักเรียน ผู้ปกครอง และคณะครูมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกแบบ Active Learning โดยใช้ทฤษฎี ARCS MODEL ด้วยสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาญี่ปุ่นของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖/๕

๗.๓.๒ นักเรียนได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ ๒ จากการเข้าร่วมการแข่งขันทักษะภาษาญี่ปุ่น ในงานนิทรรศการญี่ปุ่น ครั้งที่ ๒๕ ระหว่างวันที่ ๒๙-๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๖ ณ มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่

โพสต์โดย วราภรณ์ : [6 ส.ค. 2566 เวลา 08:46 น.]
อ่าน [2032] ไอพี : 171.4.230.170
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 17,063 ครั้ง
ความแตกต่างระหว่าง http:// กับ https://
ความแตกต่างระหว่าง http:// กับ https://

เปิดอ่าน 17,865 ครั้ง
รู้จักเพื่อนบ้านอาเซียน
รู้จักเพื่อนบ้านอาเซียน

เปิดอ่าน 10,513 ครั้ง
คู่มือการป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน
คู่มือการป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน

เปิดอ่าน 109,277 ครั้ง
ประโยชน์ของผักใบเขียวมีอะไรบ้าง
ประโยชน์ของผักใบเขียวมีอะไรบ้าง

เปิดอ่าน 11,056 ครั้ง
วิเคราะห์ทิศทางการเปิดประตูตามฮวงจุ้ย 7ส.ค.-7ก.ย.
วิเคราะห์ทิศทางการเปิดประตูตามฮวงจุ้ย 7ส.ค.-7ก.ย.

เปิดอ่าน 18,459 ครั้ง
ข้าวกล้องงอก
ข้าวกล้องงอก

เปิดอ่าน 10,098 ครั้ง
ของใช้สำคัญที่ควรจัดไว้ในทุกทริปการเดินทาง
ของใช้สำคัญที่ควรจัดไว้ในทุกทริปการเดินทาง

เปิดอ่าน 14,878 ครั้ง
สโลว์ฟู้ด อาหารสำหรับคนอยากผอม
สโลว์ฟู้ด อาหารสำหรับคนอยากผอม

เปิดอ่าน 22,201 ครั้ง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ.2560
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ.2560

เปิดอ่าน 15,510 ครั้ง
คอกาแฟมีหวังอายุยืนกว่าคนไม่ดื่ม ช่วยป้องกันภัยโรคหัวใจหลอดเลือด
คอกาแฟมีหวังอายุยืนกว่าคนไม่ดื่ม ช่วยป้องกันภัยโรคหัวใจหลอดเลือด

เปิดอ่าน 23,653 ครั้ง
องค์ประกอบของระบบกราฟิก
องค์ประกอบของระบบกราฟิก

เปิดอ่าน 8,090 ครั้ง
ระบบการศึกษาไม่สมดุล (จบ)
ระบบการศึกษาไม่สมดุล (จบ)

เปิดอ่าน 10,055 ครั้ง
ยก เฟซบุ๊ก เป็นบริษัทที่ดีที่สุดในสหรัฐ
ยก เฟซบุ๊ก เป็นบริษัทที่ดีที่สุดในสหรัฐ

เปิดอ่าน 9,443 ครั้ง
ยุทธศาสตร์การกระจายอำนาจ...โรงเรียนนิติบุคคลที่มุ่งคุณภาพผู้เรียน
ยุทธศาสตร์การกระจายอำนาจ...โรงเรียนนิติบุคคลที่มุ่งคุณภาพผู้เรียน

เปิดอ่าน 10,073 ครั้ง
IE8 ครองตำแหน่งบราวเซอร์ที่มีผู้ใช้มากที่สุด
IE8 ครองตำแหน่งบราวเซอร์ที่มีผู้ใช้มากที่สุด

เปิดอ่าน 44,832 ครั้ง
วันเนา
วันเนา
เปิดอ่าน 8,839 ครั้ง
2 สูตรความงามจากน้ำผึ้ง
2 สูตรความงามจากน้ำผึ้ง
เปิดอ่าน 1,417 ครั้ง
ความหวาน มีประโยชน์หรือโทษขึ้นอยู่กับปริมาณ
ความหวาน มีประโยชน์หรือโทษขึ้นอยู่กับปริมาณ
เปิดอ่าน 1,289 ครั้ง
10 ทักษะที่จำเป็นสำหรับผู้นำ
10 ทักษะที่จำเป็นสำหรับผู้นำ
เปิดอ่าน 106,104 ครั้ง
จุดธูปกี่ดอกบอกอะไร?
จุดธูปกี่ดอกบอกอะไร?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ