บทคัดย่อ
เรื่อง การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ วิชาทัศนศิลป์ เรื่อง เรียนรู้ทัศนศิลป์ท้องถิ่นด้วย แอปพลิเคชัน ThingLink ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ชื่อผู้วิจัย นายมงกุฎ ตรีเงินกุล
ปีที่วิจัย 2564
การวิจัยครั้งนี้เป็นการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ วิชาทัศนศิลป์ เรื่อง ทัศนศิลป์ท้องถิ่นด้วยแอปพลิเคชัน ThingLink ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยวัตถุประสงค์การวิจัย (1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการในการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ วิชาทัศนศิลป์ เรื่อง ทัศนศิลป์ท้องถิ่นด้วยแอปพลิเคชัน ThingLink ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (2) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ วิชาทัศนศิลป์ เรื่อง ทัศนศิลป์ท้องถิ่นด้วยแอปพลิเคชัน ThingLink ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ตามเกณฑ์ 80/80 (3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ วิชาทัศนศิลป์ เรื่อง ทัศนศิลป์ท้องถิ่นด้วย แอปพลิเคชัน ThingLink ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ วิชาทัศนศิลป์ เรื่อง ทัศนศิลป์ท้องถิ่นด้วยแอปพลิเคชัน ThingLink ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ประชากรที่เป็นกลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/4โรงเรียนเทศบาล 1 บ้านชะอำ (ชะอำวิทยาคาร) อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ปีการศึกษา 2564 จำนวน 35 คน โดยใช้วิธีการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามเพื่อศึกษาความต้องการในการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ วิชาทัศนศิลป์ เรื่อง ทัศนศิลป์ท้องถิ่นด้วยแอปพลิเคชัน ThingLink ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 4 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแบบปรนัยเลือกตอบ จำนวน 20 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ วิชาทัศนศิลป์ เรื่อง ทัศนศิลป์ท้องถิ่นด้วยแอปพลิเคชัน ThingLink ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การหาค่าเฉลี่ย (Mean) ร้อยละค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ค่าทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน และการทดสอบด้วยค่า t test dependent
สรุปผลการวิจัย
จากการวิเคราะห์ข้อมูล สามารถสรุปผลการวิจัยได้ดังนี้
1. ครูและนักเรียนมีความเห็นว่าจำเป็นและต้องการในการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ วิชาทัศนศิลป์ เรื่อง ทัศนศิลป์ท้องถิ่นด้วยแอปพลิเคชัน ThingLink ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
2. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ วิชาทัศนศิลป์ เรื่อง ทัศนศิลป์ท้องถิ่นด้วยแอปพลิเคชัน ThingLink ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 88.02 / 85.41 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 และเมื่อพิจารณาเป็นรายชุดกิจกรรมการเรียนรู้ พบว่า ทุกชุดกิจกรรมการเรียนรู้ มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 80/80
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ วิชาทัศนศิลป์ เรื่อง ทัศนศิลป์ท้องถิ่นด้วยแอปพลิเคชัน ThingLink ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ .01
3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ วิชาทัศนศิลป์ เรื่อง ทัศนศิลป์ท้องถิ่นด้วยแอปพลิเคชัน ThingLink ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า โดยภาพรวมนักเรียนมีความพึงพอใจต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้อยู่ในระดับมากที่สุดและเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ทุกข้อนักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด