ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานแบบปฏิบัติที่ดี (Best Practice) โดยใช้สื่อแบบฝึกเสริมชุดกิจกรรมที่ ๑ เรื่อง อาหาร ๕ หมู่ และชุดกิจกรรมที่ ๒ เรื่อง หลักการบริโภคอาหาร ระดับประถมศึกษา ปีที่ ๔ การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learn

ชื่อผู้เสนอผลงาน นายสุธิวุฒิ รักษาแดน

ตำแหน่ง ครูอัตราจ้าง โรงเรียนวิทยสัมพันธ์

ประเภทผลงาน / นวัตกรรม ( ) การบริหารจัดการศึกษา ( √ ) การจัดการเรียนรู้

ด้านครูผู้สอน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา

รายละเอียดการนำเสนอ

1. สภาพปัจจุบัน/ปัญหา

1.1 สภาพปัจจุบัน/ปัญหา

จากการสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนวิทยสัมพันธ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต ๓ พบว่า นักเรียนขาดการพัฒนาพฤติกรรมการรับประทานอาหารกลางวัน นักเรียนไม่ชอบรับประทานอาหารกลางวันและมักจะชอบรับประทานขนมขบเคี้ยวแทน ไม่มีความตระหนักและใส่ใจในการดูแลสุขภาพตนเอง ทำให้แนวโน้มปัญหาภาวะโภชนาการเกินในเด็กวัยเรียนเพิ่มมากขึ้นและส่งผลกระทบต่อสุขภาพและพัฒนาการด้านสติปัญญาของเด็กในวัยเรียน ประกอบกับอิทธิพลของสิ่งแวดล้อม ทัศนคติ และแบบอย่างในครอบครัวจึงทำให้นักเรียนมีสุขปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องด้วยเหตุผลและความสำคัญดังกล่าว ผู้ศึกษาจึงได้ออกแบบการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กินถูก...สุขภาพดี กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนวิทยสัมพันธ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต ๓ เพื่อปลูกฝังให้เห็นความสำคัญในการดูแลรักษาสุขภาพร่างกาย สร้างพฤติกรรมที่ดีและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารที่ดีขึ้น รู้คุณค่าของการกินอาหาร รู้คุณประโยชน์ของอาหารแต่ละหมู่เพื่อการกินอาหารแบบถูกสุขลักษณะในชีวิตประจำวัน นอกจากนั้นยังเป็นแนวทางในการพัฒนากระบวนการเรียนการสอนที่มุ่งพัฒนาทักษะชีวิต และคุณภาพชีวิตของผู้เรียนให้มีศักยภาพและประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ดังนั้น ครูผู้สอนจึงสนใจที่หาแนวทางที่จะทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระ

การเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยการใช้ใช้สื่อแบบฝึกเสริมชุดกิจกรรมที่ ๑ เรื่อง อาหาร ๕ หมู่ และชุดกิจกรรมที่ ๒ เรื่อง หลักการบริโภคอาหาร

1.2 แนวทางการแก้ปัญหา

ใช้สื่อแบบฝึกเสริมชุดกิจกรรมที่ ๑ เรื่อง อาหาร ๕ หมู่ และชุดกิจกรรมที่ ๒ เรื่อง หลักการบริโภคอาหาร ระดับประถมศึกษา ปีที่ ๔ การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กินถูก...สุขภาพดี

1.3 กำหนดจุดประสงค์และเป้าหมาย

1.3.1 วัตถุประสงค์

๑. เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ การกินอาหารกลางวัน โดยการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กินถูก....สุขภาพดี กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔

1.3.2 เป้าหมาย

นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565

โรงเรียนวิทยสัมพันธ์ จำนวน 30 คน

2.ขั้นตอนการดำเนินงาน

2.1 การออกแบบผลงาน/นวัตกรรม

2.1.1 ขั้นการวางแผน P (Plan)

- ศึกษาวิเคราะห์หลักสูตร/ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด / เนื้อหารายวิชา

- ศึกษาวิเคราะห์ปัญหานักเรียนรายบุคคล

2.1.2 ขั้นการดำเนินงาน D (Do)

- ออกแบบการจัดการเรียนรู้

- จัดทำกำหนดการสอน/แผนการจัดการเรียนรู้

- จัดทำสื่อ/นวัตกรรมประกอบการเรียนการสอน

- นำสื่อ/นวัตกรรมมาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน

2.1.3 ขั้นการตรวจสอบประเมินผล C (Check)

- วัดและประเมินผลลการทำแบบทดสอบก่อนและหลังเรียน

2.1.4 ขั้นการการพัฒนา / ปรับปรุงแก้ไข A (Act)

- วิเคราะห์ผลการประเมินเพื่อเป็นข้อมูลในการปรับปรุงและพัฒนาต่อไป

2.2 การดำเนินงานตามกิจกรรม

สร้างสื่อการจัดการเรียนการสอนอาหาร ๕ หมู่ และหลักการบริโภคอาหารประกอบด้วย 6 ขั้นตอน ดังนี้

1. ขั้นวิเคราะห์ (Analysis)

2. ขั้นออกแบบ (Design)

3. ขั้นการสร้างและการพัฒนา (Development)

4. ขั้นการนำไปใช้ (Implement)

5. ขั้นประเมินผล (Evaluate)

6. ขั้นปรับปรุงแก้ไขให้สมบูรณ์

แผนผังการพัฒนาแบบฝึก

แผนผังการพัฒนาแบบฝึก

กระดานจำแนกอาหาร ๕ หมู่ และหลักการบริโภคอาหาร

ขั้นที่ 1 ขั้นวิเคราะห์ (Analysis)

1.1 วิเคราะห์วัตถุประสงค์ และกำหนดวัตถุประสงค์การเรียนในแบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง กินอาหาร ๕ หมู่ ข้าพเจ้าได้ศึกษาความรู้จากคำอธิบายรายวิชา กำหนดวัตถุประสงค์ ให้สอดคล้องกับผลการเรียนรู้ที่คาดหวังและเนื้อหา

1.2 วิเคราะห์เนื้อหา ข้าพเจ้าได้ทำการวิเคราะห์เนื้อหาแบบฝึกเสริมทักษะวิชาสุขศึกษา เรื่อง กินอาหาร ๕ หมู่ และหลักการบริโภคอาหาร เนื้อหาที่ใช้ในการสร้างแบบฝึกเสริมทักษะ

1.3 วิเคราะห์งาน / กิจกรรม ข้าพเจ้าได้ศึกษางานและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องจากเอกสาร

หนังสือ งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะในการเรียนจากแบบฝึกเสริมทักษะเรื่อง การจัดการเรียนการสอนอาหาร ๕ หมู่ และหลักการบริโภคอาหารที่สร้างขึ้น เพื่อใช้ในการวิเคราะห์งานและกิจกรรม วิเคราะห์เกี่ยวกับองค์ประกอบของแบบฝึกเสริมทักษะสุขศึกษาพื้นฐาน เรื่อง การจัดการเรียนการสอนอาหาร ๕ หมู่ และหลักการบริโภคอาหารว่าประกอบด้วย บทนำ ภาระงาน กระบวนการ แหล่งข้อมูล การวัดและประเมินผล บทสรุป

1.4 วิเคราะห์ผู้เรียน ซึ่งผู้เรียนได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนวิทยสัมพันธ์

ขั้นที่ 2 การออกแบบ ( Design )

1. การออกแบบ แบบฝึกเสริมทักษะกินอาหาร ๕ หมู่ และหลักการบริโภคอาหาร เนื้อหา

1.1 กำหนดผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง เน้นการเรียนรู้ที่นักเรียนเข้าใจในโครงสร้างของเนื้อหา

รายละเอียดของแต่ละหัวข้อได้ชัดเจน สามารถจัดลำดับความคิดของตนเองให้เป็นระบบได้ และประเมินตนเองระหว่างเรียน

1.2 คัดเลือกสาระการเรียนรู้ ข้าพเจ้าได้ทำการเลือกเนื้อหาจากเอกสารและตำราคู่มือการ

เรียนการสอนที่มีความเหมาะสมสอดคล้องกับผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง เพื่อกำหนดรูปแบบการนำเสนอและกำหนดกิจกรรม

2. ออกแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสำหรับนักเรียน เรื่อง การจัดการเรียนการสอนอาหาร ๕ หมู่ และหลักการบริโภคอาหาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โดยให้สอดคล้องกับผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง ข้อสอบเป็น แบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 10 ข้อ

ขั้นที่ 3 การสร้างและพัฒนา ( Do & Development )

1. การสร้างและพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะสุขศึกษา เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ การกินอาหารกลางวัน ข้าพเจ้าได้ดำเนินการดังนี้

1.1 ตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหา

1.2 สร้างและพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะอาหาร ๕ หมู่ และหลักการบริโภคอาหารเรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ การกินอาหารกลางวัน เจ้าได้ดำเนินการสร้างโดยใช้เครื่องมือวัสดุอุปกรณ์ ดังนี้

๑.๒.๑ ชุดกิจกรรมที่ ๑ เรื่อง อาหาร ๕ หมู่

๑.๒.2 ชุดกิจกรรมที่ ๒ เรื่อง หลักการบริโภคอาหาร

๒.นำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้นจำนวน 20 ข้อไปทดสอบกับนักเรียน บันทึกคะแนนเป็นคะแนนก่อนเรียน

ขั้นที่ 4 การนำไปใช้ (Implement)

ข้าพเจ้าได้นำแบบฝึกเสริมทักษะอาหาร ๕ หมู่ และหลักการบริโภคอาหาร เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ การกินอาหารกลางวัน ไปใช้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ปีการศึกษา 256๕ โรงเรียนวิทยสัมพันธ์

ขั้นที่ 5 การประเมินผล ( Evaluation )

ข้าพเจ้าได้ประเมินผลนำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้นจำนวน 20 ข้อไปทดสอบกับนักเรียน บันทึกคะแนนเป็นคะแนนก่อนเรียน

ขั้นที่ 6 การปรับปรุงให้สมบูรณ์ ( Satisfy )

นำผลที่ได้จากการประเมินมาปรับปรุงแก้ไข จนได้แบบฝึกเสริมทักษะอาหาร ๕ หมู่ และหลักการบริโภคอาหาร เรื่องการสร้างเสริมสุขภาพ การกินอาหารกลางวัน ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์

4. การเก็บรวบรวมข้อมูล

1. วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล

การทดลองใช้แบบฝึกเสริมทักษะสุขศึกษาพื้นฐานเรื่องการสร้างเสริมสุขภาพ การกินอาหารกลางวัน ขั้นตอนการฝึกปฏิบัติใช้แบบฝึกเสริมทักษะสุขศึกษา เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ การกินอาหารกลางวัน ข้าพเจ้าได้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูล ดังนี้

1. เตรียมวัสดุ อุปกรณ์ในการฝึก

2. ชี้แจงจุดประสงค์การใช้แบบฝึกเสริมทักษะเรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ การกินอาหารกลางวัน ให้นักเรียนทราบ

3. ให้นักเรียนกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ จำนวน ๓๐ คน ใช้แบบฝึกเสริมทักษะชุดกิจกรรมที่ ๑ เรื่อง อาหาร ๕ หมู่ และชุดกิจกรรมที่ ๒ เรื่อง หลักการบริโภคอาหาร

4. นำผลการเรียนของผู้เรียนมาคำนวณเพื่อหาประสิทธิภาพของนวัตกรรม และทำการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน

5. การวิเคราะห์ข้อมูล

ใช้ข้อมูลจากการเก็บรวบรวมทั้งระหว่างเรียน และหลังเรียน เพื่อวิเคราะห์ตามวัตถุประสงค์ ดังนี้

สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล

1.5 ระยะเวลาดำเนินการ

เวลา = การจัดกิจกรรมการสอนด้วยแบบฝึกชุดกิจกรรมที่ ๑ เรื่อง อาหาร ๕ หมู่ ชุดกิจกรรมที่ ๒ เรื่อง หลักการบริโภคอาหาร การจัดกิจกรรมการสอนด้วย จำนวน ๕ ครั้ง เวลา 5 ชั่วโมง

สถานที่ = โรงเรียนโรงเรียนวิทยสัมพันธ์ อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก

2.3 ประสิทธิภาพของการดำเนินงาน

2.3.1 1. แบบฝึกเสริมทักษะ หมายถึง กิจกรรมพัฒนาเสริมทักษะการเรียนรู้ ที่ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสม มีความหลากหลาย และปริมาณเพียงพอ ที่สามารถตรวจสอบและพัฒนาทักษะกระบวนการคิด กระบวนการเรียนรู้ สามารถนำผู้เรียนสู่การสรุปความคิดรวบยอด และหลักการสำคัญของสาระการเรียนรู้ รวมทั้งทำให้ผู้เรียนสามารถตรวจสอบความเข้าใจในบทเรียนด้วยตนเองได้

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง ผลการเปรียบเทียบจากคะแนนที่นักเรียนทำได้จาก

แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบฝึกเสริมทักษะใช้แบบฝึกเสริมทักษะชุดกิจกรรมที่ ๑ เรื่อง อาหาร ๕ หมู่ และชุดกิจกรรมที่ ๒ เรื่อง หลักการบริโภคอาหาร

3. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง เครื่องมือที่ใช้วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน ใช้แบบฝึกเสริมทักษะชุดกิจกรรมที่ ๑ เรื่อง อาหาร ๕ หมู่ และชุดกิจกรรมที่ ๒ เรื่อง หลักการบริโภคอาหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ จำนวน 10 ข้อ 10 คะแนน มีลักษณะเป็นปรนัยชนิด

4. นักเรียน หมายถึง นักเรียน ชั้นนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนวิทยสัมพันธ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 ตำบลห้วยเฮี้ย อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ปีการศึกษา 256๕ จำนวน ๓๐ คน โดยการบริโภคอาหารประจำวัน ดังกล่าวมีลักษณะเป็นแบบมาตรส่วนประเมินค่า (Rating Scale)เกี่ยวกับการรับประทานอาหารของเด็กวัยเรียน มี ๔ ระดับ คือ ไม่ปฏิบัติเลยปฏิบัติ บางครั้งปฏิบัติบ่อยครั้งและปฏิบัติประจำ โดยข้อรายการประกอบด้วยอาหารที่เหมาะสม และอาหาร ที่ไม่เหมาะสมความหมายของแต่ละระดับ มีดังต่อไปนี้

ข้าพเจ้าได้นำแบบฝึกเสริมทักษะวิชาสุขศึกษา เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ ไปใช้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา 256๕ โรงเรียนวิทยสัมพันธ์ จำนวน ๓๐ คน พบว่าแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์พื้นฐานเรื่องพื้นที่ผิวและปริมาตรของปริซึม นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้นกว่าก่อนเรียน

หมู่ที่ ๑ อาหารประเภทเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ปลาไข่ถั่วเมล็ดแห้งต่าง ๆ และผลิตภัณฑ์จากนม โดยในเด็กวัยเรียนั้นประถมศึกษาปีที่ ๑- ๖ ควรรับประทานอาหารเนื้อ วันละ ๑๕๐- ๑๘๐ กรัม หรือ ๒/๓ ถ้วยตวง ดื่มนม ๑ - ๒ แก้ว รับประทานไข่วนัละ ๑ ฟอง (ต้ม ทอดหรือผักกับอาหารอื่น ๆ) และรับประทานถถั่วเมล็ดแห้งต่าง ๆ ในบางมื่ออาจจะต้มถั่วปนเนื้อสัตว์หรือเป็นของหวาน ใน ๑ วัน

หมู่ที่ ๒ อาหารประเภทข้าว แป้ง น้ำตาล เผือก มัน ข้าวโพด โดยในเด็กวัยเรียน(ชั้น ประถมศึกษาปี ที่ ๑ -๖)ควรรับประทานข้าวแป้งวันละ ๓ ครั้ง ครั้งละ๑ - ๒ ถ้วยตวง

หมู่ที่ ๓ อาหารประเภทผักใบเขียวและพืชผักอื่นๆ โดยในเด็กวัยเรียน (ชั้นประถมศึกษาปี ที่ ๑ – ๖) ควรรับประทานผักใบเขียวและพืชผักอื่นๆ วันละ ๒ -๓ ครั้ง ครั้งละ ½ ถ้วยตวง

หมู่ที่ ๔ อาหารประเภทผลไม้ต่าง ๆ โดยเด็กวัยเรียน (ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ - ๖) ควร รับประทานผลไม้ วันละ ๑ – ๒ ครั้ง ครั้งละ 1 -2 ผล หรือ ½ ถ้วยตวง

หมู่ที่ 5 อาหารประเภทไขมัน และน้ำมัน เช่น น้ำมันหมูและน้ำมันพืชต่าง ๆ (น้ามันถั่ว เหลือง น้ำมันงา น้ำมันรำาข้าว เป็นต้น) โดยเด็กวัยเรียน (ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6) ควร รับประทานไขมันหรือน้ำมันวันละ 2 ½ -3 ช้อนโต๊ะ(คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล, 2555)

ระดับการปฏิบัติ และหมู่อาหาร คะแนนเต็ม ไม่ดี พอใช้ ดี ดีมาก

หมู่ที่ ๑ ๒๗ 0 -8.9 9.0 -15.0 15.1 -21.0 21.1 -27.0

หมู่ที่ ๒ ๒๗ 0 -8.9 9.0 -15.0 15.1 -21.0 21.1 -27.0

หมู่ที่ ๓ ๓๐ 0 -9.9 10.0-17.0 17.1 -24.0 24.1 -30.0

หมู่ที่ ๔ ๑๕ 0 -4.9 5.0 -8.0 8.1 -11.0 11.1 -15.0

หมู่ที่ ๕ ๒๑ 0 -6.9 7.0 -12.0 12.1 -17.0 17.1 -21.0

การตรวจสอบหาคุณภาพเครื่องมือ 3.4.1 การหาความเที่ยงตรงของเนื้อหา (Content Validity) ของเครื่องมือโดยให้ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 3 ท่าน เป็นผู้พิจารณาตรวจสอบความเที่ยงตรงจากเนื้อหา เครื่องมือที่ได้

มาปรับปรุงแก้ไข ข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญให้ตรงตามวัตถุประสงค์ซื่อค่าความเที่ยงตรงของเนื้อหา (IOC)อยู่ ระหว่าง 0.6 ถึง 1.0 3.4.2 หาความเชื่อมั่น (Reliability) มีดังนี้ 1) ความเชื่อมั่น ของแบบสอบถามการปฏิบัตินแบบสอบถามที่ผ่านการพิจารณาจากผู้เชี่ยวชาญแล้ว และปรับปรุงแล้วนำไปทดลองใช้กับนักเรียนที่มีลัก ษณะใกล้เคียงกับประชากร 41 จา นวน 20 คน จากนั้นนำมาหาความเชื่อมมั่นโดยใช้สูตรสัมประสิทธิ์ของแอลฟาของครอนบาช (Cronbach’s alpha coefficient)ค่าที่คำนวณได้คือ 0.74

𝛼 = [ 𝑘 𝑘 − 1 ][1 − ∑ 𝜎𝑖 2 𝜎𝑥 2 ]

เมื่อ α เป็นสัมประสิทธิ์แอลฟาของครูอนบาค

𝜎i 2 เป็นความแปรปรวนของข้อที่หรือองค์ประกอบที่ i

𝜎x 2 เป็นความแปรปรวนของคะแนนรวม

k เป็นจำนวนข้อสอบ/องค์ประกอบของทั้งฉบับ

2) เครื่องชั่งน้ำหนักและที่วัดส่วนสูง ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ได้รับการรับรองจากพาณิชย์จังหวัดใน ด้านความถูกต้อง สำหรับด้านความตรงของเครื่องชั่งน้า หนัก ตรวจสอบโดยการใช้ลูกตุ้มน้ำ หนัก มาตรฐาน 5กิโลกรัม เป็นมาตรฐานในการตั้งเครื่องชั่งเครื่องน้ำหนัก น้ำหนักของประชากรไปแล้วทุก ๆ 20 คน สำหรับที่วัดส่วนสูง มีการตรวจสอบโดยตลับเมตร ซึ่งได้รับการรับรองจากพาณิชย์จังหวัด

3.5 การพิทักษ์สิทธิ์ ผู้ศึกษาชี้แจงให้ผู้ปกครองและประชากรทราบถึงสิทธิ์ที่จะตอบรับหรือปฏิเสธการเข้าร่วม การศึกษาครั้งที่ประชากรสามารถออกจากการศึกษาในระหว่างการดำเนินการ โดยไม่มีผลเสียใดๆ เกิดขึ้นข้อมูลที่ได้ทั้งหมด ผู้ศึกษาจะเก็บเป็นความลับและจะใช้ประโยชน์ในการศึกษาเท่าน้ัน เมื่อผู้ปกครองและประชากรตกลงให้ความร่วมมือในการศึกษา และลงชื่อในใบยินยอมแล้วผู้ศึกษา จึงได้เก็บขอ้มูล

3.6 การเก็บรวบรวมข้อมูล

การศึกษาครั้งนี้มีผู้ศึกษาเก็บและรวบรวมขอ้มูลด้วยตนเอง โดย

1) ส่งหนังสือขออนุญาตจากทางสาขาวิชาโภชนศาสตร์ศึกษาในการเก็บรวบรวมข้อมูล การค้นคว้าแบบอิสระ ต่อผู้อำนวยการโรงเรียนวิทยสัมพันธ์ อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก

2) เมื่อโรงเรียนตอบรับและยินดีให้ความร่วมมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลการค้นคว้า แบบอิสระผู้ศึกษาจึงได้ปรึกษาครูหัวหน้าชั้นประถมศึกษาที่ 1 - 6 ในเรื่องของรายละเอียดของ เครื่องมือที่ใช้เก็บข้อมูลวิธีการเก็บข้อมูลรวมถึงกำหนดวันเก็บรวบรวมขอ้มูล

3) เมื่อถึงกำหนดวันเก็บข้อมูล ผู้ศึกษาได้นำเครื่องมือแจกแก่ครูประจำชั้นแต่ละห้องตามจำนวนในแต่ละห้อง แล้วครูประจำชั้นทำการแจกแก่ประชากรทุกคนในห้อง ให้นักเรียนลงมือทำ ๒๐ แบบสอบถามภายใน 1 ชั่วโมง ในช่วงเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 25๖๕ ณ โรงเรียนวิทยสัมพันธ์ อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก

4) ผู้ศึกษาเก็บรวบรวมขอ้มูลประชากรทุกห้องเรียนเมื่อทำการบันทึกข้อมูลเรียบร้อยแล้ว

2.4 การใช้ทรัพยากร

งบประมาณในการดำเนินงาน - บาท

2.5 การมีส่วนร่วมของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง

2.5.1 ผู้บริหารมีการจัดการประชุมในการจัดทำนวัตกรรมในการเรียนการสอนและส่งเสริมให้ครูมีนวัตกรรมในการแก้ปัญหาการเรียนการสอน

2.5.2 คณะครูมีการประชุม ปรึกษาหารือ ในการจัดทำนวัตกรรมในการจัดการเรียนรู้และ

มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน

2.5.3 ครูผู้สอนดำเนินการจัดกิจกรรมโดยการใช้นวัตกรรมที่ตนเองคิดค้นขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน

2.5.4 นักเรียนให้ความร่วมมือในการดำเนินกิจกรรมการเรียนการสอนโดยสื่อการสอน เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ การกินอาหารกลางวัน โดยการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กินถูก....สุขภาพดี

3. ผลสำเร็จที่ได้รับ

3.1 ผลสำเร็จที่ได้

1. สามารถทราบข้อมูลและแก้ปัญหาทุพโภชนาการของโรงเรียนได้อย่างถูกต้องตาม หลักการและกระบวนการ

2. นักเรียนทุกคนได้รับประทานอาหารกลางวันแบบยังยืนที่มีคุณภาพอย่างเพียงพอ เหมาะสมต่อ ความต้องการของร่างกาย และสุขภาพอนามัยที่ดี

๓. ภาวะทุพโภชนาการนักเรียน

3.2 ประโยชน์ที่ได้รับ

1. จากการนำนวัตกรรมไปใช้ทำให้ทราบว่าการเลือกกิจกรรมที่เหมาะสมสำหรับแบบฝึกเสริมทักษะการสร้างเสริมสุขภาพ พื้นฐาน เรื่องอาหาร ๕ หมู่ ชุดกิจกรรมทั้ง ๒ เรื่อง หลักการบริโภคอาหารช่วยให้ผู้เรียนเกิดความสนใจ กระตือรือร้นในการเรียนและการศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลต่างๆ

2. ในการสร้างนวัตกรรมแบบฝึกเสริมทักษะการสร้างเสริมสุขภาพ พื้นฐานพื้นฐาน เรื่องอาหาร ๕ หมู่ ชุดกิจกรรมที่ ๒ เรื่อง หลักการบริโภคอาหาร ต้องคำนึงถึงโครงสร้างของเนื้อหาและรายละเอียดของแต่ละหัวข้อ และจัดกิจกรรมให้เหมาะสมกับบทเรียน

4. ปัจจัยความสำเร็จ

4.1 สิ่งที่ช่วยให้งานประสบความสำเร็จ

4.1.1 ผู้บริหารให้ความสําคัญและสนับสนุนการดำเนินงาน

4.1. 2 การมีส่วนร่วมของครูที่มีส่วนเกี่ยวข้องและให้คำชี้แนะ แนะนำ

4.1.3 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม

4.1.4 ความพร้อมของอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศ

4.1.5 นักเรียนให้ความร่วมมือในการดำเนินกิจกรรมการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน

5. บทเรียนที่ได้รับ

5.1 การระบุข้อมูลที่ได้รับและการนำผลงานไปใช้

5.1.1 การใช้สื่อ สื่อแบบฝึกเสริมชุดกิจกรรมที่ ๑ เรื่อง อาหาร ๕ หมู่ และชุดกิจกรรมที่ ๒ เรื่อง หลักการบริโภคอาหาร โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กินถูก...สุขภาพดี ทำให้นักเรียนมีความใสใจในการเรียน ความกระตือรือร้นมากยิ่งขึ้น

5.1.2 การให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียนหลักการบริโภคอาหาร

5.1.3 การเล่นเกมบิงโก กระดานจำแนกอาหาร ๕ หมู่ และหลักการบริโภคอาหาร

เป็นกิจกรรมที่นักเรียนชอบเป็นอย่างมาก

5.1.4 การให้นักเรียนทำกิจกรรมตอบคำถามโดยการใช้ กระดานจำแนกอาหาร ๕ หมู่ และหลักการบริโภคอาหาร ซึ่งเป็นกิจกรรมที่นักเรียนสนใจและอยากให้ใช้ในกิจกรรมการเรียนการสอนในเนื้อหาอื่นๆ

5.1.5 การใช้สื่อ กระดานจำแนก อาหาร ๕ หมู่ และหลักการบริโภคอาหาร

ส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพี่มขึ้น และยังเป็นการส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้ผ่านเทคโนโลยี

6.การเผยแพร่/การได้รับการยอมรับ/รางวัลที่ได้รับ

6.1 การเผยแพร่

6.1.1 เผยแพร่ทางเว็บไซด์ เผยแพร่ทางเว็บไซด์ ครูบ้านนอกดอทคอม

โพสต์โดย โค้ชฟุตบอล : [27 เม.ย. 2566 เวลา 09:45 น.]
อ่าน [2992] ไอพี : 49.48.205.214
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 15,267 ครั้ง
เส้นทางรัก ... เพชรา มาถึงวันนี้ที่มีแต่ ชรินทร์
เส้นทางรัก ... เพชรา มาถึงวันนี้ที่มีแต่ ชรินทร์

เปิดอ่าน 12,313 ครั้ง
บริหารหน้าอย่างไร ให้ดูน่ามอง
บริหารหน้าอย่างไร ให้ดูน่ามอง

เปิดอ่าน 239,032 ครั้ง
คำอวยพรปีใหม่ภาษาอังกฤษ
คำอวยพรปีใหม่ภาษาอังกฤษ

เปิดอ่าน 20,431 ครั้ง
คุณครูหายไปไหนครับ?
คุณครูหายไปไหนครับ?

เปิดอ่าน 15,610 ครั้ง
สุดยอดจอดรถขั้นเทพ ทุบสถิติสไลด์เข้าที่จอดแคบที่สุด
สุดยอดจอดรถขั้นเทพ ทุบสถิติสไลด์เข้าที่จอดแคบที่สุด

เปิดอ่าน 11,756 ครั้ง
วิธีลดความมันบริเวณรอบจมูก
วิธีลดความมันบริเวณรอบจมูก

เปิดอ่าน 28,924 ครั้ง
5 วิธีชำระหนี้ กยศ. ให้หมดอย่างรวดเร็ว
5 วิธีชำระหนี้ กยศ. ให้หมดอย่างรวดเร็ว

เปิดอ่าน 8,534 ครั้ง
ความคิดสร้างสรรค์ (1)
ความคิดสร้างสรรค์ (1)

เปิดอ่าน 12,766 ครั้ง
"ผักติ้ว" ผักพื้นบ้านชาวอีสานที่ไม่ควรมองข้าม
"ผักติ้ว" ผักพื้นบ้านชาวอีสานที่ไม่ควรมองข้าม

เปิดอ่าน 14,739 ครั้ง
หากท่านต้องยกกล่องหนักๆ ลองวิธีนี้ดูสิ จะช่วยให้เบากว่าเดิม
หากท่านต้องยกกล่องหนักๆ ลองวิธีนี้ดูสิ จะช่วยให้เบากว่าเดิม

เปิดอ่าน 12,618 ครั้ง
คลิปกัปตันออกมายอมรับ ผมกลับเข้าห้องนักบินไม่ได้ !!
คลิปกัปตันออกมายอมรับ ผมกลับเข้าห้องนักบินไม่ได้ !!

เปิดอ่าน 15,899 ครั้ง
สรรพคุณของพืชผัก
สรรพคุณของพืชผัก

เปิดอ่าน 48,863 ครั้ง
ทีวีดิจิทัล หรือ ทีวีดิจิตอล (Digital television)
ทีวีดิจิทัล หรือ ทีวีดิจิตอล (Digital television)

เปิดอ่าน 73,637 ครั้ง
เงินเดือน-ค่าตอบแทน ของอาชีพต่างๆ ในประเทศไทย
เงินเดือน-ค่าตอบแทน ของอาชีพต่างๆ ในประเทศไทย

เปิดอ่าน 21,780 ครั้ง
ภัยขนมถุงทำลายสุขภาพลูกรัก
ภัยขนมถุงทำลายสุขภาพลูกรัก

เปิดอ่าน 123,220 ครั้ง
การเรียนการสอนผ่านเว็บ (Web-Based Instruction)
การเรียนการสอนผ่านเว็บ (Web-Based Instruction)
เปิดอ่าน 21,608 ครั้ง
20 เคล็ดลับเจ๋ง ๆ ช่วยทำให้ตัวเองดูเด็กลง
20 เคล็ดลับเจ๋ง ๆ ช่วยทำให้ตัวเองดูเด็กลง
เปิดอ่าน 106,209 ครั้ง
ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง ศตวรรษที่ ๒๑ : ไทยแลนด์ ๔.o
ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง ศตวรรษที่ ๒๑ : ไทยแลนด์ ๔.o
เปิดอ่าน 18,461 ครั้ง
ประติมากรรมรูปเคารพ
ประติมากรรมรูปเคารพ
เปิดอ่าน 8,745 ครั้ง
Google ใหญ่ขึ้น!!! คุณไม่ได้ตาฝาด...
Google ใหญ่ขึ้น!!! คุณไม่ได้ตาฝาด...

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ