|
|
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการอ่าน เพื่อความเข้าใจในการอ่านภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพรูปแบบการอ่านแบบกลุ่มเล็กร่วมกับการใช้กลยุทธ์การอ่าน เพื่อส่งเสริมความเข้าใจในการอ่านภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการอ่านแบบกลุ่มเล็กร่วมกับการใช้กลยุทธ์การอ่านเพื่อส่งเสริมความเข้าใจในการอ่านภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 4) เพื่อประเมินผลรูปแบบการอ่านแบบกลุ่มเล็กร่วมกับการใช้กลยุทธ์การอ่านที่พัฒนาขึ้น การดำเนินการวิจัยแบ่งเป็น 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การศึกษาข้อมูลพื้นฐาน เพื่อศึกษาปัญหาและความต้องการพัฒนารูปแบบการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาไทย ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยการสอบถามด้วยแบบสอบถามจากครูภาษาไทยและครูวิชาการ จำนวน 10 คน สนทนากลุ่มครูสอนภาษาไทย จำนวน 6 คน และสอบถามนักเรียน เรื่องสภาพปัญหาการอ่านภาษาไทยของนักเรียน โรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญา ในพระอุปถัมภ์ฯ ระยะที่ 2 การสร้างและหาประสิทธิภาพรูปแบบการอ่านแบบกลุ่มเล็กร่วมกับการใช้กลยุทธ์การอ่าน โดยการศึกษาเอกสาร ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ทดลองใช้กับนักเรียนที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่าง ระยะที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบ โดยนำรูปแบบการอ่านแบบกลุ่มเล็กร่วมกับการใช้กลยุทธ์การอ่านที่พัฒนาขึ้น ซึ่งจัดทำเป็นแผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการอ่านแบบกลุ่มเล็กร่วมกับการใช้กลยุทธ์การอ่าน จำนวน 6 แผน ใช้เวลา 18 ชั่วโมง ไปใช้กับกลุ่มตัวอย่าง ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 2 ห้องเรียน ได้จากการสุ่มแบบกลุ่ม จัดเป็นกลุ่มทดลอง 1 ห้องเรียน จำนวนนักเรียน 53 คน และกลุ่มควบคุม 1 ห้องเรียน จำนวนนักเรียน 50 คน และระยะที่ 4 การประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบที่พัฒนาขึ้น โดยการสอบถามครูผู้ใช้รูปแบบและผู้เกี่ยวข้อง จำนวน 15 คน แบ่งเป็นครูในโรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญา ในพระอุปถัมภ์ฯ จำนวน 10 คน และครูโรงเรียนอื่นที่นำรูปแบบไปใช้ จำนวน 10 คน สอบถามนักเรียนและสนทนากลุ่มนักเรียนกลุ่มทดลองที่เรียนด้วยรูปแบบการอ่านแบบกลุ่มเล็กร่วมกับการใช้กลยุทธ์การอ่าน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบสอบถามครู เรื่อง สภาพปัญหาและความต้องการพัฒนาการสอนอ่านภาษาไทย แบบเก็บข้อมูลการสนทนากลุ่มครู แบบสอบถามนักเรียน เรื่อง สภาพปัญหาการอ่านภาษาไทยของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 แผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการอ่านแบบกลุ่มเล็กร่วมกับการใช้กลยุทธ์การอ่าน จำนวน 6 แผน แบบทดสอบวัดความเข้าใจการอ่านภาษาไทย แบบประเมินความพึงพอใจในการเรียน และแบบประเมินรูปแบบการอ่านสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้อง การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบ t - test การหาประสิทธิภาพรูปแบบ และการหาดัชนีประสิทธิผลของรูปแบบ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ ใช้วิธี
การสรุปประเด็น
ผลการวิจัยพบว่า
1) ปัญหาเกี่ยวกับการอ่านและการจัดการเรียนการสอนอ่านภาษาไทยระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ได้แก่ นักเรียนอ่านแล้วสามารถสรุปความ ตีความได้ในระดับน้อย ครูขาดการปรับปรุง วิธีการสอนอ่านอย่างจริงจัง ครูมีความเห็นว่าควรปรับปรุงรูปแบบการอ่านเป็นแบบกลุ่มขนาดเล็ก
2) รูปแบบการอ่านแบบกลุ่มเล็กร่วมกับการใช้กลยุทธ์การอ่านเพื่อส่งเสริมความเข้าใจ ในการอ่านภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น มี 5 องค์ประกอบ คือ หลักการ วัตถุประสงค์ เนื้อหาการอ่าน ขั้นตอนกิจกรรมการอ่าน และการวัดและประเมินผล โดยขั้นตอนกิจกรรมการอ่านอ่าน 5 ขั้น ซึ่งเรียกว่า PSDRC model คือ ขั้นเตรียม (Preparation) ขั้นเรียนรู้เนื้อหา (Study) ขั้นสาธิตการอ่าน (Demonstration) ขั้นอ่านร่วมกัน (Reading) และขั้นสรุปผลการอ่าน (Conclusion)
3) กลุ่มทดลองที่เรียนด้วยรูปแบบการอ่านแบบกลุ่มเล็กร่วมกับการใช้กลยุทธ์การอ่าน มีคะแนนความเข้าใจในการอ่านภาษาไทยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และ กลุ่มทดลองที่เรียนด้วยรูปแบบการอ่านแบบกลุ่มเล็กร่วมกับการใช้กลยุทธ์การอ่าน มีคะแนนความเข้าใจการอ่านภาษาไทยหลังเรียนสูงกว่ากลุ่มควบคุมที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4) นักเรียนกลุ่มทดลองมีระดับความพึงพอใจในการเรียนระดับมากที่สุด นักเรียนกลุ่มทดลองมีความคงทนในการเรียนรู้เมื่อทดสอบที่ระยะหลังเรียน 8 สัปดาห์ ผลการประเมินความเหมาะสมของรูปแบบการอ่านแบบกลุ่มเล็กร่วมกับการใช้กลยุทธ์การอ่านโดยผู้เกี่ยวข้อง อยู่ในระดับมากที่สุด ประสิทธิภาพของรูปแบบการอ่านแบบกลุ่มเล็กร่วมกับการใช้กลยุทธ์การอ่านที่พัฒนาขึ้น เท่ากับ 90.89/91.13 ดัชนีประสิทธิผลของรูปแบบ เท่ากับ 0.7552
|
โพสต์โดย นุ๊ก : [26 ก.ค. 2566 เวลา 07:21 น.] อ่าน [2791] ไอพี : 180.180.124.142
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 22,556 ครั้ง
| เปิดอ่าน 26,370 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,739 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,026 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,876 ครั้ง
| เปิดอ่าน 6,217 ครั้ง
| เปิดอ่าน 23,896 ครั้ง
| เปิดอ่าน 22,457 ครั้ง
| เปิดอ่าน 28,565 ครั้ง
| เปิดอ่าน 27,726 ครั้ง
| เปิดอ่าน 44,197 ครั้ง
| เปิดอ่าน 31,295 ครั้ง
| เปิดอ่าน 22,973 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,879 ครั้ง
| เปิดอ่าน 25,656 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 37,753 ครั้ง
| เปิดอ่าน 309,730 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,559 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,787 ครั้ง
| เปิดอ่าน 59,506 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|