ข้าพเจ้าได้ศึกษาข้อมูล ค้นหากระบวนการแก้ไขปัญหาเพิ่มเติมโดยใช้หลักการ กระบวนการ ตามแนวทาง การแก้ปัญหาการอ่านสะกดคำของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยนำขั้นตอนการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (Brain Based Learning)และกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบ Active learning มาประยุกต์ใช้ในการสร้างนวัตกรรมการแก้ปัญหาการอ่านสะกดคำของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้นวัตกรรม Brain P.L.A.Y MODEL ดังนี้
4.1.1 ขั้นตอนการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (Brain Based Learning)
ขั้นตอนที่ 1 : เตรียมความพร้อม (Warm Up) เพื่อเป็นการกระตุ้นสมองตามหลักการทำงานของสมอง เมื่อมีการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างมีความสุขสมองจะหลั่งสารเคมีที่ชื่อว่า เซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งสารนี้มีความสำคัญมากช่วยให้มีจิตใจที่สงบและเกิดสมาธิ ซึ่งจะแตกต่างจาก เอนดอร์ฟิน (Endorphin)และ โดพามีน (Dopamine) ที่จะช่วยให้มีความสุขและสนุกสนานซึ่งนับว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญ โดยทางโรงเรียนได้กำหนดไว้ว่า กิจกรรมเคลื่อนไหวทุกชั่วโมงที่ครูเข้าสอนครูจะต้อง Warm Up ก่อนเสมอ โดยใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที
ขั้นตอนที่ 2 : เรียนรู้ (Learning Stage) ในขั้นตอนนี้จะคำนึงถึงหลักการทำงานของสมองที่ว่า เรียนรู้จากง่ายไปหายากเรียนรู้จากของจริง และจากการสัมผัส จากการศึกษาทางประสาทวิทยาศาสตร์พบว่ามือ เป็นอวัยวะที่มีประสาทสัมผัสที่ส่งผลต่อการเรียนรู้ได้ดีที่สุดรองลงมาคือ ปาก นั่นก็หมายถึงต้องให้เด็กพูด หรือสื่อสารจะช่วยให้เด็กสามารถเชื่อมโยงเรื่องได้ ดังนั้น กิจกรรมเสริมประสบการณ์การออกแบบรูปแบบการสอนสื่อการสอน โดยคุณครูคำนึงถึงหลักการทำงานของสมองอย่างมาก การเรียนการสอนจึงจะประสบความสำเร็จ ในขั้นตอนที่ 2 นี้มีขั้นตอนย่อยที่สำคัญหนึ่งคือ การสรุปในแต่ละชั่วโมง
ทางโรงเรียนได้สนับสนุนให้มีการฝึกอบรมตลอดจนหนังสือที่เกี่ยวข้องเพื่อให้คุณครูใช้เป็นเครื่องมือในการสรุปที่ช่วยให้เด็กเกิดความสนุกเกิดการเรียนรู้ และจดจำได้ง่ายขึ้น
ขั้นตอนที่ 3 : ขั้นการฝึกขั้นนี้จะสอดคล้องกับหลักการทำงานของสมองที่ว่า สมองจะจดจำได้ดีนำไปสู่ความจำระยะยาว (Long-term Memory) ต้องผ่านกระบวนการฝึกซ้ำๆ คำว่า ซ้ำๆ ในที่นี้ไม่ได้หมายถึง การทำโจทย์เดิมซ้ำๆแต่หมายถึงการใช้หลักการ เช่น หลักการบวกก็นำไปใช้กับการบวกที่แตกต่างกันออกไปในโจทย์คุณครูจึงจำเป็นต้องออกแบบใบงานที่แตกต่างออกไป เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกฝนเรื่อยๆ
ขั้นตอนที่ 4 : ขั้นการสรุป ขั้นนี้เป็นการสรุปเมื่อจบบทเรียนหรือหน่วยซึ่งแตกต่างจากขั้นตอนที่ 2 ซึ่งเป็นการสรุปในแต่ละชั่วโมง ในขั้นตอนนี้เป็นการเชื่อมโยงความรู้ทั้งหน่วยโดยใช้คำถาม ฝึกให้นักเรียนเชื่อมโยงความรู้ภายในบทเรียนสอดคล้องกับหลักการทำงานของสมองที่ว่า สมองเรียนรู้เป็นองค์รวม ซึ่งขั้นตอนนี้มีความสำคัญต่อเด็กมากและเป็นขั้นตอนที่ค่อนข้างยาก ครูเองก็จำเป็นต้องฝึกฝนบ่อยๆ เช่นกัน
ขั้นตอนที่ 5 : ขั้นการประยุกต์ใช้ทันทีทันใดการที่เด็กเรียนแล้วสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้นั้นทำให้เกิดการเรียนรู้ได้ถึงร้อยละ 90 ดังนั้น เมื่อจบบทเรียน คุณครูต้องคิดต้องออกแบบ เชื่อมโยงความรู้ทั้งหน่วย นำใบงานมาให้เด็กวาดภาพ ต่อเติมจากสิ่งที่ได้รับความรู้มาต่อยอดความรู้โดยองค์รวม
4.1.2 กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบ Active learning
สำหรับกระบวนการจัดการเรียนการสอนหรือวิธีการสอนเราจะใช้รูปแบบ Active Learning เป็น กระบวนการเรียนการสอนที่เน้นให้ผู้เรียนมีส่วนรวมและมีปฏิสัมพันธ์กับกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติที่ หลากหลายรูปแบบ รูปแบบการสอนนี้เราจะใช้ขั้นตอนทั้งหมด 5 ขั้นตอน
ขั้นตอนที่ 1 กระตุ้นความสนใจ
ขั้นตอนที่ 2 สำรวจและค้นหา
ขั้นตอนที่ 3 อภิปรายและลงข้อสรุป
ขั้นตอนที่ 4 สร้างผลผลิตของความเข้าใจ
ขั้นตอนที่ 5 สะท้อนผลผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้
4.3 ขั้นตอนการดำเนินการนวัตกรรม
4.3.1 สำรวจปัญหา (Problem) ขั้นตอนนี้ เป็นขั้นตอนศึกษาผู้เรียนรายบุคคล ค้นพบปัญหาและความต้องการของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ขั้นนี้เป็นขั้นตอนการจำลองสถานการณ์ให้การอ่านไม่ออก เขียนไม่คล่องเปรียบเสมือนโรคที่ต้องการได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน โดยขั้นตอนในการรักษาจะคล้ายกับการรักษาโรคในคลินิกหรือโรงพยาบาล
4.3.2 การจัดการเรียนการสอน (Learn) ขั้นตอนนี้จะเป็นการดำเนินการจัดกิจกรรมตามรูปแบบตามขั้นตอน การแก้ปัญหาการอ่านสะกดคำของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบ Active learning ขั้นตอนนี้จะเป็นขั้นตอนการสอนตามหลักการ Active Learning การให้ผู้เรียนมีบทบาทในการแสวงหา ความรู้และเรียนรู้อย่างมีปฏิสัมพันธ์จนเกิดความรู้ มีทั้งหมด 4 กิจกรรมใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้รูปแบบ Active Learning 5 ขั้นตอน
4.3.3 การเคลื่อนไหว (Action) การเคลื่อนไหวผ่านกิจกรรมเพื่อให้สมองตื่นตัวสามารถเรียนรู้ได้โดยผ่านกระบวนการทางสมองโดยขั้นตอนการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (Brain Based Learning) ผ่านกิจกรรมต่างๆ โดยอาศัยการใช้สื่อการจัดการเรียนการสอน
4.3.4 ตรวจสอบความถูกต้อง (Yeah) สรุปผลและติดตามขั้นตอนนี้จะเป็นขั้นตอนในการสรุปผลการแก้ไขปัญหาการอ่านไม่ออก ผลปรากฏว่าจากการดำเนินงานนักเรียนจำนวน 18 คน ผ่านการทดสอบอยู่ที่ ร้อยละ 85 ของการทดสอบ ส่งผลให้นักเรียนมีผลการทดสอบความสามารถการอ่าน ออกของผู้เรียน โดยใช้นวัตกรรม การแก้ปัญหาการอ่านสะกดคำของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบ Active learning ประสบผลสำเร็จและนักเรียนมีเจตคติที่ดีขึ้นในการเรียน