ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนคณิตศาสตร์เพื่อส่งเสริมความสามารถ
ในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
ผู้วิจัย นางไพบูลย์ จิตต์มั่น
สถานศึกษา โรงเรียนพันดอนวิทยา อำเภอกุมภาวาปี จังหวัดอุดรธานี
ปีการศึกษา พ.ศ. 2564
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความจำเป็นในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา 2) พัฒนารูปแบบการเรียนการสอนคณิตศาสตร์เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ ของนักเรียน ก่อนและหลังการใช้รูปแบบการเรียนการสอน 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอน 5) ขยายผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนคณิตศาสตร์เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่กําลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนพันดอนวิทยา จำนวน 25 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการขยายผลการวิจัยเป็นนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ซึ่งไม่ใช่กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลอง จำนวน 28 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย รูปแบบการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ และแบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบการเรียนการสอน วิเคราะห์ข้อมูล โดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่แบบไม่อิสระและแบบอิสระและการวิเคราะห์ เนื้อหา
ผลการวิจัย พบว่า
1. จากการศึกษาข้อมูลพื้นฐานสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น จากหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2551 ผู้วิจัยนำมาวิเคราะห์ กำหนดจุดประสงค์ในการจัดการเรียนรู้ และกำหนดขอบเขตด้านเนื้อหา ศึกษาสภาพที่คาดหวังตามมาตรฐานและตัวชี้วัดของหลักสูตร กับสภาพที่เป็นจริงของการจัดการศึกษาสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ พบว่า 1) ยังมีความไม่ชัดเจนของเอกสารหลักสูตร 2) การจัดการเรียนการสอนไม่ครบตามตัวชี้วัด 3) สถานศึกษากำหนดสาระการเรียนรู้และผลการเรียนรู้ที่คาดหวังไว้มากเกินไป 4) การวัดและประเมินผลไม่สะท้อนมาตรฐานการเรียนรู้ 5) คุณภาพผู้เรียนด้านความรู้ ทักษะความสามารถ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ
2. รูปแบบการเรียนการสอนคณิตศาสตร์เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา มีชื่อว่า ALPE Model มีองค์ประกอบ คือ หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการเรียนการสอน และเงื่อนไขการนํารูปแบบไปใช้ กระบวนการเรียนการสอนมี 4 ขั้นตอน คือ 1. ขั้นทบทวนความรู้เดิม (Activate Prior Knowledge: A) 2. ขั้นเรียนรู้การคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ (Learning Problem solving and Critical thinking: L) แบ่งเป็นขั้นตอนย่อย 3. ขั้นการฝึกปฏิบัติอย่างชำนาญ (Practice Skillfully: P) 4. ขั้นการตรวจสอบความเข้าใจ (Enumeration: E) โดยที่รูปแบบการเรียนการสอนคณิตศาสตร์เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา (ALPE Model) ที่พัฒนาขึ้นมานี้มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.25/86.40 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
3. หลังการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอน นักเรียนมีความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบการเรียนการสอนโดยภาพรวมอยู่ในระดับเห็นด้วยมากที่สุด
5. ผลการขยายผล พบว่าหลังการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอน นักเรียนมีความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบการเรียนการสอนโดยภาพรวมอยู่ในระดับเห็นด้วยมากที่สุด