การดำเนินงานตามรูปแบบการบริหารจัดการศึกษาน้อมนำพระบรมราโชบายรัชการที่ ๑๐ สู่การปฏิบัติให้มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง มีคุณธรรม โดยใช้ SOKEWANG Model มีการดำเนินงานของโมเดลสู่ความสำเร็จ ดังนี้
ผลการปฏิบัติงานโดยใช้นวัตกรรมรูปแบบการบริหารจัดการศึกษาน้อมนำพระบรมราโชบายรัชการที่ ๑๐ สู่การปฏิบัติให้มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง มีคุณธรรม โดยใช้ SOKEWANG Model จากการดำเนินโครงการ/กิจกรรมและได้มีการประเมินผลพฤติกรรมของผู้เรียนจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งผู้บริหารสถานศึกษา คุณครู นักเรียนและผู้ปกครองพบว่า นักเรียนร้อยละ ๑๐๐ ได้น้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ด้านที่ ๒ คือ ด้านการมีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง มีคุณธรรม สู่การปฏิบัติโดยผ่านโครงการประชาธิปไตยในโรงเรียน โครงการโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. และโครงการโรงเรียนรักษาศีล ๕ เชิงคุณภาพครอบครัวอบอุ่น ซึ่งนักเรียนได้เข้าร่วมโครงการและได้ทำกิจกรรมร่วมกันตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล ๑ ถึง ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 นักเรียนร้อยละ ๑๐๐ ได้รับการปลูกฝังให้มีคุณธรรม จริยธรรม และรักษาศีลธรรม และนักเรียนร้อยละ ๙๐ รู้จักแยกแยะผิดชอบชั่วดี ปฏิบัติแต่สิ่งที่ถูกต้องดีงาม ปฏิเสธสิ่งที่ผิด ไม่หลง ไปในสิ่งที่ไม่เหมาะสม และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสังคม ซึ่งทางโรงเรียนมีการใช้ SOKEWANG Model ในการขับเคลื่อนโครงการเพื่อน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ด้านที่ ๒ สู่การปฏิบัติทั้งจัดกิจกรรมภายในห้องเรียนและนอกห้องเรียน ดังนี้
๑) โครงการประชาธิปไตยในโรงเรียน
เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรียนมีคุณธรรมนำความรู้ ได้เรียนรู้บทบาทหน้าที่ความเป็นพลเมืองตามวิถีประชาธิปไตย อันได้แก่ คารวธรรม สามัคคีธรรม ปัญญาธรรม รวมทั้งหลักธรรมาภิบาล การมีจิตอาสาและพัฒนาตนเองได้อย่างเต็มศักยภาพ อันส่งผลต่อคุณลักษณะอันพึงประสงค์ บนพื้นฐานความพอเพียง โดยอาศัยความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย โดยครูที่ปรึกษาจะดูแลคณะกรรมการสภานักเรียนดำเนินกิจกรรมตามรูปแบบขององค์ประกอบการแข่งขันสภาต้นแบบ ทำให้นักเรียนมีความเป็นผู้นำ ในการแสดงออกในสิ่งที่ดี ไม่หลงทางไปในสิ่งที่ไม่เหมาะสม มีจิตอาสาและจิตสาธารณะ เป็นแบบอย่างที่ดีในการปฏิบัติตนได้ ส่งผลให้โรงเรียน คุณครู และนักเรียน ได้รับรางวัลโรงเรียนสภาต้นแบบระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนครเขต ๒ คุณครูและนักเรียนได้รับได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง รองชนะเลิศอันดับที่ ๑ กิจกรรม การแข่งขันสภานักเรียน ป.๑-ป.๖ เนื่องในงานศิลปะหัตกรรมนักเรียน ระดับเขตพื้นทีการศึกษา ครั้งที่ ๗๐
๒) โครงการโรงเรียนคุณธรรม สพฐ.
เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรมสำหรับนักเรียน ครูและบุคลากร ซึ่งทางโรงเรียน โดยผู้บริหาร ครู และสภานักเรียนร่วมกันประชุม วางแผน เกี่ยวกับการการดำเนินโครงการโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. ระดับโรงเรียน ซึ่งคุณธรรมอัตลักษณ์โรงเรียนคือ มีวินัย มีความซื่อสัตย์ มีความรับผิดชอบ โดยครูประจำชั้นตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล จนถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ แต่ละชั้นเป็นที่ปรึกษากิจกรรม/โครงงานระดับห้องเรียน และร่วมวางแผนการดําเนินกิจกรรมที่ดำเนินการในห้องเรียนโดยบูรณาการกับรายวิชาหน้าที่พลเมือง อาทิเช่น กิจกรรมคนดีไม่ลักขโมย กิจกรรมการบ้าน หนูทําเอง กิจกรรมห้องเรียนสะอาด สวยด้วยมือเรา กิจกรรม ๕ ส เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้จะสอดคล้องกับคุณธรรมอัตลักษณ์ของโรงเรียน และมีการเข้าค่ายยุวชนคนคุณธรรม โดยเชิญพระวิทยากรจากวัดในชุมชนมาเทศนาเกี่ยวกับหลักธรรมสำคัญในการดำเนินชีวิต จนทำให้นักเรียนมีพฤติกรรมและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ที่ดีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเป็นพื้นฐานที่จะพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้เป็นคนดี และเป็นแบบอย่างที่ดี ทำให้โรงเรียนได้รับรางวัลโรงเรียนได้ยกระดับคุณภาพโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. (ระดับ ๒ ดาว) คุณครูได้รับเกียรติบัตรครูดีศรีเจริญศิลป์ และนางเกตุมะณีย์ เนื้ออ่อน ได้รับรางวัลระดับดีมาก (ด้านผู้บริหาร) ของ นวัตกรรมสร้างสรรค์คนดี ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ส่งผลให้ผู้บริหารและคุณครู เป็นแม่แบบในการพัฒนานักเรียนให้เป็นคนดีต่อไป
๓) โครงการโรงเรียนรักษาศีล 5 เชิงคุณภาพครอบครัวอบอุ่น
เป็นกิจกรรมที่นำธรรมมะไปสู่ภาคปฏิบัติ ในรูปแบบของกิจวัตร ๗ ข้อ เพื่อฝึกฝนพัฒนาสร้างนิสัยที่ดี โดยการ คิดดี พูดดี ทำดี อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ผ่านการบันทึกการทำกิจวัตรทั้ง ๗ ในสมุดบันทึกความดี ได้แก่ กิจวัตรข้อที่ ๑ รักษาศีล ๕ กิจวัตรข้อที่ ๒ สวดมนต์ นั่งสมาธิ กิจวัตรข้อที่ ๓ จัดเก็บห้องนอน ห้องน้ำ ให้สะอาดเป็นระเบียบ กิจวัตรข้อที่ ๔ คิดดี..ด้วยการจับดีคนรอบข้าง กิจวัตรข้อที่ ๕ พูดดี..ด้วยการพูดจาไพเราะ กิจวัตรข้อที่ ๖ ทำดี..ด้วยการทำบุญหรือบำเพ็ญประโยชน์ กิจวัตรข้อที่ ๗ ร่วมกิจกรรมชั่วโมงสุขจริงหนอ ซึ่งมีการบูรณาการในการอบรมคุณธรรมจริยธรรม ในวันศุกร์ของสัปดาห์ ทั้งนี้กรอบความคิดเรื่อง ๗ กิจวัตรความดี เป็นกระบวนการรณรงค์ให้เกิดการนำธรรมะไปสู่ภาคปฏิบัติ โดยเริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่า กิจวัตร เมื่อมีการฝึกฝนพัฒนาบ่อย ๆ จนเกิดเป็นนิสัยที่ดีขึ้นในแต่ละบุคคล คือ คิดดี พูดดี ทำดี อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ก็จะเป็นรากฐานสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ครอบครัวอบอุ่น และเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสังคมที่สงบสุข โดยยึดหลักการที่ว่า เปลี่ยนแปลงจากภายในสู่ภายนอก คือไม่ว่าจะเกิดปัญหาใดขึ้น ทุกคนสามารถช่วยแก้ปัญหาได้ โดยเริ่มต้นจากการปรับเปลี่ยนตนเองก่อน ทำอย่างมีความสุข ทำด้วยความเข้าใจ เมื่อทำซ้ำ ๆ บ่อย ๆ ก็จะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นได้ปรับเปลี่ยนตาม นอกจากนี้ยังเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่นำไปสู่คุณธรรมอื่น ๆ ที่สูงยิ่งขึ้นไป เช่นความเคารพ ความกตัญญู ความอดทนเสียสละ เป็นตัน ส่งผลให้ เด็กหญิงรัชฎาภรณ์ รัตนเพชร นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ได้รับรางวัล 1 ใน 5 นักพูดทรงพลังแห่งปี ในหัวข้อ สู่ความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญด้วย 7 กิจวัตรความดี และ ครูวนิดา ทายิดา ได้รับรางวัลชมเชย พร้อมเงินรางวัล ๕,๐๐๐ บาท จากการประกวดการพูดไอเดียสร้างสรรค์ กระบวนการเรียนรู้ศีลธรรม ด้วยทักษะ Facililation