รายงานผลการจัดกิจกรรมการทดลอง
ตามโครงการ บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย
ปีการศึกษา 2565
จัดทำโดย
นางสาวน้ำฝน ใจฟอง
ครูประจำชั้นอนุบาลปีที่ 2
โรงเรียนบ้านต๋อม
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1
 
สรุปกิจกรรมการทดลอง
กิจกรรมที่ 11 ลูกโป่งพองโตและขวดบุบเองได้
จุดประสงค์
1.เพื่อให้เด็กสามารถบอกได้ว่าอากาศมีตัวตนและมีอยู่รอบๆตัวเรา
2.เพื่อให้เด็กเปรียบเทียบอากาศที่ได้รับความร้อนและเย็นมีความแตกต่างกัน
3. เพื่อให้เด็กสามารถบอกได้ว่าอากาศมีแรงดัน
ขั้นตอนการจัดกิจกรรม
1. เด็กๆ และครูสนทนาเกี่ยวกับลูกโป่งครูทายปัญหาเด็กๆคิดว่าลูกโป่งสามารถพองโตโดยที่เราไม่ต้องเป่าได้หรือไม่ เราเป่าลูกโป่งลูกโป่งพองโตมีอะไรอยู่ในลูกโป่ง ครูถามเด็กๆอีกว่าลูกโป่งสามารถพองโตขึ้นโดยที่เราไม่ต้องเป่าได้หรือไม่
2.ครูแนะนำอุปกรณ์การทดลองและอธิบายขั้นตอนการทดลองให้เด็กๆได้เข้าใจ ในการทดลองกับน้ำร้อนครูต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิดให้แต่ละกลุ่มรับอุปกรณ์การทดลองและทำการทดลองพร้อมสรุปผลการทดลองบันทึกกิจกรรม โดยการวาดภาพระบายสี และนำเสนอผลงาน
วัสดุ/อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำกิจกรรมการทดลอง
กิจกรรมการทดลอง
เด็กนำเสนอผลงาน
ผลงานที่สำเร็จของเด็ก
ผลที่เกิดกับเด็ก
1.ผลที่เกิดขึ้นตามจุดประสงค์
1.1 เด็กสามารถบอกได้ว่าอากาศมีตัวตนและมีอยู่รอบๆตัวเรา
1.2 .เด็กเปรียบเทียบอากาศที่ได้รับความร้อนและเย็นมีความแตกต่างกัน
1.3. เด็กสามารถบอกได้ว่าอากาศมีแรงดัน
2.พัฒนาการความสามารถพื้นฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
2.1. ด้านการเรียนรู้/ ด้านภาษา/ สติปัญญา
ด้านการเรียนรู้
-เด็กสามารถทดลองในเรื่องของอากาศมีตัวตนและต้องการที่อยู่ และเปรียบเทียบระหว่างอากาศเมื่อได้รับความร้อนจะขยายตัวและลอยขึ้นไปและดันให้ลูกโป่งพองโตได้เมื่ออากาศเย็นลงลูกโป่งก็ยุบตัวลง
-ขวดน้ำก็เช่นเดียวกันหากได้รับความร้อนขวดน้ำก็จะขยายตัว อากาศจะเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว หากขวดน้ำเย็นลงขวดก็จะบุบลงทันที
ด้านภาษา
เด็กสามารถอธิบายผลการทดลองได้ว่าลูกโป่งพองโตเนื่องจากอากาศในขวดที่ร้อนจะดันลูกโป่งให้พองตัวขึ้น เมื่อขวดน้ำเย็นลงลูกโป่งจะยุบตัวลง และหากเปรียบเทียบขวดน้ำก็เหมือนกันขวดน้ำที่เย็นจะบุบตัวลงเด็กๆสามารถอธิบายได้ทุกคน
สติปัญญา
2.2 ด้านสังคม
- เด็กๆรู้จักสังเกต เปรียบเทียบ คาดคะเนสิ่งที่จะเกิดขึ้น รู้จักคิดหาเหตุผล
- เด็กๆ ได้เรียนรู้การปฏิบัติตนตามข้อตกลงร่วมกันในการปฏิบัติกิจกรรม
- เด็กๆ ได้เรียนรู้การรอคอยและการแบ่งปัน การยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
- ได้รับการยอมรับจากครูและเพื่อน
2.3 ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เด็กๆ มีความสุข สนุกสนาน ตื่นเต้น และมีความกระตือรือร้น กล้าแสดงออก แสดงอารมณ์ได้เหมาะสมกับสถานการณ์ ในการปฏิบัติกิจกรรมการทดลองตลอดเวลา อยากรู้อยากเห็น อยากทำและได้สร้างผลงานผ่านการวาดภาพบันทึกผลการทดลองเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง
2.4 ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย
- เด็กๆ ได้พัฒนาทั้งกล้ามเนื้อมัดเล็ก-มัดใหญ่ จากการได้หยิบจับอุปกรณ์ ทดลองกิจกรรมและช่วยคุณครูเตรียมอุปกรณ์การทดลองเก็บอุปกรณ์
- เด็กได้รู้จักดูแลตนเองให้ปลอดภัยและรักษาสุขภาพอนามัยตนเองหลังเสร็จการทดลอง
สรุปกิจกรรมการทดลอง
กิจกรรมที่ 12 งูเต้นระบำและจรวดถุงชา
จุดประสงค์
1. เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้เรื่องการเคลื่อนที่ของอากาศ
2. เพื่อให้เด็กสามารถปฏิบัติการทดลองได้ด้วยตนเอง
3. เพื่อให้เด็กรู้จักการสังเกตและเปรียบเทียบการทดลอง
4. เพื่อให้เด็กสามารถนำเสนอผลการทดลอง สรุป และอภิปรายผลการทดลองได้
ขั้นตอนการจัดกิจกรรม
1.สนทนาซักถามประสบการณ์เดิมที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน เช่น บอลลูนสามารถลอยอยู่ในอากาศได้ด้วยอากาศร้อน ในฤดูร้อนเมื่อมองไปบนพื้นถนน เราจะสังเกตเห็นไอร้อนของอากาศบนถนนลาดยาง
2. ครูตัดกระดาษเป็นรูปวงกลมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางอย่างน้อย 10 เซนติเมตร
3. วาด ระบายสี และตัดกระดาษเป็นรูปงู จากนั้นใช้ด้ายขึงที่หัวงู พร้อมกับเตรียมเครื่องทำความร้อนให้พร้อม
4. ถืองูกระดาษไว้เหนือเครื่องทำความร้อนแล้วสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้น
4. นำเสนอผลการทดลอง
5. สรุปและอภิปราย ซักถามผลการทดลอง
วัสดุ/อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำกิจกรรมการทดลอง
กิจกรรมการทดลอง
เด็กนำเสนอผลงาน
ผลงานที่สำเร็จของเด็ก
ผลที่เกิดกับเด็ก
1. ผลที่เกิดขึ้นตามจุดประสงค์
1.1 เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้เรื่องการเคลื่อนที่ของอากาศ
1.2 เพื่อให้เด็กสามารถปฏิบัติการทดลองได้ด้วยตนเอง
1.3 เพื่อให้เด็กรู้จักการสังเกตและเปรียบเทียบการทดลอง
1.4 เพื่อให้เด็กสามารถนำเสนอผลการทดลอง สรุป และอภิปรายผลการทดลองได้
2.พัฒนาการความสามารถพื้นฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
2.1ด้านการเรียนรู้/ ด้านภาษา/ สติปัญญา
- เด็กได้ร่วมสนทนาสรุปผลการทดลองและอธิบายผลการทดลอง
- การถืองูกระดาษไว้เหนือเครื่องทำความร้อนสักครู่ งูกระดาษจะหมุน เพราะเมื่ออากาศร้อนขึ้น โมเลกุลของอากาศจะเคลื่อนที่เร็วขึ้น และขยายตัว ทำให้ระยะห่างระหว่างโมเลกุลมีมากขึ้น กลายเป็นกระแสลมที่เคลื่อนที่สู่ด้านบน จึงทำให้งูกระดาษหมุนได้
2.2 ด้านสังคม
- เด็กๆ ได้เรียนรู้การปฏิบัติตนตามข้อตกลงร่วมกันในการปฏิบัติกิจกรรม
- เด็กๆ ได้เรียนรู้การรอคอยและการแบ่งปัน การยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
- ได้รับการยอมรับจากครูและเพื่อน
2.3 ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เด็กๆ มีความสุข สนุกสนาน ตื่นเต้น และมีความกระตือรือร้น กล้าแสดงออก
แสดงอารมณ์ได้เหมาะสมกับสถานการณ์ ในการปฏิบัติกิจกรรมการทดลองตลอดเวลา อยากรู้อยากเห็นอยากทำและได้สร้างผลงานผ่านการวาดภาพบันทึกผลการทดลองเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง
2.4 ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย
- เด็กๆ ได้พัฒนาทั้งกล้ามเนื้อมัดเล็ก-มัดใหญ่ จากการได้หยิบจับอุปกรณ์ ทดลองกิจกรรมและช่วยคุณครูเตรียมอุปกรณ์การทดลองเก็บอุปกรณ์
- เด็กได้รู้จักดูแลตนเองให้ปลอดภัยและรักษาสุขภาพอนามัยตนเองหลังเสร็จการทดลอง
สรุปกิจกรรมการทดลอง
กิจกรรมที่ 13 ทอร์นาโดในขวด
จุดประสงค์
1. เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับอากาศ และลม
2. เพื่อให้เด็กนำประสบการณ์ที่ได้รับไปปรับใช้ / เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวัน
3. เพื่อส่งเสริมให้เด็กฝึกปฏิบัติการใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
4. เพื่อให้เด็กสามารถปฏิบัติการทดลองเพื่อพิสูจน์สมมติฐานที่ตั้งไว้ได้
5. เพื่อให้เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองได้
ขั้นตอนการจัดกิจกรรม
1.สนทนาซักถามประสบการณ์เดิมเรื่องสิ่งต่างๆรอบตัวเราเกี่ยวกับการเกิดพายุหมุนในฤดูร้อน หรือการเกิดพายุทอร์นาโดในต่างประเทศที่เห็นข่าวจากโทรทัศน์บ้าง และให้เด็กๆเล่าประสบการณ์เดิมที่นักเรียนเคยเห็น หรือพบมา
2. เติมน้ำลงในขวดประมาณ 2 ใน 3 ส่วน
3 ใส่สีผสมอาหารสีเหลืองผสมน้ำ
4. ให้นักเรียนคาดคะเนว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อพลิกขวดกลับด้านโดยให้ขวดเปล่าอยู่ด้านล่าง และถ้าน้ำไม่ไหลลงมา ให้ช่วยกันคิดหาวิธีที่จะทำให้น้ำไหลลงมา
5. ให้นักเรียนใช้มือบีบขวดใบล่าง สังเกตการเปลี่ยนแปลง
6. นักเรียนสร้างพายุทอร์นาโด โดยใช้มือข้างหนึ่งจับขวดล่าง ส่วนมืออีกข้างจับขวดด้านบน หมุนคลายเกลียว และสังเกตการการเปลี่ยนแปลง
7. บันทึกกิจกรรมโดยการวาดภาพระบายสี
8นำเสนอผลการทดลอง / สรุปและอภิปราย ซักถาม
วัสดุ/อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำกิจกรรมการทดลอง
กิจกรรมการทดลอง
เด็กนำเสนอผลงาน
ผลงานที่สำเร็จของเด็ก
ผลที่เกิดกับเด็ก
1. ผลที่เกิดขึ้นตามจุดประสงค์
1.1 เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับอากาศ และลม
1.2 เด็กนำประสบการณ์ที่ได้รับไปปรับใช้ / เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวัน
1.3 เด็กฝึกปฏิบัติการใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
1.4เด็กสามารถปฏิบัติการทดลองได้
1.5 เด็กสามารถ นำเสนอผลการทดลอง และอภิปรายสรุปผลได้
2.พัฒนาการความสามารถพื้นฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
2.1. ด้านการเรียนรู้/ ด้านภาษา/ สติปัญญา
- เด็กได้ร่วมสนทนาสรุปผลการทดลองและอธิบายผลการทดลอง
- ผลการทดลองเรื่องพายุทอร์นาโดในขวดเกิดขึ้นจากน้ำจากขวดที่อยู่ด้านบนไหลดันอากาศลงมาตามรูที่เจาะ อากาศด้านล่างก็เคลื่อนที่ผ่านน้ำวนตามรูขึ้นไปถ้าเขย่าขวดแรงๆอากาศก็เคลื่อนที่เร็ว น้ำก็ไหลแรง หมุนเหมือนพายุ
2.2 ด้านสังคม
- เด็กๆ ได้เรียนรู้การปฏิบัติตนตามข้อตกลงร่วมกันในการปฏิบัติกิจกรรม
- เด็กๆ ได้เรียนรู้การรอคอยและการแบ่งปัน การยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
- ได้รับการยอมรับจากครูและเพื่อน
2.3 ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เด็กๆ มีความสุข สนุกสนาน ตื่นเต้น และมีความกระตือรือร้น กล้าแสดงออก
แสดงอารมณ์ได้เหมาะสมกับสถานการณ์ ในการปฏิบัติกิจกรรมการทดลองตลอดเวลา อยากรู้อยากเห็นอยากทำและได้สร้างผลงานผ่านการวาดภาพบันทึกผลการทดลองเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง
2.4 ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย
- เด็กๆ ได้พัฒนาทั้งกล้ามเนื้อมัดเล็ก-มัดใหญ่ จากการได้หยิบจับอุปกรณ์ ทดลองกิจกรรมและช่วยคุณครูเตรียมอุปกรณ์การทดลองเก็บอุปกรณ์
- เด็กได้รู้จักดูแลตนเองให้ปลอดภัยและรักษาสุขภาพอนามัยตนเองหลังเสร็จการทดลอง
สรุปกิจกรรมการทดลอง
กิจกรรมที่ 14 การละลายของน้ำตาล
จุดประสงค์
1.เพื่อให้เด็กรู้วิธีบีบและปล่อยหลอดหยดโดยบีบให้น้ำออกมาทีละหยดได้
2. เพื่อให้เด็กได้รู้จักการสังเกต และเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงของก้อนน้ำตาล
3. เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้เรื่องการละลายของน้ำตาล
4. เพื่อให้เด็กสมารถนำเสนอผลการทดลอง และอภิปรายสรุปผลได้
ขั้นตอนการจัดกิจกรรม
1. ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับน้ำตาล ลักษณะและสี รสน้ำตาล
2.ครูและนักเรียนช่วยกันเจือจางสีผสมอาหารในน้ำอย่างระมัดระวัง
3.ครูให้นักเรียนลองฝึกใช้หลอดหยด
4.สร้างความสนใจให้กับเด็กโดยการวางน้ำตาลก้อนในจานที่มีอยู่แล้ว สังเกตการละลายของน้ำตาล
5.ให้เด็กๆเทน้ำใส่จานจนปริ่มของจาน
6.จากนั้นให้เด็กวางน้ำตาลก้อน 2 ก้อน บนกระดาษชำระแล้วหยดสีลงในน้ำตาลก้อนเล็กน้อย
7. เด็กๆ สังเกตความเข้มข้นของน้ำตาลทั้ง 2 ก้อน จะแพร่เข้าหากัน การแพร่ของสีจะช้าลงเรื่อยๆ และสีจะผสมกันอย่างสมบูรณ์ในที่สุด
8. บันทึกกิจกรรมโดยการวาดภาพระบายสี เป็นรายบุคคล นำเสนอผลงาน
9. นำเสนอผลงาน/ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปบทเรียนการทดลอง เรื่อง การละลายน้ำตาล
วัสดุ/อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำกิจกรรมการทดลอง
กิจกรรมการทดลอง
เด็กนำเสนอผลงาน
ผลงานที่สำเร็จของเด็ก
ผลที่เกิดกับเด็ก
1. ผลที่เกิดขึ้นตามจุดประสงค์
1.1เด็กรู้วิธีบีบและปล่อยหลอดหยดโดยบีบให้น้ำออกมาทีละหยดได้
1.2เด็กได้รู้จักการสังเกต และเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงของก้อนน้ำตาล
1.3 เด็กได้เรียนรู้เรื่องการละลายของน้ำตาล
1.4 เด็กสามารถนำเสนอผลการทดลอง และอภิปรายสรุปผลได้
2.พัฒนาการความสามารถพื้นฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
2.1. ด้านการเรียนรู้/ ด้านภาษา/ สติปัญญา
ด้านการเรียนรู้
- เด็กๆสามารถบอกลักษณะของน้ำตาลได้เช่น น้ำตาลมีลักษณะเป็นก้อนสี่เหลี่ยม แข็งๆมีรสหวาน สีขาว ผิวไม่เรียบ ไม่มีกลิ่น สามารถสรุปผลการทดลองได้ว่า น้ำตาลละลายในน้ำได้และค่อยๆ ละลาย
ด้านภาษา
- เด็กๆ สามารถอธิบายและนำเสนอผลงานเรื่องการละลายของน้ำตาลได้
ด้านสติปัญญา
- เด็กๆ สังเกตการละลายของน้ำตาลและบอกได้ว่าจะมีฟองลอยขึ้นมาและน้ำตาลก็จะเปลี่ยนรูปร่างและละลายหายไป
2.2. ด้านสังคม
- เด็กๆ ได้เรียนรู้การปฏิบัติตนตามข้อตกลงร่วมกันในการปฏิบัติกิจกรรม
- เด็กๆ ได้เรียนรู้การรอคอยและการแบ่งปัน การยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
- ได้รับการยอมรับจากครูและเพื่อน
2.3. ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เด็กๆ มีความสุข สนุกสนาน ตื่นเต้น และมีความกระตือรือร้น กล้าแสดงออก ยิ้มแย้มแจ่มใส แสดงอารมณ์ได้เหมาะสมกับสถานการณ์ ในการปฏิบัติกิจกรรมการทดลองตลอดเวลา อยากรู้อยากเห็นอยากทำและได้สร้างผลงานผ่านการวาดภาพบันทึกผลการทดลองเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง
2.4. ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย
- เด็กๆ ได้พัฒนาทั้งกล้ามเนื้อมัดเล็ก-มัดใหญ่ จากการได้หยิบจับอุปกรณ์ ทดลองกิจกรรมและช่วยคุณครูเตรียมอุปกรณ์การทดลองเก็บอุปกรณ์
- เด็กได้รู้จักดูแลตนเองให้ปลอดภัยและรักษาสุขภาพอนามัยตนเองหลังเสร็จการทดลอง
สรุปกิจกรรมการทดลอง
กิจกรรม ที่ 15 เมล็ดพืชเต้นระบำ
จุดประสงค์
1. เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้เรื่องแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
2. เพื่อให้เด็กสามารถปฏิบัติการทดลองเรื่องฟองแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
3. เพื่อให้เด็กรู้จักการสังเกตและเปรียบเทียบสิ่งที่เกิดจากการทดลองได้
4. เพื่อให้เด็กนำเสนอผลการทดลอง อภิปราย และสรุปผลได้
ขั้นตอนการจัดกิจกรรม
1. ครูร่วมสนทนากับเด็กนักเรียนเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันว่าเราจะพบฟองแก๊สในกิจกรรมต่างๆ มากมาย เช่น เมื่อเปิดขวดน้ำอัดลมจะมองเห็นฟองแก๊สลอยขึ้น
2. เด็กๆเทน้ำเปล่าลงในขวดใบที่หนึ่งประมาณ 2ใน 3 ขวดแล้วโรยเมล็ดถั่วเขียวลงไปและปิดฝาทันที สังเกตการเปลี่ยนแปลง จากนั้นเขย่าขวด และสังเกตการเปลี่ยนแปลงของเมล็ดพืช และน้ำอีกครั้งหนึ่ง
3. เทน้ำโซดาในขวดใบที่ 2 ประมาณ 2 ใน 3 ขวดแล้วโรยเมล็ดถั่วเขียวลงในไปพร้อมกับปิดฝา
4. ตั้งขวดทั้งสองใบไว้ใกล้กันเพื่อเปรียบเทียบ และสังเกตการเปลี่ยนแปลงภายในขวดทั้งสองใบ
5. จับเวลาว่าเมล็ดพืชเคลื่อนที่ขึ้นลงในน้ำโซดาได้นานเท่าไร และสังเกตต่อไปว่าถ้าเปิดฝาออกเมล็ดพืชจะเคลื่อนที่อย่างไร
6. สังเกตการลอยของเมล็ดถั่วเขียวเมื่อลอยถึงผิวน้ำ ฟองแก๊สจะแตกออก ทำให้เมล็ดพืชจมลงสู่ก้นขวดยิ่งมีน้ำโซดามาก เมล็ดพืชจะยิ่งเคลื่อนที่ได้นานขึ้น
7. บันทึกกิจกรรมโดยการวาดภาพระบายสี เป็นรายบุคคล นำเสนอผลงาน
8. นำเสนอผลงาน/อภิปรายและสรุปผล
วัสดุ/อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำกิจกรรมการทดลอง
กิจกรรมการทดลอง
เด็กนำเสนอผลงาน
ผลงานที่สำเร็จของเด็ก
ผลที่เกิดกับเด็ก
1. ผลที่เกิดขึ้นตามจุดประสงค์
1.1. เด็กได้เรียนรู้เรื่องแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
1.2. เด็กสามารถปฏิบัติการทดลองเรื่องฟองแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ได้
1.3. เด็กรู้จักการสังเกตและเปรียบเทียบสิ่งที่เกิดจากการทดลองได้
1.4. เด็กนำเสนอผลการทดลอง อภิปราย และสรุปผลได้
2.พัฒนาการความสามารถพื้นฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
2.1. ด้านการเรียนรู้/ ด้านภาษา/ สติปัญญา
เด็กได้ร่วมสนทนาสรุปผลการทดลองและอธิบายผลการทดลองว่า
- ขวดที่ใส่น้ำเปล่า เมล็ดพืชจะเคลื่อนที่ก็ต่อเมื่อเขย่าขวด จากนั้นเมล็ดพืชจะจมลงอย่างรวดเร็ว ส่วนขวดที่ใส่น้ำโซดา เมล็ดพืชจะเคลื่อนที่ขึ้นลง เมล็ดส่วนหนึ่งจะถูกฟองแก๊สเกาะและลอยตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ
- เมล็ดพืชมีผิวขรุขระจะทำให้แก๊สมีที่ยึดเกาะและฟองแก๊สมีแรงดันขึ้นสู่ผิวน้ำ เมื่อฟองแก๊สเกาะเมล็ดพืชมากพอ ก็จะดันเมล็ดพืชขึ้นไปยังผิวน้ำด้วย และเมื่อฟองแก๊สขึ้นถึงระดับผิวน้ำก็จะแตก ทำให้เมล็ดพืชจมลงอีกครั้ง วนอยู่เช่นนี้จนกว่าแก๊สในน้ำโซดาจะหมด
2.2. ด้านสังคม
- เด็กๆ ได้เรียนรู้การปฏิบัติตนตามข้อตกลงร่วมกันในการปฏิบัติกิจกรรม
- เด็กๆ ได้เรียนรู้การรอคอยและการแบ่งปัน การยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
- ได้รับการยอมรับจากครูและเพื่อน
2.3. ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เด็กๆ มีความสุข สนุกสนาน ตื่นเต้น และมีความกระตือรือร้น กล้าแสดงออก ยิ้มแย้มแจ่มใส แสดงอารมณ์ได้เหมาะสมกับสถานการณ์ ในการปฏิบัติกิจกรรมการทดลองตลอดเวลา อยากรู้อยากเห็นอยากทำ และได้สร้างผลงานผ่านการวาดภาพบันทึกผลการทดลองเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง
2.4. ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย
- เด็กๆ ได้พัฒนาทั้งกล้ามเนื้อมัดเล็ก-มัดใหญ่ จากการได้หยิบจับอุปกรณ์ ทดลองกิจกรรมและช่วยคุณครูเตรียมอุปกรณ์การทดลองเก็บอุปกรณ์
- เด็กได้รู้จักดูแลตนเองให้ปลอดภัยและรักษาสุขภาพอนามัยตนเองหลังเสร็จการทดลอง
สรุปกิจกรรมการทดลอง
กิจกรรม ที่ 16 ลูกข่างหลากสี
จุดประสงค์
1. เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้เรื่องภาพติดตาจากลูกข่างแผ่นซีดีได้
2. เพื่อให้เด็กสังเกตลูกข่างแผ่นซีดีที่กำลังหมุนด้วยความเร็วต่างๆได้
3. เพื่อส่งเสริมให้เด็กฝึกปฏิบัติการใช้ทักษะการสังเกต เปรียบเทียบ
4 . เพื่อให้เด็กสามารถปฏิบัติการทดลองได้ด้วยตนเอง
5. เพื่อให้เด็กสามารถนำเสนอผลการทดลอง อภิปราย และสรุปผลได้
ขั้นตอนการจัดกิจกรรม
1. สนทนาซักถามสิ่งที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน (ว่าตาของเราไม่สามารถสังเกตเห็นซี่ล้อรถหรือลายบนลูกข่างที่กำลังหมุนได เนื่องจากการเปลี่ยนภาพและสีเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเราจึงเห็นสีบนลูกข่างเป็นสีผสม)
2. ให้เด็กๆทำลูกข่าง โดยใช้แผ่นซีดีเป็นแบบวงกลมลงบนกระดาษและตัดออกมา
3 ระบายสีตกแต่งลูกข่างกระดาษ
4. ใช้กาวติดแผ่นซีดีกับแผ่นกระดาษวงกลมที่ระบายสีแล้ว
5. เจาะรูบนกระดาษให้ตรงกับตำแหน่งรูบนแผ่นซีดี
6. ติดดินน้ำมัน บนรูแผ่นซีดี เพื่อยึดให้แน่น
7. ให้เด็กหมุนลูกข่างซีดีบนพื้นด้วยความเร็วที่แตกต่างกันแล้วให้นักเรียนสังเกตการเปลี่ยนแปลง
- ครูสนทนาซักถามว่าเมื่อลูกข่างหมุน ลายและสีบนลูกข่างมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร
8. บันทึกกิจกรรมวาดภาพระบายสี
9 นำเสนอผลการทดลอง สรุปและอภิปราย ซักถามผลการทดลอง
วัสดุ/อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำกิจกรรมการทดลอง
กิจกรรมการทดลอง
เด็กนำเสนอผลงาน
ผลงานที่สำเร็จของเด็ก
ผลที่เกิดกับเด็ก
1. ผลที่เกิดขึ้นตามจุดประสงค์
1.1. เด็กได้เรียนรู้เรื่องภาพติดตาจากลูกข่างแผ่นซีดีได้
1.2. เด็กสังเกตลูกข่างแผ่นซีดีที่กำลังหมุนด้วยความเร็วต่างๆได้
1.3. เด็กได้ฝึกปฏิบัติการใช้ทักษะการสังเกต เปรียบเทียบ
1.4. เด็กสามารถปฏิบัติการทดลองได้ด้วยตนเอง
1.5. เด็กสามารถนำเสนอผลการทดลอง อภิปราย และสรุปผลได้
2.พัฒนาการความสามารถพื้นฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
2.1. ด้านการเรียนรู้/ ด้านภาษา/ สติปัญญา
เด็กได้ร่วมสนทนาสรุปผลการทดลองและอธิบายผลการทดลอง เด็กได้เรียนรู้ว่าถ้าเราหมุนลูกข่างแผ่นซีดีช้าๆเราจะเห็นลูกข่างหมุนสลับสีหลายสีแต่ถ้าลูกข่างซีดีหมุนเร็วๆ ตาของเราไม่สามารถแยกแยะลวดลายหรือสีของลูกข่างได้จะเห็นเป็นสีที่ผสมกัน(การมองเห็นภาพจากการหมุนด้วยความเร็ว/ ช้า ต่างกัน ทำให้การเห็นภาพแตกต่างกัน)
2.2. ด้านสังคม
- เด็กๆ ได้เรียนรู้การปฏิบัติตนตามข้อตกลงร่วมกันในการปฏิบัติกิจกรรม
- เด็กๆ ได้เรียนรู้การรอคอยและการแบ่งปัน การยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
- ได้รับการยอมรับจากครูและเพื่อน
2.3. ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เด็กๆ มีความสุข สนุกสนาน ตื่นเต้น และมีความกระตือรือร้น กล้าแสดงออก
แสดงอารมณ์ได้เหมาะสมกับสถานการณ์ ในการปฏิบัติกิจกรรมการทดลองตลอดเวลา อยากรู้อยากเห็น อยากทำ และได้สร้างผลงานผ่านการวาดภาพบันทึกผลการทดลองเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง
2.4. ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย
- เด็กๆ ได้พัฒนาทั้งกล้ามเนื้อมัดเล็ก-มัดใหญ่ จากการได้หยิบจับอุปกรณ์ ทดลองกิจกรรมและช่วยคุณครูเตรียมอุปกรณ์การทดลองเก็บอุปกรณ์
- เด็กได้รู้จักดูแลตนเองให้ปลอดภัยและรักษาสุขภาพอนามัยตนเองหลังเสร็จการทดลอง
สรุปกิจกรรมการทดลอง
กิจกรรม ที่ 17 ปั๊มขวดและลิฟต์เทียน
จุดประสงค์
1. เพื่อให้เด็กสังเกต เปรียบเทียบอากาศเมื่อได้รับความร้อนและอากาศเย็น
2. เพื่อให้เด็กบอกได้ว่าออกซิเจนถูกใช้ในการเผาไหม้จนหมดไฟจะดับ
ขั้นตอนการจัดกิจกรรม
1. นักเรียนสนทนากับครูเกี่ยวกับอากาศที่อยู่รอบๆตัวเรา เช่น ลักษณะของอากาศ
ประโยชน์ของอากาศ ครูกระตุ้นให้เด็กคิด อากาศกับลมเหมือนหรือต่างกัน อากาศต้องการที่อยู่หรือไม่ อากาศมีอยู่ที่ไหนบ้าง เราจะสัมผัสอากาศได้อย่างไรเด็กๆเคยเห็นโคมลอยหรือไม่ วิธีการทำให้โคมลอยทำอย่างไร
2. ให้เด็กๆดูอุปกรณ์ในการทดลองและให้บอกมีอะไรบ้างประโยชน์และโทษของอุปกรณ์มีอะไรบ้าง
ครูแนะนำการใช้อุปกรณ์ในการทดลองเราต้องใช้อย่างระมัดระวัง พร้อมให้เด็กๆช่วยกันเตรียมอุปกรณ์เพื่อทำการทดลองร่วมกันในกลุ่มต่อไป
3. ก่อนทดลองครูอธิบายวิธีการทดลองให้เด็กๆเข้าใจกระบวนการทดลองและให้แต่ละกลุ่ม
ดำเนินการทดลองระหว่างการทดลองให้เด็กๆสังเกตผลการทดลอง และสนทนากับครูของแต่ละกลุ่มเพื่อนำมาสรุปผลการทดลองร่วมกัน
วัสดุ/อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำกิจกรรมการทดลอง
กิจกรรมการทดลอง
เด็กนำเสนอผลงาน
ผลงานที่สำเร็จของเด็ก
ผลที่เกิดกับเด็ก
1. ผลที่เกิดขึ้นตามจุดประสงค์
1.1 เด็กสามารถบอกได้ว่าอากาศในขวดเมื่อได้รับความร้อนจะขยายตัวและน้ำจึงไหลเข้าไปแทนที่อากาศ
1.2 เด็กสามารถบอกได้ว่าอากาศออกซิเจนช่วยให้ไฟติด
2.พัฒนาการความสามารถพื้นฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
2.1. ด้านการเรียนรู้/ ด้านภาษา/ สติปัญญา
ด้านการเรียนรู้
เด็กๆได้เรียนรู้เรื่องอากาศที่อยู่ภายในขวดเมื่อได้รับความร้อนจะขยายตัวและต้องการที่อยู่เพิ่มขึ้นสังเกตจากน้ำที่เข้าไปแทนที่อากาศเมื่ออากาศในขวดและนอกขวดเย็นน้ำก็จะอยู่คงที่
ด้านภาษา
เด็กสามารถสนทนา ซักถาม ตอบคำถาม แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องของอากาศ และนำเสนอผลงานด้วยตนเองได้
สติปัญญา
เด็กๆสามารถคิดวางแผนและแก้ปัญหาในการทดลองไม่ให้เกิดอันตรายแก่ตนเองและผู้อื่นได้ รู้จักสังเกตผลการทดลองและสรุปผลการทดลองตลอดถึงการนำเสนอผลงานได้ด้วยตนเอง
2.2. ด้านสังคม
- เด็กๆ ได้เรียนรู้การปฏิบัติตนตามข้อตกลงร่วมกันในการปฏิบัติกิจกรรม
- เด็กๆ ได้เรียนรู้การรอคอยและการแบ่งปัน การยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
- ได้รับการยอมรับจากครูและเพื่อน
2.3. ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เด็กๆ มีความสุข สนุกสนาน ตื่นเต้น และมีความกระตือรือร้น กล้าแสดงออก
แสดงอารมณ์ได้เหมาะสมกับสถานการณ์ ในการปฏิบัติกิจกรรมการทดลองตลอดเวลา อยากรู้อยากเห็น อยากทำ และได้สร้างผลงานผ่านการวาดภาพบันทึกผลการทดลองเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง
2.4. ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย
- เด็กๆ ได้พัฒนาทั้งกล้ามเนื้อมัดเล็ก-มัดใหญ่ จากการได้หยิบจับอุปกรณ์ ทดลองกิจกรรมและช่วยคุณครูเตรียมอุปกรณ์การทดลองเก็บอุปกรณ์
- เด็กได้รู้จักดูแลตนเองให้ปลอดภัยและรักษาสุขภาพอนามัยตนเองหลังเสร็จการทดลอง
สรุปกิจกรรมการทดลอง
กิจกรรม ที่ 18 น้ำ ทราย น้ำมัน
จุดประสงค์
1. เพื่อให้เด็กรู้จักความหมายคำว่าจมและลอยได้
2. เพื่อให้เด็กสามารถปฏิบัติการทดลองได้ด้วยตนเอง
3. เพื่อให้เด็กรู้จักการสังเกตและเปรียบเทียบผลการทดลองได้
4. เพื่อให้เด็กสามารถนำเสนอผลการทดลอง อภิปราย และสรุปผลได้
ขั้นตอนการจัดกิจกรรม
1. ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาซักถามถึงประสบการณ์ในพบเห็นในชีวิตประจำวัน เช่นเวลาที่เรารับประทานน้ำแกง เราจะสังเกตเห็นว่าน้ำมัน และไขมันจะลอยอยู่ด้านบนของน้ำซุป ส่วนเนื้อหรือผักจะจมอยู่ในภาชนะ
2. ล้างทราย.ให้สะอาด
3. เทน้ำมันพืชใส่ในแก้วใบเล็กของเด็กแต่ละคนประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ
4. เทน้ำลงในขวดประมาณ 3 ใน 4 ของขวด ต่อจากนั้นใส่ทรายลงไป 4 ช้อนชา และคนให้เข้ากัน
5. เทน้ำมันพืชจากแก้วใบเล็กลงในขวดและปิดฝาขวดให้แน่น แล้วเขย่าขวดหลายๆ ครั้ง แล้วนำไปวางบนโต๊ะ เพื่อสังเกตการเปลี่ยนแปลง (ทรายจะตกตะกอนอย่างรวดเร็ว น้ำมันพืช และฟองอากาศซึ่งเกิดจากการเขย่า จะรวมตัวกัน แต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาที น้ำมันพืชและน้ำจะแยกตัวออกจากกัน โดยน้ำมันพืชสีเหลืองจะลอยตัวอยู่บนผิวน้ำ
6.ครูและนักเรียนร่วมกันสรุป
วัสดุ/อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำกิจกรรมการทดลอง
กิจกรรมการทดลอง
เด็กนำเสนอผลงาน
ผลงานที่สำเร็จของเด็ก
ผลที่เกิดกับเด็ก
1. ผลที่เกิดขึ้นตามจุดประสงค์
1.1. เด็กรู้จักความหมายคำว่าจมและลอย
1.2. เด็กสามารถปฏิบัติการทดลองได้ด้วยตนเอง
1.3 เด็กรู้จักการสังเกตและเปรียบเทียบผลการทดลอง
1.4. เด็กสามารถนำเสนอผลการทดลอง อภิปราย และสรุปผลได้
2.พัฒนาการความสามารถพื้นฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
2.1. ด้านการเรียนรู้/ ด้านภาษา/ สติปัญญา
เด็กได้ร่วมสนทนาสรุปผลการทดลองและอธิบายผลการทดลอง สรุปว่าทรายหนักกว่าน้ำทำให้จมน้ำ แต่น้ำมันเบากว่าน้ำจึงลอยอยู่บนผิวน้ำได้ แต่ของเหลวทั้งสองชนิดคือ น้ำ และน้ำมันไม่ผสมเป็นเนื้อเดียวกัน เพราะน้ำและน้ำมันมีโครงสร้างแตกต่างกัน จึงไม่สามารถรวมเป็นเนื้อเดียวกันได้
2.2. ด้านสังคม
- เด็กๆ ได้เรียนรู้การปฏิบัติตนตามข้อตกลงร่วมกันในการปฏิบัติกิจกรรม
- เด็กๆ ได้เรียนรู้การรอคอยและการแบ่งปัน การยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
- ได้รับการยอมรับจากครูและเพื่อน
2.3. ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เด็กๆ มีความสุข สนุกสนาน ตื่นเต้น และมีความกระตือรือร้น กล้าแสดงออก
แสดงอารมณ์ได้เหมาะสมกับสถานการณ์ ในการปฏิบัติกิจกรรมการทดลองตลอดเวลา อยากรู้อยากเห็นอยากทำ และได้สร้างผลงานผ่านการวาดภาพบันทึกผลการทดลองเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง
2.4. ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย
- เด็กๆ ได้พัฒนาทั้งกล้ามเนื้อมัดเล็ก-มัดใหญ่ จากการได้หยิบจับอุปกรณ์ ทดลองกิจกรรมและช่วยคุณครูเตรียมอุปกรณ์การทดลองเก็บอุปกรณ์
- เด็กได้รู้จักดูแลตนเองให้ปลอดภัยและรักษาสุขภาพอนามัยตนเองหลังเสร็จการทดลอง
สรุปกิจกรรมการทดลอง
กิจกรรม ที่ 19 เนินน้ำ
จุดประสงค์
1. เพื่อให้เด็กได้รู้จักแรงดึงผิวของน้ำ
2. เพื่อให้เด็กรู้จักเปรียบเทียบสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน
3. .เพื่อเด็กได้ปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเอง
4. เพื่อเด็กค้นพบคำตอบหรือผลการทดลองด้วยตนเอง
5. เพื่อฝึกการใช้หลอดหยด
ขั้นตอนการจัดกิจกรรม
1. แจกหลอดหยด เหรียญต่างๆ และแก้วน้ำ เพื่อให้ฝึกใช้หลอดหยด
2. ครูสนทนาซักถามสิ่งที่เกิดขึ้นประจำวันว่า ทำไมแมลงบางชนิด...จึงเดินบนน้ำได้ แล้วมนุษย์อย่างพวกเราไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ แล้วทำไมแมลงพวกนี้ถึงไม่จมน้ำนะ
3. ให้เด็กลองบีบหลอดหยดน้ำแล้วสังเกตว่ามีอะไรออกมาหรือไม่
- ก่อนใช้หลอดหยดกับน้ำครูตั้งคำถามว่ามีสารใดออกจากหลอดหยดบ้าง(ไม่มี มีแต่ลมเท่านั้น)
- สังเกตเวลาที่ดูดน้ำเกิดอะไรขึ้นเวลาเราบีบปลายหลอดหยด (มีน้ำเข้ามาในหลอดดูดค่ะ)
4. จากนั้นให้แต่ละคนในกลุ่มผลัดกันใช้หลอดหยดดูดน้ำจากแก้วหยดใส่เหรียญทีละหยด
- ในขณะที่น้ำจะล้นให้หยุด สังเกตการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น (เป็นเนินน้ำ)
- อภิปรายร่วมกันว่า ก่อนที่น้ำจะล้น จะเกิดอะไรขึ้น (เป็นเนินน้ำ)
- หลังจากตอบคำถาม ให้ทดลองหยดน้ำทีละหยดใส่เหรียญให้ได้มากที่สุด แล้วสังเกตการเปลี่ยนแปลง
- ตั้งคำถามว่า เคยเห็นเหตุการณ์นี้ (เนินน้ำ) ในชีวิตประจำวันหรือไม่
5. บันทึกกิจกรรมโดยการวาดภาพระบายสี เป็นรายบุคคล
6. นำเสนอผลการทดลองสรุปและอภิปราย ซักถามผลการทดลอง
วัสดุ/อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำกิจกรรมการทดลอง
กิจกรรมการทดลอง
เด็กนำเสนอผลงาน
ผลงานที่สำเร็จของเด็ก
ผลที่เกิดกับเด็ก
1. ผลที่เกิดขึ้นตามจุดประสงค์
1.1. เด็กได้รู้จักแรงดึงผิวของน้ำ
1.2. เด็กรู้จักเปรียบเทียบสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน
1.3. เด็กได้ปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเอง
1.4. เด็กค้นพบคำตอบหรือผลการทดลองด้วยตนเอง
1.5. เด็กได้ฝึกการใช้หลอดหยด
2.พัฒนาการความสามารถพื้นฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
2.1.ด้านการเรียนรู้/ด้านภาษา/สติปัญญา
- เด็กๆ สามารถเล่า ถ่ายทอดประสบการณ์ของตนเองและจากการทดลองให้ผู้อื่นรับทราบได้
- เด็กได้ร่วมสนทนาสรุปผลการทดลองและอธิบายผลการทดลอง ( น้ำประกอบด้วยโมเลกุลของน้ำที่มีขนาดเล็ก ยึดกันด้วยแรงระหว่างโมเลกุล เป็นแรงที่เราเรียกว่า แรงดึงผิว เมื่อปริมาณน้ำไม่มากพอที่จะทำลายแรงดึงผิวนี้ ก็จะทำให้เราเห็นเนินน้ำ แต่ถ้าเราหยอดน้ำลงไปอีก ทำให้แรงดึงผิวไม่สามารถยึดเกาะกันได้เช่นเดิม จึงล้นออกมา
- เด็กๆ ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัวและนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้
2.2. ด้านสังคม
- เด็กๆ ได้เรียนรู้การปฏิบัติตนตามข้อตกลงร่วมกันในการปฏิบัติกิจกรรม
- เด็กๆ ได้เรียนรู้การรอคอยและการแบ่งปัน การยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
- ได้รับการยอมรับจากครูและเพื่อน
2.3. ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เด็กๆ มีความสุข สนุกสนาน ตื่นเต้น และมีความกระตือรือร้น กล้าแสดงออก อาสาออกมาปฏิบัติกิจกรรม ยิ้มแย้มแจ่มใส ส่งเสียงดีใจ แสดงอารมณ์ได้เหมาะสมกับสถานการณ์ ในการปฏิบัติกิจกรรมการทดลองตลอดเวลา อยากรู้อยากเห็นอยากทำ และได้สร้างผลงานผ่านการวาดภาพบันทึกผลการทดลองเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง
2.4. ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย
- เด็กๆ ได้พัฒนาทั้งกล้ามเนื้อมัดเล็ก-มัดใหญ่ จากการได้หยิบจับอุปกรณ์ ทดลองกิจกรรมและช่วยคุณครูเตรียมอุปกรณ์การทดลองเก็บอุปกรณ์
- เด็กได้รู้จักดูแลตนเองให้ปลอดภัยและรักษาสุขภาพอนามัยตนเองหลังเสร็จการทดลอง
สรุปกิจกรรมการทดลอง
กิจกรรม ที่ 20 แสงเลี้ยวเบน
จุดประสงค์
1. เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้สมบัติพื้นฐานของแสงเรื่องการหักเหของแสงได้
2. เพื่อให้เด็กสังเกตการหักเหของแสงได้
3. เพื่อให้เด็กรู้จักการสังเกต การเปรียบเทียบการทดลองได้
4. เพื่อให้เด็กสามารถปฏิบัติการทดลองด้วยตนเองได้
5. เพื่อให้เด็กสามารถอธิบาย สรุปผลการทดลองได้
ขั้นตอนการจัดกิจกรรม
1. ครูร่วมสนทนากับนักเรียนกับสิ่งที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน เช่น การเล่นน้ำในสระ มองเห็นปลาอยู่ในน้ำลึก ตื้นบ้าง ต่างกัน
2. เด็กทำกิจกรรมบนโต๊ะ เพื่อให้เด็กๆมองแก้วจากด้านบนหรือด้านข้างได้สะดวก
3. นำแก้วน้ำมา 2 ใบ และใส่น้ำลงไปในแก้วทั้ง 2 ใบ ใส่ไม้บรรทัด ลงไปในแก้วใบที่ 1 เสร็จแล้วให้นักเรียนสังเกตการเปลี่ยนแปลง ส่วนแก้วใบที่ 2 ใส่ดินสอ และสังเกตการเปลี่ยนแปลง เราจะเห็นภาพของไม้บรรทัดและดินสอหักงอ ที่ตำแหน่งใด เมื่อเรายกหลอดดูดขึ้นจากน้ำ มีการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่
4.ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการทดลองเรื่อง แสงเลี้ยวเบน
5. บันทึกกิจกรรมโดยการวาดภาพระบายสี เป็นรายบุคคล
6. นำเสนอผลการทดลอง สรุปและอภิปราย ซักถามผลการทดลอง
วัสดุ/อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำกิจกรรมการทดลอง
กิจกรรมการทดลอง
เด็กนำเสนอผลงาน
ผลงานที่สำเร็จของเด็ก
ผลที่เกิดกับเด็ก
1. ผลที่เกิดขึ้นตามจุดประสงค์
1.1. เด็กได้เรียนรู้สมบัติพื้นฐานของแสงเรื่องการหักเหของแสงได้
1.2. เด็กสังเกตการหักเหของแสงได้
1.3. เด็กรู้จักการสังเกต การเปรียบเทียบการทดลองได้
1.4. เด็กสามารถปฏิบัติการทดลองด้วยตนเองได้
1.5. เด็กสามารถอธิบาย สรุปผลการทดลองได้
2.พัฒนาการความสามารถพื้นฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
2.1. ด้านการเรียนรู้/ ด้านภาษา/ สติปัญญา
เด็กได้ร่วมสนทนาสรุปผลการทดลองและอธิบายผลการทดลองพบว่า การหักเหของแสงทำให้ภาพวัตถุใต้น้ำอยู่ใกล้ผิวน้ำมากกว่าความเป็นจริง เราจึงคาดคะเนความลึกของแหล่งน้ำคาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง
2.2. ด้านสังคม
- เด็กๆ ได้เรียนรู้การปฏิบัติตนตามข้อตกลงร่วมกันในการปฏิบัติกิจกรรม
- เด็กๆ ได้เรียนรู้การรอคอยและการแบ่งปัน การยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
- ได้รับการยอมรับจากครูและเพื่อน
2.3. ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เด็กๆ มีความสุข สนุกสนาน ตื่นเต้น และมีความกระตือรือร้น กล้าแสดงออก
แสดงอารมณ์ได้เหมาะสมกับสถานการณ์ ในการปฏิบัติกิจกรรมการทดลองตลอดเวลา อยากรู้อยากเห็นอยากทำ และได้สร้างผลงานผ่านการวาดภาพบันทึกผลการทดลองเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง
2.4. ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย
- เด็กๆ ได้พัฒนาทั้งกล้ามเนื้อมัดเล็ก-มัดใหญ่ จากการได้หยิบจับอุปกรณ์ ทดลองกิจกรรมและช่วยคุณครูเตรียมอุปกรณ์การทดลองเก็บอุปกรณ์
- เด็กได้รู้จักดูแลตนเองให้ปลอดภัยและรักษาสุขภาพอนามัยตนเองหลังเสร็จการทดลอง