ชื่อเรื่อง การพัฒนาชุดกิจกรรมประวัติศาสตร์ไทย โดยใช้วิธีสอนตามกระบวนการวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ผู้วิจัย นายณัฐพงศ์ เทียมเพ็ง ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
สถานศึกษา โรงเรียนดอนเงินพิทยาคาร อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม
สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม
ปีที่ศึกษา พ.ศ. 2564
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่องการพัฒนาชุดกิจกรรมประวัติศาสตร์ไทย โดยใช้วิธีสอนตามกระบวนการวัฏจักร
การเรียนรู้ 7 ขั้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาและหา
ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมประวัติศาสตร์ไทย โดยใช้วิธีสอนตามกระบวนการวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น
สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการ
เรียนของนักเรียนก่อนและหลังเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมประวัติศาสตร์ไทย โดยใช้วิธีสอนตาม
กระบวนการวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 3) ศึกษาดัชนีประสิทธิผลทางการเรียนของชุดกิจกรรมประวัติศาสตร์ไทย โดยใช้วิธีสอนตามกระบวนการวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมประวัติศาสตร์ไทย โดยใช้วิธีสอนตามกระบวนการวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดย มีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนดอนเงินพิทยาคาร สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 9 คน ซึ่งได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 2) แผนการจัดการเรียนรู้ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ttest (Dependent Samples) และ การทดสอบ Wilcoxon Singned-rank test
ผลการวิจัยพบว่า
1. ชุดกิจกรรมประวัติศาสตร์ไทย โดยใช้วิธีสอนตามกระบวนการวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.71/82.58 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้
2. นักเรียนมีค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมประวัติศาสตร์ไทย โดยใช้วิธีสอนตามกระบวนการวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ค่าดัชนีประสิทธิผลทางการเรียนของชุดกิจกรรมประวัติศาสตร์ไทย โดยใช้วิธีสอนตามกระบวนการวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เท่ากับ 0.7578 แสดงให้เห็นว่า การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้ชุดกิจกรรมประวัติศาสตร์ไทย โดยใช้วิธีสอนตามกระบวนการวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่สร้างขึ้นส่งผลให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ร้อยละ 75.7
4. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมประวัติศาสตร์ไทย โดยใช้วิธีสอนตามกระบวนการวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด