ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการศึกษากระบวนการมีส่วนร่วมของผู้ทรงคุณวุฒิและคณะอนุกรรมการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผลและนิเทศการศึกษา(อ.ก.ต.ป.น.)โดยใช้ ๕ Pโมเดลที่ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา สถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่องการศึกษากระบวนการมีส่วนร่วมของผู้ทรงคุณวุฒิและคณะอนุกรรมการติดตามตรวจสอบ ประเมินผลและนิเทศการศึกษา (อ.ก.ต.ป.น.)โดยใช้ ๕ Pโมเดลที่ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา สถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายโสธร เขต ๑ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ โดยการติดตาม ตรวจสอบการบริหารจัดการศึกษาของโรงเรียนจำนวน ๑๘๔ โรงเรียน ผู้บริหารสถานศึกษาจำนวน ๑๒๕ คน ครูผู้สอนจำนวน ๒๙๖ คน บุคลากรในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายโสธร เขต ๑ จำนวน ๒๗ คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ๑) แบบติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผลการบริหารจัดการศึกษาแบบมีส่วนร่วม ๒) คู่มือแนวทางการปฏิบัติแบบมีส่วนร่วมเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาด้วยยุทธศาสตร์ ๕ จุดเน้น(อ่านออก เขียนได้,คิดเป็น,เห็นผลงาน,ฐานคุณธรรม)๓) แบบติดตามผลการใช้คู่มือแนวทางการปฏิบัติแบบมีส่วนร่วมเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาด้วยยุทธศาสตร์ ๕ จุดเน้น และ ๔) แบบสอบถามการมีส่วนร่วมของผู้ทรงคุณวุฒิและคณะอนุกรรมการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล และนิเทศการศึกษา (อ.ก.ต.ป.น.) ที่ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายโสธร เขต ๑ สถิติที่ใช้ คือ ร้อยละ(Percentage) ค่าเฉลี่ย(Arithmetic Mean) และ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน(Standard Deviation) สรุปผลการวิจัย

ตอนที่ ๑ ผลการวิเคราะห์แบบติดตามตรวจสอบ ประเมินผลการบริหารจัดการศึกษาแบบมีส่วนร่วม

ผลการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล และนิเทศการศึกษา การบริหารจัดการศึกษาของสถานศึกษาในภาพรวม ๓ ด้าน ได้แก่ ด้านการบริหารงานตามภารกิจ ๔ งานของสถานศึกษา(การบริหารงานวิชาการ,การบริหารงานงบประมาณ,การบริหารงานบุคคล,และการบริหารงานทั่งไป),ด้านการนำนโยบาย/จุดเน้นสู่การปฏิบัติวิธีและด้านปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practices) มีผลการปฏิบัติในระดับดีมาก จำนวน ๑๖๘ โรงเรียน คิดเป็นร้อยละ ๙๑.๓๐ ระดับดี จำนวน ๑๔ โรงเรียน คิดเป็นร้อยละ ๗.๖๑ ระดับปานกลาง จำนวน ๒ โรงเรียน คิดเป็นร้อยละ ๑.๐๙ และไม่มีโรงเรียนใดมีผลการปฏิบัติในระดับพอใช้ และปรับปรุงเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านที่มีผลการปฏิบัติระดับดีมากเป็นจำนวนมากที่สุด คือ ด้านการนำนโยบาย/จุดเน้นสู่การปฏิบัติ ร้อยละ ๙๒.๙๓ รองลงมาคือด้านการบริหารงานตามภารกิจ ๔ งาน ร้อยละ ๙๑.๘๕ และ มีผลการปฏิบัติงานระดับดีมากจำนวนน้อยที่สุด คือด้านวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ร้อยละ ๘๘.๕๙

การบริหารงานตามภารกิจ ๔ งาน มีผลการปฏิบัติในระดับดีมาก จำนวน ๑๖๙ โรงเรียน คิดเป็นร้อยละ ๙๑.๘๕ ระดับดี จำนวน ๑๕ โรงเรียน คิดเป็นร้อยละ ๘.๑๕ และไม่มีโรงเรียนใดมีผลการปฏิบัติในระดับปานกลาง พอใช้ และปรับปรุง เมื่อพิจารณาเป็นรายการพบว่า รายการที่โรงเรียนมีผลการปฏิบัติได้ระดับดีมากเป็นจำนวนมากที่สุด คือ การบริหารงานวิชาการ ร้อยละ ๙๒.๙๓ รองลงมาคือการบริหารงานงบประมาณร้อยละ ๙๑.๘๕ การบริหารงานทั่วไป ร้อยละ ๙๑.๓๐ และมีผลปฏิบัติระดับดีมากน้อยที่สุด คือ การบริหารงานบุคคล ร้อยละ ๙๐.๗๖

การนำนโยบาย/จุดเน้นสู่การปฏิบัติ มีผลการปฏิบัติในระดับดีมาก จำนวน ๑๗๑โรงเรียน คิดเป็นร้อยละ ๙๒.๙๓ ระดับดี จำนวน ๑๓ โรงเรียน คิดเป็นร้อยละ ๗.๐๗ และไม่มีโรงเรียนใดมีผลการปฏิบัติในระดับปานกลาง พอใช้ และปรับปรุง เมื่อพิจารณาเป็นรายการพบว่า รายการที่โรงเรียนมีผลการปฏิบัติได้ ระดับมากที่สุดคือ การสร้างการรับรู้ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการพัฒนาหลักสูตรฐานสมรรถนะ การจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมืองและศีลธรรม ร้อยละ ๙๕.๖๕ รองลงมา คือ การส่งเสริมเด็กปฐมวัยอายุ ๓-๖ ปี และผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานเข้าถึงโอกาสการศึกษา ร้อยละ ๙๕.๑๑ และมีผลการปฏิบัติระดับดีมากน้อยที่สุดคือ การดำเนินงานตามแนวทางศาสตร์พระราชา พระบรมราโชบาย และพระราชดำริ ร้อยละ ๘๙.๑๓

วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ(Best Practices)มีผลการปฏิบัติในระดับดีมาก จำนวน ๑๖๓โรงเรียน คิดเป็นร้อยละ ๘๘.๕๙ ระดับดี จำนวน ๑๖โรงเรียน คิดเป็นร้อยละ ๘.๖๙ ระดับปานกลาง จำนวน ๕โรงเรียน คิดเป็นร้อยละ ๒.๗๒ และไม่มีโรงเรียนใดมีผลการปฏิบัติในระดับพอใช้ และปรับปรุง เมื่อพิจารณาเป็นรายการพบว่า รายการที่โรงเรียนมีผลการปฏิบัติได้ระดับมากที่สุดคือ ผลการดำเนินงานปัจจัยความสำเร็จชัดเจน ร้อยละ ๙๐.๒๒ รองลงมา คือ วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ(Best Practices)เรื่องที่นำมาพิจารณาสภาพปัญหา และแนวทางแก้ปัญหา ชัดเจน และ จุดประสงค์และเป้าหมายของการดำเนินงานชัดเจน ร้อยละ ๘๙.๖๗ และมีผลการปฏิบัติระดับดีมากน้อยที่สุดคือ บทเรียนที่ได้รับ การเผยแพร่ ชัดเจน ร้อยละ ๘๖.๔๑

ผลการสังเกตการจัดประสบการณ์ระดับปฐมวัยในภาพรวมตามข้อสังเกต จำนวน ๑๐ รายการ มีผลการปฏิบัติระดับดี จำนวน ๑๗๘ คน คิดเป็นร้อยละ ๙๖.๗๔ ระดับพอใช้ จำนวน ๕ คน คิดเป็นร้อยละ ๒.๗๒ ระดับปรับปรุง จำนวน ๑ คน คิดเป็นร้อยละ ๐.๕๔

ผลการสังเกตการจัดการเรียนรู้ระดับประถมศึกษาในภาพรวมตามข้อสังเกต จำนวน ๑๐ รายการ มีผลการปฏิบัติระดับดี จำนวน ๑๒๙ คน คิดเป็นร้อยละ ๙๒.๑๔ ระดับพอใช้ จำนวน ๑๑ คน คิดเป็นร้อยละ ๗.๘๗ และไม่มีผลการปฏิบัติในระดับปรับปรุง

ผลการสังเกตการจัดการเรียนรู้ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นในภาพรวมตามข้อสังเกต จำนวน ๑๐ รายการ มีผลการปฏิบัติระดับดี จำนวน ๔๑ คน คิดเป็นร้อยละ ๙๓.๑๘ ระดับพอใช้ จำนวน ๓ คนคิดเป็นร้อยละ ๖.๘๒ ระดับปานกลาง จำนวน ๑ คน คิดเป็นร้อยละ ๐.๕๔ และไม่มีผลการปฏิบัติในระดับปรับปรุง

ตอนที่ ๒ ผลการวิเคราะห์แบบติดตามการใช้คู่มือแนวทางการปฏิบัติแบบมีส่วนร่วมเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาด้วยยุทธศาสตร์ ๕ จุดเน้น

ผลการวิเคราะห์ความคิดเห็น/ความพึงพอใจต่อการใช้คู่มือแนวทางการปฏิบัติแบบมีส่วนร่วมเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาด้วยยุทธศาสตร์ ๕ จุดเน้น

(เล่ม ๑ จุดเน้น:อ่านออก เขียนได้)ในภาพรวม ตามรายการประเมิน ๙ ข้อค่าเฉลี่ย (X̅)เท่ากับ๔.๔๕และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน(S.D.)เท่ากับ๐.๕๖อยู่ในระดับมาก

ผลการวิเคราะห์ความคิดเห็น/ความพึงพอใจต่อการใช้คู่มือแนวทางการปฏิบัติแบบมีส่วนร่วมเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาด้วยยุทธศาสตร์ ๕ จุดเน้น (เล่ม ๒ จุดเน้น : คิดเป็น) ในภาพรวมตามรายการประเมิน ๙ ข้อ มีค่าเฉลี่ย (X̅) เท่ากับ ๔.๔๒ และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ ๐.๕๗ อยู่ในระดับมาก

ผลการวิเคราะห์ความคิดเห็น/ความพึงพอใจต่อการใช้คู่มือแนวทางการปฏิบัติแบบมีส่วนร่วมเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาด้วยยุทธศาสตร์ ๕ จุดเน้น (เล่ม ๓ จุดเน้น : เห็นผลงาน)ในภาพรวมตามรายการประเมิน ๙ ข้อ มีค่าเฉลี่ย (X̅) เท่ากับ ๔.๔๔ และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน(S.D.)เท่ากับ ๐.๕๖ อยู่ในระดับมาก

ผลการวิเคราะห์ความคิดเห็น/ความพึงพอใจต่อการใช้คู่มือแนวทางการปฏิบัติแบบมีส่วนร่วมเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาด้วยยุทธศาสตร์ ๕ จุดเน้น (เล่ม ๔ จุดเน้น : ฐานคุณธรรม)ในภาพรวมตามรายการประเมิน ๙ ข้อมีค่าเฉลี่ย (X̅) เท่ากับ ๔.๔๖ และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน(S.D.)เท่ากับ ๐.๕๖ อยู่ในระดับมาก

ตอนที่ ๓ ผลการวิเคราะห์แบบสอบถามการมีส่วนร่วมของผู้ทรงคุณวุฒิและคณะอนุกรรมการติดตามตรวจสอบ ประเมินผล และนิเทศการศึกษา(อ.ก.ต.ป.น.)

ผลการวิเคราะห์การรับรู้การมีส่วนร่วมของผู้ทรงคุณวุฒิและคณะอนุกรรมการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล และนิเทศการศึกษา(อ.ก.ต.ป.น.)ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในภาพรวมมีค่าเฉลี่ย (X̅) เท่ากับ ๔.๓๒ และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน(S.D.)เท่ากับ ๐.๖๘ อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า

๑. มีส่วนร่วมในการวางแผน(Planning Participation)มีค่าเฉลี่ย(X̅) เท่ากับ ๔.๓๖ และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน(S.D.)เท่ากับ ๐.๖๔ อยู่ในระดับมาก

๒. มีส่วนร่วมในการปฏิบัติ(Implementing Participation)มีค่าเฉลี่ย(X̅) เท่ากับ ๔.๓๒ และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน(S.D.)เท่ากับ ๐.๖๔ อยู่ในระดับมาก

๓. มีส่วนร่วมในการติดตาม กำกับ นิเทศ(Supervising Participation)มีค่าเฉลี่ย(X̅) เท่ากับ ๔.๒๗ และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน(S.D.)เท่ากับ ๐.๗๔

อยู่ในระดับมาก

๔. มีส่วนร่วมในการประเมินผล(Evaluating Participation) มีค่าเฉลี่ย (X̅) เท่ากับ ๔.๓๓ และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน(S.D.)เท่ากับ ๐.๖๘ อยู่ในระดับมาก

๕. มีส่วนร่วมปรับปรุงและพัฒนา(Improving and Developing Participation)ภาพรวมราย

ด้านมีค่าเฉลี่ย(X̅)เท่ากับ ๔.๓๒ และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน(S.D.)เท่ากับ ๐.๖๘ อยู่ในระดับมาก

โดยสรุป การศึกษากระบวนการมีส่วนร่วมของผู้ทรงคุณวุฒิและคณะอนุกรรมการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล และนิเทศการศึกษา(อ.ก.ต.ป.น.)

โดยใช้ ๕ Pโมเดลที่ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา สถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายโสธร เขต ๑ ในด้านต่างๆโดยเฉพาะการพัฒนาคุณภาพการศึกษาได้ตามมาตรฐานการศึกษาทุกด้านทุกระดับและส่งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนโดยภาพรวมเป็นที่น่าพอใจ

โพสต์โดย daeng : [22 เม.ย. 2566 เวลา 07:33 น.]
อ่าน [3243] ไอพี : 101.108.209.188
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 25,230 ครั้ง
อิทธิบาท 4
อิทธิบาท 4

เปิดอ่าน 4,003 ครั้ง
วิธีคลายร้อนให้บ้านปูน
วิธีคลายร้อนให้บ้านปูน

เปิดอ่าน 12,706 ครั้ง
6 วิธีแก้เครียด
6 วิธีแก้เครียด

เปิดอ่าน 201,696 ครั้ง
ธรรมคุณ 6
ธรรมคุณ 6

เปิดอ่าน 13,465 ครั้ง
เตือนอย่าทดลองแมงมุมหม้ายดำ รักษานกเขาไม่ขัน
เตือนอย่าทดลองแมงมุมหม้ายดำ รักษานกเขาไม่ขัน

เปิดอ่าน 2,864 ครั้ง
เปิด 4 เคล็ด (ไม่) ลับ บริหารคนยุค New Normal ความท้าทายของ HR ทุกองค์กร
เปิด 4 เคล็ด (ไม่) ลับ บริหารคนยุค New Normal ความท้าทายของ HR ทุกองค์กร

เปิดอ่าน 29,625 ครั้ง
สัมภาษณ์ ดร.พิษณุ ตุลสุข เลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. "ปัญหาหนี้สินครู"
สัมภาษณ์ ดร.พิษณุ ตุลสุข เลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. "ปัญหาหนี้สินครู"

เปิดอ่าน 29,035 ครั้ง
วิธีหลอกให้ "กบ" ผสมพันธุ์นอกฤดู ไอเดียคุณครูเรานี่เอง
วิธีหลอกให้ "กบ" ผสมพันธุ์นอกฤดู ไอเดียคุณครูเรานี่เอง

เปิดอ่าน 38,893 ครั้ง
ภาพมาโคร คืออะไร?
ภาพมาโคร คืออะไร?

เปิดอ่าน 22,319 ครั้ง
"ว่านกาบหอย" ไม่ใช่แค่ไม้ประดับแต่เป็นยาสมุนไพร
"ว่านกาบหอย" ไม่ใช่แค่ไม้ประดับแต่เป็นยาสมุนไพร

เปิดอ่าน 17,348 ครั้ง
ยาปฏิชีวนะ
ยาปฏิชีวนะ

เปิดอ่าน 13,204 ครั้ง
รู้ไว้จะได้ไม่พลาด! ไขข้อข้องใจ "มนุษย์เงินเดือน" ในการกรอก "ภาษี"
รู้ไว้จะได้ไม่พลาด! ไขข้อข้องใจ "มนุษย์เงินเดือน" ในการกรอก "ภาษี"

เปิดอ่าน 26,832 ครั้ง
เคล็ดลับสำหรับบ้านไม้ ทำอย่างไรให้ไร้ปลวก
เคล็ดลับสำหรับบ้านไม้ ทำอย่างไรให้ไร้ปลวก

เปิดอ่าน 22,558 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาส่วนภูมิภาค 6 เดือน กศจ.ไปต่ออย่างไร? โดย อดิศร เนาวนนท์
ปฏิรูปการศึกษาส่วนภูมิภาค 6 เดือน กศจ.ไปต่ออย่างไร? โดย อดิศร เนาวนนท์

เปิดอ่าน 30,681 ครั้ง
"พระเจ้าเหา" คือใคร ?
"พระเจ้าเหา" คือใคร ?

เปิดอ่าน 11,078 ครั้ง
เคล็ดลับเพื่อริมฝีปากเนียนนุ่ม
เคล็ดลับเพื่อริมฝีปากเนียนนุ่ม
เปิดอ่าน 10,798 ครั้ง
ครูโซ่สอนตรีโกณมิติ ชิล ๆ ในแบบบอดี้สแลม !
ครูโซ่สอนตรีโกณมิติ ชิล ๆ ในแบบบอดี้สแลม !
เปิดอ่าน 14,712 ครั้ง
"สมุนไพร" ส่วนประกอบอาหารไทยที่มีคุณค่า
"สมุนไพร" ส่วนประกอบอาหารไทยที่มีคุณค่า
เปิดอ่าน 11,367 ครั้ง
ตามไปดูการศึกษานอกหลักสูตร : ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ คำตอบสุดท้ายจะออกมาอย่างไร
ตามไปดูการศึกษานอกหลักสูตร : ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ คำตอบสุดท้ายจะออกมาอย่างไร
เปิดอ่าน 34,983 ครั้ง
โฉมใหม่ หอพัก สกสค. "บ้านหลังที่สองของครู"
โฉมใหม่ หอพัก สกสค. "บ้านหลังที่สองของครู"

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ