ความสำคัญและที่มา
จากการสังเกตพฤติกรรมของ ด.ญ วันเมษา เนตร์ประเสริฐ นักเรียนชั้นอนุบาล 2 ผู้เรียนไม่กล้าที่จะแสดงออก และขณะเดียวกันผู้เรียนไม่กล้าที่จะตัดสินใจด้วยตนเองไม่ว่างานนั้นจะเป็นงานง่าย ๆ เช่น การดื่มนม ถ้าผู้เรียนจะดื่มนมก็ต้องถามครูว่า ดื่มได้ไหม ครูบอกว่าดื่มได้ผู้เรียนถึงจะดื่มนม รวมทั้งการทำกิจกรรมภายในห้องเรียน การระบายสีภาพ ผู้เรียนจะต้องคอยถามว่า ใช้สีอะไร นี่ใช่สีเหลืองหรือเปล่า ระบายสีตรงไหน ระบายสีแค่นี้พอหรือยัง เป็นต้น การเล่นตามมุมก็เช่นกัน ผู้เรียนก็ต้องถามครูว่า ไปเล่นได้ไหม เล่นมุมไหน ผู้วิจัยจึงคิดหาวิธีการแก้ไขในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกล้าแสดงออกของ ด.ญ วันเมษา เนตร์ประเสริฐ
จุดประสงค์ในการวิจัย
ให้ผู้เรียนมีความมั่นใจในตนเองกล้าตัดสินใจและกล้าที่จะแสดงออก
ตัวแปรที่ศึกษา
1. ตัวแปรต้น การสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียน
2. ตัวแปรตาม การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้กล้าแสดงออกและมีความเชื่อมั่นในตนเอง
การวิเคราะห์ข้อมูล
การเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์จากแบบสังเกตก่อนทำกิจกรรม และหลังการทำกิจกรรม และสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
สรุปผล
จากการสังเกตพฤติกรรมการตัดสินใจและการกล้าแสดงออก ก่อนและหลังการทำกิจกรรมของ ด.ญ. วันเมษา เนตร์ประเสริฐ ชั้นอนุบาล 2 พบว่า
ก่อนทำกิจกรรม
การตัดสินใจในการทำงาน การตัดสินใจในการเล่นมุม และความเชื่อมั่นในการตอบคำถาม ได้ระดับคะแนน 1 ส่วนความมั่นใจในการเล่าเรื่อง และการกล้าแสดงออกของผู้เรียน ได้ระดับคะแนน 0 ระดับคะแนน 1 รวมได้ 3 ค่าเฉลี่ย 0.6 คิดเป็นค่าเฉลี่ยร้อยละ 60 ระดับคะแนน 0 รวมได้ 2 ค่าเฉลี่ย 0.4 คิดเป็นค่าเฉลี่ยร้อยละ 40
หลังทำกิจกรรม
การตัดสินใจในการทำงาน การตัดสินใจในการเล่นมุม และความเชื่อมั่นในการตอบคำถาม ได้ระดับคะแนน 2 ส่วนความมั่นใจในการเล่าเรื่อง และการกล้าแสดงออกของผู้เรียน ได้ระดับคะแนน 1 ระดับคะแนน 2 รวมได้ 3 ค่าเฉลี่ย 0.6 คิดเป็นค่าเฉลี่ยร้อยละ 60 ระดับคะแนน 1 รวมได้ 2 ค่าเฉลี่ย 0.4 คิดเป็นค่าเฉลี่ยร้อยละ 40
อภิปรายและสรุปผลการวิจัย
จากการทำกิจกรรมเพื่อพัฒนาการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการตัดสินใจและการกล้าแสดงออก เมื่อผู้เรียนได้รับการส่งเสริมและพัฒนาแล้ว ผู้เรียนมีระดับคะแนนสูงขึ้นก่อนทำกิจกรรม ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ ทำให้ ด.ญ. วันเมษา เนตร์ประเสริฐ ชั้นอนุบาล 2 กล้าตัดสินใจและกล้าแสดงออกมากยิ่งขึ้น