บทคัดย่อ
ชื่อวิจัย : การพัฒนาทักษะการเคลื่อนไหวของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1
โรงเรียนสอนคนตาบอดภาคใต้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ปีการศึกษา 2564 โดยใช้ชุดกิจกรรมการฝึกควบคุมการเคลื่อนไหว
ชื่อ สกุลผู้ทำวิจัย : วัฒถาภรณ์ อุ่นนันกาศ
ปีการศึกษาที่ทำวิจัย : 2564
การศึกษาครั้งนี้เป็นวิจัยการทดลอง มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาและการทรงตัวของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนสอนคนตาบอดภาคใต้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยใช้ชุดกิจกรรมการฝึกควบคุมการเคลื่อนไหว กลุ่มตัวอย่างเป็น นางสาวชวิศา พันธุรัตน์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนสอนคนตาบอดภาคใต้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี มาทำการเปรียบเทียบ เพื่อศึกษาดูว่าหลังการทดสอบ ผลจะเป็นอย่างไร เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือ ชุดกิจกรรมการฝึกควบคุมการเคลื่อนไหว โดยการนำผลที่ได้จาก การทดสอบมาวิเคราะห์หาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงแบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยด้วยการทดสอบค่าที (t-test) ซึ่งสามารถสรุปผลการทดลองได้ดังนี้
เวลาการทดสอบความความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาและการทรงตัว ก่อนการใช้ชุดกิจกรรมการฝึกควบคุมการเคลื่อนไหวใช้เวลาดังนี้ กระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง ใช้เวลา 24 วินาที , เดินตามจุดและทิศทางที่กำหนด ใช้เวลา 21 วินาที , เดินซิกแซก ใช้เวลา 23 วินาที , ยืนขาข้างเดียว ใช้เวลา 31 วินาที , ยืนเขย่งเท้า ใช้เวลา 30 วินาที , นั่งงอเข่า/ท่าสควอท ใช้เวลา 32 วินาที
เวลาการทดสอบความความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาและการทรงตัว หลังการใช้ชุด กิจกรรมการฝึกควบคุมการเคลื่อนไหว ดังนี้ กระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง ใช้เวลา 19 วินาที , เดินตามจุดและทิศทางที่กำหนด ใช้เวลา 16 วินาที , เดินซิกแซก ใช้เวลา 17 วินาที , ยืนขาข้างเดียว ใช้เวลา 42 วินาที , ยืนเขย่งเท้า ใช้เวลา 45 วินาที , นั่งงอเข่า/ ท่าสควอท ใช้เวลา 45 วินาที
สรุปได้ว่า เวลาเฉลี่ยมีการพัฒนาที่ดีขึ้น แสดงว่าความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาและการทรงตัวเพิ่มขึ้น เพราะใช้เวลาลดลง ดังนี้ กระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง ใช้เวลาลดลง 5 วินาที , เดินตามจุดและทิศทางที่กำหนด ใช้เวลาลดลง 5 วินาที, เดินซิกแซก ใช้เวลาลดลง 6 วินาที, ยืนขาข้างเดียว ใช้เวลาเพิ่มขึ้น 11 วินาที , ยืนเขย่งเท้า ใช้เวลาเพิ่มขึ้น 15 วินาที , นั่งงอเข่า/ ท่าสควอท ใช้เวลาเพิ่มขึ้น 13 วินาที
พบว่าค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานมีการพัฒนาขึ้น แสดงว่าความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาและการทรงตัวเพิ่มขึ้น ดังนี้ กระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง 3.56 , เดินตามจุดและทิศทางที่กำหนด 3.53 , เดินซิกแซก 3.54 , ยืนขาข้างเดียว 7.78 , ยืนเขย่งเท้า 10.61 , นั่งงอเข่า/ ท่าสควอท 9.19
จากข้อมูลที่ปรากฏ สรุปได้ว่าการพัฒนาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาและการทรงตัว โดยใช้ชุดกิจกรรมการฝึกควบคุมการเคลื่อนไหว ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ดีขึ้น จึงสามารถนำชุดกิจกรรมการฝึกควบคุมการเคลื่อนไหว มาทำให้เกิดการพัฒนาสมรรถภาพ ด้านความความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาและการทรงตัวได้