ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
ผลของการจัดประสบการณ์วิทยาการคำนวณ เพื่อพัฒนาการคิดแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัยด้วยเกมการศึกษา ของชั้นอนุบาลปีที่ 3

ชื่อเรื่อง ผลของการจัดประสบการณ์วิทยาการคำนวณ เพื่อพัฒนาการคิดแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัยด้วยเกมการศึกษา ของชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนบ้านโนนไชยศรี

ชื่อผู้วิจัย นายจักรพงษ์ บุตระรม

ปีที่ทำวิจัย 2565

ความเป็นมาและความสำคัญ

การศึกษาปฐมวัยเป็นการพัฒนาเด็ก ตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 ปีบริบูรณ์ อย่างเป็นองค์รวม บนพื้นฐานการ อบรมเลี้ยงดูและการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ที่สนองต่อธรรมชาติและพัฒนาการตามวัยของเด็กแต่ละคนให้ เต็มตามศักยภาพ วิทยาการคำนวณเป็นวิชาของการคิดอย่างมีเหตุผล การศึกษาอย่างสม่ำเสมอและใช้กระบวนการคิดที่ถูกต้องของ การเรียนวิทยาการคำนวณจะสร้างให้เด็กเกิดความสามารถพื้นฐานในการคิดวิเคราะห์ ทักษะพื้นฐานทางการบวนการคิด ต้องปลูกฝังตั้งแต่ปฐมวัยเนื่องจากวิทยาการคำนวณเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน ของมนุษย์ ถ้าหากมองไปรอบๆตัวจะเห็นว่าชีวิตเกี่ยวข้องกับวิทยาการคำนวณอย่างมาก สังเกตในการเล่นและการ พูดคุยของเด็กมักจะมีเรื่องการคิดวิเคราะห์เข้ามาเกี่ยวข้องในชีวิตประจำวันอยู่เสมอ

วัตถุประสงค์ของการวิจัย

1.เพื่อพัฒนาทักษะทางกระบวนการคิดแก้ปัญหา

2.เพื่อพัฒนาการคิดที่เป็นเหตุเป็นผล

ขอบเขตการวิจัย ขอบเขตด้านเนื้อหา

การพัฒนาทักษะทางคณิตศาสตร์ในการบอกค่าของจํานวนและด้านการจดจำตัวเลข 1- 20 ของเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 3 ด้วยชุดฝึกตัวเลขมีเนื้อหาดังนี้

1) ชุดฝึกการเรียงลำดับภาพเลขาคณิตจากเล็กไปใหญ่

2) ชุดฝึกการเรียงลำดับภาพเหตุการณ์จากการฟังนิทาน

ด้านประชากรและกลุ่มตัวอย่าง

ประชากร ได้แก่ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3ของโรงเรียนบ้านโนนไชยศรี จํานวน 15 คน

กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ของโรงเรียนบ้านโนนไชยศรี ปีการศึกษา 2565 ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง จํานวน 7 คน

ขอบเขตด้านตัวแปร

ตัวแปรอิสระ ได้แก่ ชุดเกมการศึกษา เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิด ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ของโรงเรียนบ้านโนนไชยศรี

ตัวแปรตาม ได้แก่ ผลที่เกิดขึ้นกับนักเรียน ความรู้ ทักษะ กระบวนการคิดแก้ปัญหา โดยเกมการศึกษา

ขอบเขตด้านระยะเวลาในการศึกษา

ดําเนินการศึกษา 3 ธันวาคม 2565 - 11 มกราคม 2566

สมมติฐานการวิจัย

นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ที่ได้รับการพัฒนาทักษะกระบวนการคิดทางวิทยาการคำนวณ ด้วยเกมการศึกษา ได้แม่นยำมากขึ้น

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

1.นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 จํานวน 7 คน ของโรงเรียนบ้านโนนไชยศรี ปีการศึกษา 2564 มีทักษะทาง วิทยาการคำนวณ ในการคิดวิเคราะห์ และสามารถแก้ไขปัญหา ได้แม่นยํามากขึ้น

2.ผลของการวิจัยสามารถนําไปเป็นข้อมูลและแนวทางแก่ครูและผู้เกี่ยวข้องต่อไปได้

กรอบแนวคิด

วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล

การใช้ฝึกชุดฝึกเกมการศึกษา ของนักเรียน ชั้นปฐมวัยปีที่ 3 ของโรงเรียนบ้านโนนไชยศรี จํานวน 7 คน มีการเก็บรวบรวมข้อมูลดังนี้

1) นําแผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2561

2) นําเกมการศึกษาไปทดลองใช้กับนักเรียนชั้นปฐมวัยชั้นปีที่ 3 เพื่อประเมินทักษะทางกระบวนการคิด

3) นำเพลงและคำคล้องจองเกี่ยวกับเลขาคณิต มาสอนให้เด็กทุกคนในชั้นปฐมวัยปีที่ 3 ร้องเพลงและท่องคำคล้องจอง

4) ฝึกการสังเกตและการคิด โดยใช้ชุดฝึกการเรียงลำดับเหตุการณ์และชุดฝึกอื่นๆสลับกันทุกวัน เพื่อให้เด็กจำ ไปพร้อมกัน

5) ให้เด็กจับคู่กันเล่นชุดฝึกชุดต่างๆโดยหมุนเวียนกันเล่นทุกวันพร้อมกับตรวจสอบความถูกต้อง

6) ทดสอบเด็กโดยการถาม-ตอบ

7) บันทึกผลที่ได้ในแต่ละครั้ง

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย

1) ชุดฝึกการเรียงลำดับภาพเลขาคณิตจากเล็กไปใหญ่

2) ชุดฝึกการเรียงลำดับภาพเหตุการณ์จากการฟังนิทาน

ขั้นตอนการสร้างชุดฝึกตัวเลข

ได้ดําเนินการตามขั้นตอน ดังนี้

1) ศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับหลักการและวิธีสร้างแบบชุดการลำดับภาพ เช่นเกมจับคู่ตัวเลขกับตัวเลข และเกมจับคู่ เกมการเรียงลำดับ จากเอกสาร ตํารา และงานวิจัย เพื่อเป็นแนวทางในการจัดเนื้อหา และสร้างแบบทดสอบเพื่อ พัฒนาทักษะการคิด

2) ศึกษาหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ด้านสติปัญญา ทักษะคณิตศาสตร์ระดับชั้นปฐมวัย ศึกษาตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2560 เพื่อกำหนดขอบเขตเนื้อหาของ บทเรียนและกำหนด พฤติกรรมที่ต้องการรวมถึงผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง

3) เลือกเนื้อหาที่นำมาใช้ในครั้งนี้ คือพัฒนาการด้านสติปัญญา เพื่อนำมาใช้ทดสอบผลใน การจัดกลุ่มและจัด กิจกรรมเพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิด

4) การสร้างแผนการจัดการเรียนรู้โดยเน้นแผนการเรียนรู้แบบบูรณาการเข้ากับหน่วยการเรียน ตามความ เหมาะสม

5) จัดทําชุดฝึกการลำดับเหตุการณ์ ประกอบด้วย ชุดฝึกลำดับภาพเลขาคณิต การลำดับภาพเหตุการณ์

การวิเคราะห์ข้อมูล

การใช้ชุดฝึกการเรียงลำดับภาพเลขาคณิตจากเล็กไปใหญ่ ของนักเรียน ชั้นปฐมวัย 3 ของโรงเรียนบ้านโนนไชยศรี

มีการวิเคราะห์ข้อมูลดังนี้

1) วิเคราะห์ผลการประเมิน โดยการหาค่าความถี่ เกณฑ์การประเมิน ปฏิบัติได้ 4-5 ครั้ง ดีมาก

ปฏิบัติได้ 3 ครั้ง ดี

ปฏิบัติได้ 2 ครั้ง พอใช้ ปฏิบัติได้ น้อยกว่า 2 ครั้ง ปรับปรุง

สําหรับเกณฑ์การตัดสินที่ผ่านการประเมินการพัฒนาส่งเสริมทักษะทางกระบวนการณ์คิดการเรียงลำดับภาพเลขาคณิตจากเล็กไปใหญ่ จะต้องได้ระดับคุณภาพในระดับดีขึ้นไป

2) นําผลการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสรุปและอธิบายผล

ในการวิเคราะห์ข้อมูลการวิจัยเรื่องการใช้ชุดฝึกตัวเลขเพื่อส่งเสริมทักษะทางกระบวนการณ์คิดการเรียงลำดับภาพเลขาคณิตจากเล็กไปใหญ่ ของนักเรียนชั้นปฐมวัย 3 ของโรงเรียนบ้านโนนไชยศรี จำนวน 7 คน มีรายละเอียดดังนี้

ตาราง ที่ 1 แสดงรายละเอียดการประเมินทักษะด้านการเรียงลำดับภาพเลขาคณิตจากเล็กไปใหญ่

เลขที่ ครั้งที่ประเมิน รวม การแปลผล

1 2 3 4 5

1 0 0 1 1 1 3 ดี

2 0 0 0 1 1 2 พอใช้

3 0 0 1 1 1 3 ดี

4 0 0 1 1 1 3 ดี

5 0 0 0 1 1 2 พอใช้

6 0 0 0 0 1 1 ปรับปรุง

7 0 1 1 1 1 4 ดีมาก

จากตารางที่ 1พบว่าเด็กปฐมวัยที่ผ่านการประเมินทักษะด้านการเรียงลำดับภาพเลขาคณิตจากเล็กไปใหญ่ในระดับ ดีมาก จำนวน 1 คน อยู่ในระดับ ดี 3 คน อยู่ในระดับพอใช้ 2 คน และอยู่ในระดับต้องปรับปรุง 1 คน สรุปได้ว่านักเรียนที่ผ่านเกณฑ์การตัดสินในประเมินทักษะด้านการเรียงลำดับภาพเลขาคณิตจากเล็กไปใหญ่ ตามที่กําหนดไว้จํานวน 4 คน

ตารางที่ 2 แสดงรายละเอียดการประเมินทักษะชุดฝึกการเรียงลำดับภาพเหตุการณ์จากการฟังนิทาน

เลขที่ ครั้งที่ประเมิน รวม การแปลผล

1 2 3 4 5

1 0 0 1 1 1 3 ดี

2 0 0 1 1 1 3 ดี

3 0 1 1 1 1 4 ดีมาก

4 0 0 1 1 1 3 ดี

5 0 0 0 1 1 2 พอใช้

6 0 0 0 1 1 2 พอใช้

7 0 1 1 1 1 4 ดีมาก

จากตารางที่ 2 พบว่าเด็กปฐมวัยที่ผ่านการประเมินทักษะชุดฝึกการเรียงลำดับภาพเหตุการณ์จากการฟังนิทาน ระดับ ดีมาก จำนวน 2 คน อยู่ในระดับ ดี 3 คน อยู่ในระดับพอใช้ 2 คน

สรุปได้ว่านักเรียนที่ผ่านเกณฑ์การตัดสินในการพัฒนาทักษะชุดฝึกการเรียงลำดับภาพเหตุการณ์จากการฟังนิทานตามที่กําหนดไว้จํานวน 5 คน

สรุปผลการวิจัย อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ

การใช้ชุดฝึกเกมการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะวิทยาการคำนวณ การคิดแก้ปัญหาด้วยชุดเกมการศึกษา ของเด็กชั้น ปฐมวัยชั้นปีที่ 3 มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะทางกระบวนการคิดแก้ปัญหา ของเด็กชั้นปฐมวัย ปฐมวัยชั้นปีที่ 3 ของโรงเรียนบ้านโนนไชยศรี ที่เรียนด้วยชุดฝึกเกมการศึกษา ได้กำหนด การศึกษาคือประเมินจากการใช้ชุดฝึกเกมการศึกษาดังนี้

1) ชุดฝึกการเรียงลำดับภาพเลขาคณิตจากเล็กไปใหญ่

2) ชุดฝึกการเรียงลำดับภาพเหตุการณ์จากการฟังนิทาน

สรุปผลการวิจัย

ผลการพัฒนาทักษะกระบวนการคิดด้วยชุดเกมการศึกษาของเด็กปฐมวัยชั้นปีที่ 3 มี รายละเอียด ดังนี้

1.นักเรียนที่ผ่านเกณฑ์การตัดสินในการประเมินทักษะด้านวิทยาการคำนวณ โดยใช้ชุด การเรียงลำดับภาพเลขาคณิตจากเล็กไปใหญ่ใน ตามที่กําหนดไว้จํานวน 4 คน

2.นักเรียนที่ผ่านเกณฑ์การตัดสินในการประเมินทักษะด้านวิทยาการคำนวณ โดยใช้ชุด เรียงลำดับภาพเหตุการณ์จากการฟังนิทานตามที่ กําหนดไว้จํานวน 5 คน

ทักษะทางกระบวนการคิด ระดับการประเมิน

ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง

การเรียงลำดับเลขาคณิคเล็ก-ใหญ่ 1 3 2 1

การเรียงลำดับเหตุการณ์จากการฟังนิทาน 2 3 2 0

ตารางที่ 3 สรุปผลการวิจัย

อภิปรายผล

ผลจากการพัฒนาทักษะทางวิทยาการคำนวณในการลำดับภาพเลขาคณิตจากเล็ก-ใหญ่ และด้านการการเรียงลำดับเหตุการณ์จากการฟังนิทานของเด็กชั้น ปฐมวัยชั้นปีที่ 3 โรงเรียนบ้านโนนไชยศรี สามารถนํามาอภิปรายผลดังนี้

1.ผลการพัฒนาทางคณิตศาสตร์ในการลำดับภาพเลขาคณิตจากเล็ก-ใหญ่ พบว่านักเรียนที่ผ่านเกณฑ์

การตัดสินในการพัฒนาทักษะทางวิทยาการคำนวณในการลำดับภาพเลขาคณิตจากเล็ก-ใหญ่ ตามที่กําหนดไว้จํานวน 4 คนและนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์การตัดสินในการเรียงลำดับเหตุการณ์จากการฟังนิทานตามที่กำหนดไว้ 5 คนทั้งนี้อาจ เนื่องจาก เด็กเกิดการเรียนรู้ไปทีละขั้นตอนผ่านการปฏิบัติจริงด้วยตนเองซึ่งสอดคล้องกับหลักการ เรียนรู้ของ ดิวอี้ (Dewey, 1994:34-35 อ้างใน ธีรนาฏ เบ้าคํา,2553:115) ที่กล่าวว่า นักเรียนจะเกิด การเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพก็ต่อ เมื่อนักเรียนได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง ทําให้เกิดการเรียนรู้และมี ความเข้าใจมากขึ้นทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่าเด็ก ได้ เล่นได้เรียนรู้จากของเล่นที่เคยเล่นเคยสัมผัสคุ้นเคยและรู้จัก สอดคล้องกับกุลยาตันติผลาชีวะ (2551:43) กล่าวว่าการสอนคณิตศาสตร์เด็กปฐมวัยต้องเริ่มจากชีวิตจริงและสิ่งใกล้ตัวเด็กจึงจะ เข้าใจได้

ข้อเสนอแนะในการนำผลการวิจัยไปใช้

1. ควรมีการดําเนินการอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอเสมอ

2. ในการนําไปใช้ควรมีชุดตัวเลขไปทดลองก่อนใช้

ข้อเสนอแนะในการทำวิจัยครั้งต่อไป

1. การจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ทางคณิตศาสตร์ควรเน้นให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง เพื่อให้เด็ก เกิดความคิดรวบยอดเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง

2.ควรศึกษาแนวทางในการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะทางคณิตศาสตร์ในการบอกค่าและจดจำตัวเลขที่เหมาะสม เฉพาะรายบุคคล

3.ควรศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการพัฒนาทักษะทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยเพื่อแก้ปัญหาของ เด็กแต่ละ บุคคล

โพสต์โดย ครูบ้านนอกคนร้อยเกิน : [25 มี.ค. 2566 เวลา 17:59 น.]
อ่าน [1794] ไอพี : 118.175.249.95
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 20,599 ครั้ง
ประโยชน์ของ "เปลือกกล้วย" ที่คุณอาจไม่รู้
ประโยชน์ของ "เปลือกกล้วย" ที่คุณอาจไม่รู้

เปิดอ่าน 12,531 ครั้ง
6 ตำรับธรรมชาติ เพื่อผิวสวยใส ไร้สารเคมี
6 ตำรับธรรมชาติ เพื่อผิวสวยใส ไร้สารเคมี

เปิดอ่าน 64,459 ครั้ง
วิธีสะเดาะเคราะห์ (ด้วยตัวเอง)
วิธีสะเดาะเคราะห์ (ด้วยตัวเอง)

เปิดอ่าน 14,625 ครั้ง
ความเหลื่อมล้ำและระบบอุปถัมภ์ในการศึกษาไทย - มติชน วีกเอ็นด์ 15 พ.ค. 59
ความเหลื่อมล้ำและระบบอุปถัมภ์ในการศึกษาไทย - มติชน วีกเอ็นด์ 15 พ.ค. 59

เปิดอ่าน 73,052 ครั้ง
"โมเต็ล"แตกต่างจาก "โฮเต็ล" (Hotel) อย่างไร
"โมเต็ล"แตกต่างจาก "โฮเต็ล" (Hotel) อย่างไร

เปิดอ่าน 12,441 ครั้ง
ภัยร้ายจากควันบุหรี่
ภัยร้ายจากควันบุหรี่

เปิดอ่าน 14,864 ครั้ง
ประโยชน์ ของการดื่มเบียร์
ประโยชน์ ของการดื่มเบียร์

เปิดอ่าน 17,167 ครั้ง
โครงการหลวง 40 ชูไฮไลต์ พืช-ผลไม้ เพื่อสุขภาพ
โครงการหลวง 40 ชูไฮไลต์ พืช-ผลไม้ เพื่อสุขภาพ

เปิดอ่าน 7,020 ครั้ง
เกาะติดการปิดเปิดเทอม มหาวิทยาลัยไทยตามอาเซียน
เกาะติดการปิดเปิดเทอม มหาวิทยาลัยไทยตามอาเซียน

เปิดอ่าน 70,002 ครั้ง
การตรวจสอบวุฒิการศึกษา
การตรวจสอบวุฒิการศึกษา

เปิดอ่าน 66,024 ครั้ง
เชาวน์อารมณ์ E.Q. (Emotional Quotient)
เชาวน์อารมณ์ E.Q. (Emotional Quotient)

เปิดอ่าน 8,323 ครั้ง
บริหารงานอย่างไร จึงจะครองใจลูกน้อง
บริหารงานอย่างไร จึงจะครองใจลูกน้อง

เปิดอ่าน 17,421 ครั้ง
เปิดจุดแข็ง-จุดอ่อนของคน 12 ราศี
เปิดจุดแข็ง-จุดอ่อนของคน 12 ราศี

เปิดอ่าน 12,507 ครั้ง
เทคนิค 6 ต. เพื่อสอบแอดมิชชั่นให้ "ติด"
เทคนิค 6 ต. เพื่อสอบแอดมิชชั่นให้ "ติด"

เปิดอ่าน 13,764 ครั้ง
LINEเพิ่มฟีเจอร์ไอคอนรูปกุญแจในห้องแชท
LINEเพิ่มฟีเจอร์ไอคอนรูปกุญแจในห้องแชท

เปิดอ่าน 19,763 ครั้ง
รู้หรือไม่ ที่ฟินแลนด์ ยกระดับการศึกษา ต้องเริ่มที่พัฒนาครูผู้สอน
รู้หรือไม่ ที่ฟินแลนด์ ยกระดับการศึกษา ต้องเริ่มที่พัฒนาครูผู้สอน
เปิดอ่าน 59,211 ครั้ง
"โซเชียล เน็ตเวิร์ก" ช่วยพัฒนาการเรียนการสอน
"โซเชียล เน็ตเวิร์ก" ช่วยพัฒนาการเรียนการสอน
เปิดอ่าน 13,193 ครั้ง
ไหว้พระเสริมบารมี (แก้ชง) ปีม้า 2557
ไหว้พระเสริมบารมี (แก้ชง) ปีม้า 2557
เปิดอ่าน 17,413 ครั้ง
HRD & E-Learning
HRD & E-Learning
เปิดอ่าน 27,343 ครั้ง
ประวัติย่อของคณิตศาสตร์
ประวัติย่อของคณิตศาสตร์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ