|
|
เทคนิค KEDL เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นที่ 1 K (What we know) สิ่งที่โจทย์บอกให้ทราบมีอะไรบ้าง ขั้นที่ 2 W (What we want to know) โจทย์ต้องการทราบอะไร ขั้นที่ 3 D (What we do to find out) หาคำตอบตามที่โจทย์ต้องการ และ ขั้นที่ 4 L (What we learned) นักเรียนสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ (Shaw, J. M., 1997) เทคนิคการสอนแบบ KWDL เป็นการจัดการเรียนการสอนตามกระบวนการแก้ปัญหาที่ฝึกให้นักเรียนคิดวิเคราะห์โจทย์ปัญหาอย่างหลากหลาย อันจะทำให้นักเรียนนำไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันของตนเองได้ ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนรู้จักคิดวิเคราะห์ และสามารถแก้โจทย์ปัญหาได้อย่างถูกต้องหลากหลายวิธีมากยิ่งขึ้น
จากข้อมูลของโรงเรียนบ้านหนองเสือช้าง (จรุงราษฎร์พัฒนา) อำเภอหนองใหญ่ จังหวัดชลบุรี พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ปีการศึกษา 2565 อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างต่ำไม่เป็นไปตามค่าเป้าหมาย และเมื่อผู้วิจัยได้วิเคราะห์หน่วยการเรียนรู้ พบว่า หน่วยที่มีปัญหาการเรียนการสอนมากคือ เรื่องการแก้โจทย์ปัญหาร้อยละ ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านหนองเสือช้าง (จรุงราษฎร์พัฒนา) ดังนั้นจากการศึกษากระบวนการรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ KWDL ดังกล่าว ผู้วิจัยจะนำวิธีรูปแบบ การจัดการเรียนรู้แบบ KWDL มาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เรื่อง ร้อยละ โดยใช้เทคนิค KWDL ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ส่งผลให้ ผู้เรียนเกิดกระบวนการเรียนรู้และสามารถนำคณิตศาสตร์ไปประยุกต์เพื่อพัฒนาคุณภาพของชีวิตและพัฒนาคุณภาพของ สังคมไทยให้ดีขึ้นได้
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาร้อยละ โดยใช้เทคนิค KWDL ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านหนองเสือช้าง (จรุงราษฎร์พัฒนา) ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านหนองเสือช้าง (จรุงราษฎร์พัฒนา) อำเภอ หนองใหญ่ จังหวัด ชลบุรี ปีการศึกษา 2566 จำนวน 35 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยจำแนกออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้ 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองปฏิบัติ ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ เป็นแผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง โจทย์ปัญหาร้อยละ ด้วยเทคนิค KWDL จำนวน 5 แผน และ 2) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพประสิทธิผลการจัดการเรียนรู้ ได้แก่ ข้อสอบแบบอัตนัย จำนวน 5 ข้อ ข้อละ 10 คะแนน รวม 50 คะแนน ข้อสอบแต่ละข้อมีการให้คะแนนแบบรูบริค (Rubric) คะแนนเต็ม 10 คะแนน จำแนกได้เป็นขั้น K 2 คะแนน ขั้น W 3 คะแนน ขั้น D 3 คะแนน และ ขั้น L 2 คะแนน การวิจัยครั้งนี้ดำเนินการทดลองและเก็บรวบรวมข้อมูลดังนี้ 1) ทำแบบทดสอบก่อนเรียนโดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางกาเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาร้อยละ แล้วบันทึกผลการสอบไว้เป็นคะแนนทดสอบก่อนเรียน 2) จัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องโจทย์ปีญหาร้อยละ ด้วยเทคนิค KWDL ให้กับผู้เรียน จำนวน 5 แผน ใช้เวลา 5 ชั่วโมง โดยดำเนินการตามขั้นตอนของกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการ 3) หลังจากเสร็จสิ้นการจัดการเรียนรู้ ทำการทดสอบอีกครั้งโดยใช้แบบทดสอบการวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องโจทย์ปัญหาร้อยละ แล้วบันทึกผลการสอนไว้เป็นคะแนนทดสอบหลังเรียน และ 4) นำข้อมูลที่ได้จากการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนมาวิเคราะห์หา ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย พบว่า การพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เรื่อง ร้อยละ โดยใช้เทคนิค KWDL ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า ทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ จากการทำข้อสอบแบบอัตนัย ของนักเรียนทั้งหมด 35 คน มีคะแนนเฉลี่ย ก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 24.66 หลังเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 35.00 จะเห็นได้ว่าคะแนนของค่าเฉลี่ยหลังเรียน มีค่ามากกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของก่อนเรียนมีค่าเท่ากับ 8.93 ส่วนค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานหลังเรียนมีค่าเท่ากับ 8.55 เนื่องจากเทคนิค KWDL นั้นมีการคิดเป็นขั้นตอนชัดเจนทำให้นักเรียนสามารถสร้างความเข้าใจในการแก้โจทย์ปัญหาได้ดียิ่งขึ้น
|
โพสต์โดย นุธิดา : [15 ก.ค. 2566 เวลา 08:04 น.] อ่าน [2597] ไอพี : 125.27.53.147
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 18,258 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,538 ครั้ง
| เปิดอ่าน 31,089 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,985 ครั้ง
| เปิดอ่าน 34,555 ครั้ง
| เปิดอ่าน 195,100 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,454 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,042 ครั้ง
| เปิดอ่าน 25,431 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,942 ครั้ง
| เปิดอ่าน 22,346 ครั้ง
| เปิดอ่าน 59,535 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,121 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,360 ครั้ง
| เปิดอ่าน 5,644 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 1,530 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,688 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,037 ครั้ง
| เปิดอ่าน 23,162 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,662 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|