การวิจัยในครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ
1. เพื่อหาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้สาระ หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรมและการดำเนินชีวิตในสังคม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ตามเกณฑ์ 75/75 2. เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการสาระพลเมือง วัฒนธรรมและการดำเนินชีวิตในสังคม
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น 3. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
ระหว่างคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน ที่เรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้สาระ หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรมและการดำเนินชีวิตในสังคม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น กลุ่มตัวอย่าง เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/9 โรงเรียนเสลภูมิพิทยาคม อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 38 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้มี 2 ชนิด ได้แก่ (1.) แผนการจัดการเรียนรู้สาระ หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรมและการดำเนินชีวิตในสังคม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น จำนวน 4 หน่วย 20 ชั่วโมง (2.) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.21 ถึง 0.94 ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.79 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่
ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการหาค่าดัชนีประสิทธิผลและทดสอบสมมติฐาน t-test (Dependent Sample)
ผลการวิจัยปรากฏดังนี้
การจัดการเรียนรู้สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรมและการดำเนินชีวิตในสังคม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.61/79.31 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 75/75 ที่ตั้งไว้ และมีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.67 คิดเป็นร้อยละ 67 และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
มีผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
สรุปได้ว่า การจัดการเรียนรู้สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรมและการดำเนินชีวิตในสังคม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ
สืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น เป็นแนวทางหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสามารถพัฒนาการเรียนรู้และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้แก่นักเรียน และทำให้นักเรียนมีความกระตือรือร้นและ
มีความสุขในการเรียนมากยิ่งขึ้น เพราะกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น เป็นการจัดกิจกรรมแบบ active learning ที่ส่งเสริมผู้เรียนศึกษาด้วยตนเอง
มีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ ได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมอย่างหลากหลาย สอดคล้องกับความสนใจของผู้เรียน ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ จัดกิจกรรมให้ท้าทาย ตื่นเต้น เร้าความสนใจของผู้เรียน เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แสดงความคิดเห็นอย่างเสรี เรียนรู้จากประสบการณ์จริง สามารถเชื่อมโยงประสบการณ์เดิม และสามารถนำไปใช้ได้จริ