ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับเทคนิคการสืบเสาะ หาความรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับเทคนิคการสืบเสาะ

หาความรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิด

วิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

ผู้วิจัย นางรชนิกร ศิริมั่น

โรงเรียน โรงเรียนบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา

องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น

กระทรวงมหาดไทย

ปีที่พิมพ์ 2565

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับเทคนิคการสืบเสาะหาความรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์

สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1)พัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับเทคนิคการสืบเสาะหาความรู้ ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 2)ประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับเทคนิคการสืบเสาะหาความรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนบัวใหญ่ สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 37 คน ซึ่งได้มาด้วยวิธีสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ 1)แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับเทคนิคการสืบเสาะหาความรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน รายวิชาวิทยาศาสตร์กายภาพ 2)แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาวิทยาศาสตร์กายภาพ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 3)แบบวัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์ รายวิชาวิทยาศาสตร์กายภาพ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 และ 4)แบบวัดความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับเทคนิคการสืบเสาะหาความรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน การวิเคราะห์ข้อมูลใช้โปรแกรมคำนวณสำเร็จรูป สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบ t-test และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) ผลการวิจัยพบว่า 1)รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับเทคนิคการสืบเสาะหาความรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีชื่อว่า “MACRO model” มี 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการ การที่ผู้เรียนเป็นผู้เรียนรู้ด้วยตนเองอย่างมีระบบ โดยอาศัยการแสวงหาความรู้ด้วยการสืบเสาะหาความรู้ และผู้เรียนมีบทบาทสำคัญในการเรียนรู้ผ่านสื่อและเทคโนโลยี ได้ตลอดเวลาทุกสถานที่โดยมีครูทำหน้าที่แนะนำ ช่วยเหลือ สนับสนุน 2) วัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์กายภาพ ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ 3) กระบวนการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย 5 ขั้น คือ (1) ขั้นการสร้างแรงจูงใจ สร้างแรงบันดาลใจ(Motivation: M) (2) ขั้นเรียนรู้ด้วยตนเอง (Active learning: A) (3) ขั้นสรุปองค์ความรู้หรือสังเคราะห์สิ่งที่ได้เรียนรู้(Conclusion: C) (4) ขั้นสื่อสารและนำเสนอผลการเรียนรู้(Reporting: R) และ(5) ขั้นนำผลการเรียนรู้ที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ เผยแพร่(Obtain: O) 4)การวัดและประเมินผล 2 ด้าน คือ ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ด้านความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และ5) เงื่อนไขสำคัญในการนำรูปแบบไปใช้ให้ประสบผลสำเร็จ ประกอบด้วย ผู้เรียนต้องมีความสามารถและความพร้อมในการใช้และมีพื้นฐานในการเข้าถึงเทคโนโลยี มีความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์ มีวินัยและมุ่งมั่นในการทำงาน จัดสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการแสวงหาความรู้ของผู้เรียน โดยผลการวิจัยพบว่า 1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับเทคนิคการสืบเสาะหาความรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ รายวิชาวิทยาศาสตร์กายภาพ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.20/81.26 2) ประสิทธิผลของรูปแบบพบว่า 2.1)ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์กายภาพ ของนักเรียนหลังการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับเทคนิคการสืบเสาะหาความรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน สูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2.2)ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ หลังใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับเทคนิคการสืบเสาะหาความรู้ ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้านอยู่ในระดับสูง และ 2.3)ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับเทคนิคการสืบเสาะหาความรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน ในภาพรวมพบว่าอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย ธนาพร : [29 มี.ค. 2566 เวลา 22:07 น.]
อ่าน [2134] ไอพี : 171.96.221.155
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 22,099 ครั้ง
การแปรผลเมื่อใช้เครื่องมือรวบรวมข้อมูลแบบมาตราส่วนประมาณค่า
การแปรผลเมื่อใช้เครื่องมือรวบรวมข้อมูลแบบมาตราส่วนประมาณค่า

เปิดอ่าน 14,714 ครั้ง
ฟื้นฟูผิวหลังถูกแดดเผา
ฟื้นฟูผิวหลังถูกแดดเผา

เปิดอ่าน 82,791 ครั้ง
สุภาษิต-คำพังเพยเข้าถึงเด็กไทย แนะใช้บ่อย-สื่อเห็นภาพจริง
สุภาษิต-คำพังเพยเข้าถึงเด็กไทย แนะใช้บ่อย-สื่อเห็นภาพจริง

เปิดอ่าน 17,651 ครั้ง
เปิดตัวแสตมป์ ในหลวงฉลองพระองค์สูทสีชมพู 12 ธ.ค.
เปิดตัวแสตมป์ ในหลวงฉลองพระองค์สูทสีชมพู 12 ธ.ค.

เปิดอ่าน 35,476 ครั้ง
ความหมายยันต์
ความหมายยันต์

เปิดอ่าน 61,691 ครั้ง
แนวทางปฏิบัติในการจัดหาพัสดุด้วยวิธี e - market และด้วยวิธี e-bidding
แนวทางปฏิบัติในการจัดหาพัสดุด้วยวิธี e - market และด้วยวิธี e-bidding

เปิดอ่าน 23,393 ครั้ง
เกณฑ์มาตรฐานครูแห่งชาติ
เกณฑ์มาตรฐานครูแห่งชาติ

เปิดอ่าน 10,813 ครั้ง
คุณสมบัติของ คนที่ประสบความสำเร็จ (จบ)
คุณสมบัติของ คนที่ประสบความสำเร็จ (จบ)

เปิดอ่าน 8,013 ครั้ง
คัดเลือกคนจากสถาบัน
คัดเลือกคนจากสถาบัน

เปิดอ่าน 27,115 ครั้ง
ความคลาดเคลื่อนที่เกิดจากการเก็บข้อมูลของการวิจัย
ความคลาดเคลื่อนที่เกิดจากการเก็บข้อมูลของการวิจัย

เปิดอ่าน 13,808 ครั้ง
ทำไมตรุษจีน จึงจุดประทัดและเชิดสิงโต
ทำไมตรุษจีน จึงจุดประทัดและเชิดสิงโต

เปิดอ่าน 46,479 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 2 ลูกบอล (The Ball)
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 2 ลูกบอล (The Ball)

เปิดอ่าน 13,381 ครั้ง
เล็กๆ น้อยๆ เรื่องการนอน
เล็กๆ น้อยๆ เรื่องการนอน

เปิดอ่าน 14,541 ครั้ง
น้ำผึ้งจากดอกลำไย
น้ำผึ้งจากดอกลำไย

เปิดอ่าน 23,294 ครั้ง
วิธีการปลูกผักชี
วิธีการปลูกผักชี

เปิดอ่าน 36,633 ครั้ง
โนบิ โนบิตะ : ตัวละครจากการ์ตูนโดราเอมอน
โนบิ โนบิตะ : ตัวละครจากการ์ตูนโดราเอมอน
เปิดอ่าน 13,194 ครั้ง
นาฬิกาชีวิต องค์รวมสุขภาพแบบ A.M./P.M.
นาฬิกาชีวิต องค์รวมสุขภาพแบบ A.M./P.M.
เปิดอ่าน 10,074 ครั้ง
จุฬาฯ ฉลอง อันดับ 138 มหาวิทยาลัย ชั้นนำของโลก
จุฬาฯ ฉลอง อันดับ 138 มหาวิทยาลัย ชั้นนำของโลก
เปิดอ่าน 11,240 ครั้ง
ปลาชะลอสมองเสื่อม
ปลาชะลอสมองเสื่อม
เปิดอ่าน 13,070 ครั้ง
มุมกล้องที่ดี..ช่วยคุณได้ขนาดไหน..ไปดูคลิปนี้กันครับ
มุมกล้องที่ดี..ช่วยคุณได้ขนาดไหน..ไปดูคลิปนี้กันครับ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ