ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

วิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ “Best Practice” การพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนภาษาไทยด้วยวิธีการฝึกฝนโดยใช้สื่อนวัตกรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑

แบบเสนอวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice)

การพัฒนาการอ่านและการเขียนภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

ชื่อผลงาน : การพัฒนาการอ่านและการเขียนภาษาไทยด้วยวิธีการฝึกฝนโดยใช้สื่อนวัตกรรม

ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑

ชื่อผู้นำเสนอผลงาน : นางสาวกนกวรรณ ทับจิตร์

สังกัด : โรงเรียนพัฒนาประชานุเคราะห์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 1

ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา

ภาษาไทยเป็นเอกลักษณ์ของชาติเป็นสมบัติทางวัฒนธรรม อันก่อให้เกิดความเป็นเอกภาพและเสริมสร้างบุคลิกภาพของคนในชาติให้มีความเป็นไทย เป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจและความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ทำให้สามารถประกอบกิจธุระ การงานและดำเนินชีวิตร่วมกันในสังคมประชาธิปไตยได้อย่างสันติสุขและเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ ประสบการณ์จากแหล่งข้อมูลสารสนเทศต่างๆ เพื่อพัฒนาความรู้ กระบวนการคิดวิเคราะห์ วิจารณ์ และสร้างสรรค์ ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีตลอดจนนำไปใช้ในการพัฒนาอาชีพให้มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังเป็นสื่อแสดงภูมิปัญญาของบรรพบุรุษด้านวัฒนธรรม ประเพณี สุนทรียภาพเป็นสมบัติล้ำค่าควรแก่การเรียนรู้อนุรักษ์และสืบสานให้คงอยู่คู่ชาติไทยตลอดไป (กระทรวงศึกษาธิการ. 2551 : 37)

ในปัจจุบันการจัดการเรียนการสอนภาษาไทยที่ผ่านมายังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยยังไม่เป็นที่น่าพอใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ยังมีปัญหาด้าน การอ่านสะกดคำผิดในเรื่องสระ พยัญชนะ และวรรณยุกต์สูงมากและยังมีปัญหาอื่นๆ อีก เช่น ปัญหาตัวครูผู้สอน ครูภาษาไทยบางคนยึดหลักเกณฑ์ทางภาษาอย่างเคร่งครัดจนทำให้นักเรียนเบื่อภาษาไทย นอกจากนี้ยังมีปัญหาที่เกิดจากตัวนักเรียน เช่น ไม่ชอบครูภาษาไทย ไม่เห็นความสำคัญและคุณค่าของภาษาไทย ตลอดจนไม่รู้จักจุดหมายที่แท้จริงในการเรียนภาษาไทยว่าจะนำไปใช้ในชีวิตประจำวันอย่างไร (เรวดี อาษานาม, 2537)

ปัญหาดังกล่าวควรได้รับการแก้ไขโดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวครูผู้สอน ควรมีการศึกษาหาวิธีที่จะปรับปรุงการเรียนการสอนของตนเองให้มีประสิทธิภาพ ให้ทั้งความรู้ ให้ทักษะและความสนุกสนานไปพร้อมๆ กัน โดยส่งเสริมให้นักเรียนได้สนใจและศรัทธาในวิชาภาษาไทยให้มากขึ้น และมีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ เช่น การสอนแบบมุ่งประสบการณ์ภาษา การสอนแบบกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน การสอนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป การสอนแบบการ์ตูน การสอนโดยใช้เกม การใช้แบบฝึกเสริมทักษะรวมทั้งการใช้สื่อนวัตกรรมการสอนต่างๆ ซึ่งกิดานันท์ มลิทอง (2559) ได้กล่าวไว้

สื่ออการสอนเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างประสบการณ์ทางการศึกษาให้แก่ผู้เรียน สื่อการสอนมี ให้เลือกมากมายหลายชนิด สิ่งสำคัญคือผู้สอนจะต้องเลือกและใช้สื่อการสอนให้เหมาะกับ บทเรียน สื่อการสอนนั้นจะต้องใช้ได้อย่างสะดวกและที่สำคัญก็คือ เมื่อนำมาใช้แล้วจะช่วยให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น นวัตกรรมนี้เป็นสื่อช่วยในการสอนในรายวิชาต่างๆ ตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ทั้งระดับชั้นอนุบาลถึงระดับประถมศึกษา อีกทั้งสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้กับทุกเนื้อหาบทเรียน ตามแต่ผู้สอนจะนำไปประยุกต์ใช้ที่จะทำการเรียนการสอนเป็นมากกว่าการเรียนการสอนในห้องเรียน โดยพัฒนามาจากสื่อการสอนที่คุณครูผลิต

กิดานันท์ มลิทอง (2559) ได้กล่าวถึงประโยชน์ของสื่อการสอนว่าเป็นสิ่งที่ช่วยให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพเพราะช่วยให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจเนื้อหาบทเรียนที่ยุ่งยากซับซ้อนได้ง่ายขึ้นได้ในระยะเวลาอันสั้นและสามารถช่วยให้เกิดความคิดรวบยอดในเรื่องนั้นได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วช่วยกระตุ้นและสร้างความสนใจให้กับผู้เรียน ทำให้เกิดความสนุกและไม่รู้สึกเบื่อหน่ายการเรียน ทำให้ผู้เรียนมีความเข้าใจตรงกันและเกิดประสบการณ์ร่วมกันในวิชาที่เรียนนั้น ช่วยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอนมากขึ้น ทำให้เกิดมนุษย์สัมพันธ์อันดีในระหว่างผู้เรียนด้วยกันเองและกับผู้สอนด้วย ช่วยสร้างเสริมลักษณะที่มีในการศึกษาค้นคว้าหาความรู้ ช่วยให้ผู้เรียนเกิดความคิดสร้างสรรค์จากการใช้สื่อเหล่านี้และช่วยแก้ปัญหาเรื่องของความแตกต่างระหว่างบุคคลโดยการจัดให้มีการใช้สื่อในการศึกษารายบุคคลเพื่อให้นักเรียนเกิดความสนใจในกระบวการเรียนรู้ เพื่อเร้าความสนใจให้แก่ผู้เรียน ต้องนำเอานวัตกรรมเข้ามาผนวกกับการศึกษา ช่วยในการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนที่เรียกว่า “นวัตกรรมการศึกษา” ให้เข้ามามีบทบาทในการเรียนการสอน ซึ่งเป็นการนำเอาแนวคิด วิธีการที่เกี่ยวข้องกับการศึกษามาพัฒนา ปรับปรุง เพิ่มประสิทธิภาพให้การศึกษา ให้มีระบบที่ดียิ่งขึ้น มีคุณภาพมากขึ้น ทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพ

ในการจัดการเรียนการสอนวิชาภาษาไทยนั้นทางโรงเรียนพัฒนาประชานุเคราะห์ได้ทำการประเมินความสามารถในการอ่านการเขียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 พบว่าบางส่วนยังขาดทักษะในการอ่านและการเขียนค่อนข้างมาก ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนในวิชาภาษาไทยและกลุ่มสาระ การเรียนรู้อื่น ๆ ต่ำกว่าเป้าหมายโดยเฉพาะวิชาภาษาไทยซึ่งเป็นพื้นฐานในการเรียนในวิชาอื่น ๆ นักเรียนจำเป็นต้องอ่านออกเขียนได้ทุกคน ข้าพเจ้าในฐานะเป็นครูผู้สอนจึงได้เห็นความสำคัญของสื่อนวัตกรรมการสอน และนำมาช่วยในการพัฒนาการอ่านและการเขียนของนักเรียนชั้นประถมศึกปีที่ 1 ซึ่งได้นำมาจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเป็นพิเศษเพื่อเสริมการสอนโดยการสร้างสื่อนวัตกรรมเพื่อช่วยให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจเนื้อหาบทเรียนที่ยุ่งยากซับซ้อนได้ง่ายขึ้นได้ในระยะเวลาอันสั้นและสามารถช่วยให้เกิดความคิดรวบยอดในเรื่องนั้นได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว โดยคำนึงความเหมาะสมด้านหลักสูตรเนื้อหาสภาพผู้เรียนท้องถิ่นและสภาพสังคมปัจจุบันในการแก้ปัญหาการอ่านและ การเขียนของนักเรียน จากเหตุผลดังกล่าวจึงได้พัฒนาการอ่านและการเขียนภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 1 โดยใช้สื่อนวัตกรรม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาการเรียนการสอนวิชาภาษาไทยให้มีประสิทธิภาพต่อไป

จุดประสงค์ และเป้าหมายของการดำเนินงาน

จุดประสงค์

1. เพื่อพัฒนาความสามารถการอ่านภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

2. เพื่อพัฒนาความสามารถการเขียนภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

เป้าหมาย

เชิงปริมาณ

1. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ร้อยละ 80 มีการพัฒนาความสามารถการอ่านภาษาไทย

2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ร้อยละ 80 มีการพัฒนาความสามารถการอ่านภาษาไทย

เชิงคุณภาพ

1. พัฒนาความสามารถการอ่านภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑

2. พัฒนาความสามารถการอ่านภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑

ผลการดำเนินการ ผลสัมฤทธิ์ และประโยชน์ที่ได้รับ

ผลการดำเนินงาน

1. ความสามารถด้านการอ่านภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ได้รับการพัฒนาจากการจัดกิจกรรมตามที่กำหนดครอบคลุมทุกกิจกรรม

2. ความสามารถด้านการเขียนภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ได้รับการพัฒนาจากการจัดกิจกรรมตามที่กำหนดครอบคลุมทุกกิจกรรม

ผลสัมฤทธิ์ของงาน

1. ความสามารถด้านการอ่านภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 สูงขึ้นโดยคะแนนเฉลี่ยภาพรวมหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ร้อยละ 45.00

2. ความสามารถด้านการเขียนภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 สูงขึ้นโดยคะแนนเฉลี่ยภาพรวมหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ร้อยละ 60.00

ประโยชน์ที่ได้รับ

1. นักเรียนได้รับการพัฒนาการอ่านและการเขียนอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ

2. ครูผู้สอนมีการพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา

3. คุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาด้านผู้เรียนมีคุณภาพสูงขึ้น

4. โรงเรียนเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ที่มีคุณภาพมากขึ้น

5. โรงเรียนเป็นที่ยอมรับของชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนมากยิ่งขึ้น

การขยายผลต่อยอด หรือประยุกต์ใช้ผลงาน นวัตกรรมหรือแนวปฏิบัติ

การอ่านและการเขียนเป็นทักษะพื้นฐานที่สำคัญในการเรียนในทุกๆ วิชา ซึ่งจะสัมฤทธิ์ผลได้จากการกระทำอย่างต่อเนื่องหรือสม่ำเสมอ ดังนั้นจึงควรมีการพัฒนาความสามารถการอ่านและการเขียนต่อเนื่องโดยการกระตุ้นให้นักเรียนเห็นความสำคัญของการอ่านและการเขียน รักการอ่านและการเขียน เพื่อให้ผู้เรียนได้มีความมั่นใจในการอ่านและการเขียนได้มากยิ่งขึ้นครูผู้สอนควรฝึกฝนนักเรียนในด้านการอ่านและการเขียนอย่างสม่ำเสมอ และควรพัฒนาความสามารถการอ่านและการเขียนกับนักเรียนระดับชั้นอื่นๆ นอกจากนี้ได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (PLC) เรื่องการพัฒนาความสามารถด้านการอ่านและการเขียนภาษาไทยกันระหว่างเพื่อนครูภายในโรงเรียนทั้งในกลุ่มสาระการเรียนรู้เดียวกันและต่างกลุ่มสาระการเรียนรู้ Show & Share รวมถึงผู้ปกครองและคณะกรรมการสถานศึกษา เพื่อให้เห็นถึงความสำคัญของการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะความสามารถด้านการอ่านและการเขียนภาษาไทย

โพสต์โดย กนกวรรณ : [1 ส.ค. 2566 เวลา 19:39 น.]
อ่าน [6029] ไอพี : 58.11.83.128
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 52,199 ครั้ง
7 สัญลักษณ์ในขวดพลาสติก มีความหมายอย่างไร อันไหนรีไซเคิลได้ ที่นี่มีคำตอบ
7 สัญลักษณ์ในขวดพลาสติก มีความหมายอย่างไร อันไหนรีไซเคิลได้ ที่นี่มีคำตอบ

เปิดอ่าน 31,509 ครั้ง
กินให้ผอมใน 14 วัน! ลองทำดูสิ
กินให้ผอมใน 14 วัน! ลองทำดูสิ

เปิดอ่าน 10,475 ครั้ง
Animator vs Animation ภาค 4 กลับมาแล้ว สุดยอดมาก ชมคลิปกันเลย
Animator vs Animation ภาค 4 กลับมาแล้ว สุดยอดมาก ชมคลิปกันเลย

เปิดอ่าน 14,579 ครั้ง
"พ่อแม่รังแกฉัน"(ใครกันจะรังแกลูกได้เท่าพ่อแม่)
"พ่อแม่รังแกฉัน"(ใครกันจะรังแกลูกได้เท่าพ่อแม่)

เปิดอ่าน 26,058 ครั้ง
เสริมมงคลแบบเสือ ๆ ต้อนรับปีขาล
เสริมมงคลแบบเสือ ๆ ต้อนรับปีขาล

เปิดอ่าน 27,547 ครั้ง
การเรียนการสอนทางไกลแบบปฏิสัมพันธ์
การเรียนการสอนทางไกลแบบปฏิสัมพันธ์

เปิดอ่าน 224,912 ครั้ง
เทคโนโลยี มีกี่ระดับอะไรบ้าง
เทคโนโลยี มีกี่ระดับอะไรบ้าง

เปิดอ่าน 16,519 ครั้ง
ปฏิทินการรับสมัครนักเรียน ปี 2559
ปฏิทินการรับสมัครนักเรียน ปี 2559

เปิดอ่าน 131,088 ครั้ง
การเรียนการสอนผ่านเว็บ (Web-Based Instruction)
การเรียนการสอนผ่านเว็บ (Web-Based Instruction)

เปิดอ่าน 12,944 ครั้ง
7 เคล็ดลับ รักษาความจำยืนยาว
7 เคล็ดลับ รักษาความจำยืนยาว

เปิดอ่าน 10,064 ครั้ง
หน้ากากอนามัยใส่ให้เป็น
หน้ากากอนามัยใส่ให้เป็น

เปิดอ่าน 12,547 ครั้ง
ชวนดู ฝนดาวตกสิงโต หรือฝนดาวตกลีโอนิดส์ 17-18 พ.ย.
ชวนดู ฝนดาวตกสิงโต หรือฝนดาวตกลีโอนิดส์ 17-18 พ.ย.

เปิดอ่าน 10,659 ครั้ง
การดูแลสุขภาพหน้าฝน ทำได้ง่ายๆ
การดูแลสุขภาพหน้าฝน ทำได้ง่ายๆ

เปิดอ่าน 69,809 ครั้ง
มารยาทในการกล่าวขอบคุณ(Thank you)
มารยาทในการกล่าวขอบคุณ(Thank you)

เปิดอ่าน 27,838 ครั้ง
9 วิธีปลดหนี้บัตรเครดิตแบบชิลๆ
9 วิธีปลดหนี้บัตรเครดิตแบบชิลๆ

เปิดอ่าน 38,266 ครั้ง
ประณีตศิลป์ไทย
ประณีตศิลป์ไทย
เปิดอ่าน 42,036 ครั้ง
รู้ไว้ใช่ว่า...อัตราค่าปรับตามกฎหมายจราจรทางบก
รู้ไว้ใช่ว่า...อัตราค่าปรับตามกฎหมายจราจรทางบก
เปิดอ่าน 12,097 ครั้ง
ถนนราดยาง หรือ ถนนลาดยาง
ถนนราดยาง หรือ ถนนลาดยาง
เปิดอ่าน 22,003 ครั้ง
สมดุลของ 2 ส้อม และ 1 ไม้จิ้มฟัน
สมดุลของ 2 ส้อม และ 1 ไม้จิ้มฟัน
เปิดอ่าน 16,883 ครั้ง
เครื่องเรือน อาวุธ และเครื่องนุ่งห่มกับตัวไม้ประกอบเรือนของชาวสยาม
เครื่องเรือน อาวุธ และเครื่องนุ่งห่มกับตัวไม้ประกอบเรือนของชาวสยาม

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ