การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ครั้งนี้ มีความมุ่งหมายของการวิจัย ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน และความต้องการรูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 2 ของครูผู้สอน และสังเคราะห์องค์ประกอบของรูปแบบการจัดการเรียนรู้บนเว็บ โดยออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) เพื่อออกแบบและพัฒนารูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3.1) ประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่พัฒนาขึ้นตามรูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3.2) หาค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3.3) หาค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ รายวิชา คณิตศาสตร์ พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3.4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภายหลังสิ้นสุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย ครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด ในภาคเรียน 1 ปีการศึกษา 2564 ที่กำลังเรียนรายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 จำนวน 38 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) คู่มือการใช้รูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ที่ออกแบบตามรูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 3) แบบวัดความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ 4) แบบวัดความพึงพอใจสำหรับนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ 5) แบบประเมินของผู้ทรงคุณวุฒิเกี่ยวกับความเหมาะสมของรูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่พัฒนาขึ้น เครื่องมือวัด และแบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียน 6) แบบรับรองรูปแบบการเรียนรู้บนเว็บของผู้ทรงคุณวุฒิ การวิเคราะห์หาคุณภาพ ของเครื่องมือ โดยหาการวิเคราะห์ความต้องการจำเป็น (Needs Assessment) โดยผู้วิจัยนำข้อมูลที่ได้ มาหาค่าดัชนีความต้องการจำเป็น (Priority Needs Index) เพื่อจัดลำดับความต้องการจำเป็น ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) โดยใช้วิธีของโรวิเนลลี (Rovinelli) และแฮมเบิลตัน(R.H.Hambleton) หาค่าความยาก (P) และค่าอำนาจจำแนก (B) โดยหาค่าความเชื่อมั่นโดยวิธีของ โลเวทท์ (Lovett) หาคุณภาพของแบบสอบถาม หาค่าสัมประสิทธิ์แอลฟา ( -Coefficient) โดยหาค่าความเชื่อมั่นตามวิธีของครอนบาค Cronbach) วิเคราะห์หาประสิทธิภาพของการเรียนรู้บนเว็บ (E1/E2) ตามเกณฑ์ 80/80 สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์หาค่าดัชนีประสิทธิผลของการเรียนรู้บนเว็บ โดยใช้วิธีของกูดแมน,เพลคเทอร์ และ ชไนเดอร์
ผลการวิจัยปรากฏดังนี้
1. ผลการศึกษาสภาพปัจจุบัน และความต้องการรูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของครูผู้สอน และสังเคราะห์องค์ประกอบของรูปแบบการเรียนรู้บนเว็บ โดยออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษา ปีที่ 2
1.1 ผลการศึกษาสภาพปัจจุบัน และความต้องการรูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบของครูผู้สอน โดยการสอบถามจากครูผู้สอนรายวิชาคณิตศาสตร์ ในโรงเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด ที่จัดการเรียนการสอนระดับมัธยมศึกษา จำนวน 6 คน พบว่า
ผู้สอนมีความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันของรูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ อยู่ในระดับปานกลาง มีค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 2.64 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.23
ผู้สอนมีความต้องการรูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 4.61 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.34
มีค่า PNI modified อยู่ระหว่าง 0.346-0.533 ซึ่งครูมีความต้องการจำเป็น ในเรื่อง มีเนื้อหาการจัด การเรียนการสอนบนเว็บ ในรายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 มากที่สุด (PNI modified = 0.533) อันดับที่ 2 รองลงมา คือ มีการวัดและการประเมินผลบนเว็บ (PNI modified= 0.517) และ อันดับที่ 3 รองลงมา คือ มีการออกแบบเป็นระบบนำเสนอถูกต้องตามลำดับขั้นของการเรียนรู้บนเว็บ และ มีกิจกรรมการเรียนรู้แต่ละแผนสอดคล้องผลการเรียนรู้ (PNI modified= 0.519)
1.2 ผลการสังเคราะห์องค์ประกอบของรูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีดังนี้
1.2.1 องค์ประกอบของรูปแบบการเรียนรู้ ผู้วิจัยได้ศึกษาแนวคิดจาก หน่วยงาน องค์การ นักวิชาการ ดังนี้ Vishwanath (2006 : 115 - 116), Joyce, B. and M. Weil (2011 : 159-388), ทิศนา แขมมณี (2557 : 222) ซึ่งสังเคราะห์องค์ประกอบของรูปแบบการเรียนรู้ มีองค์ประกอบสำคัญ 6 องค์ประกอบ ซึ่งประกอบด้วย 1) หลักการแนวคิด ทฤษฎี 2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ 3) ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ 4) ระบบสังคม 5) หลักการตอบสนอง และ 6) ระบบสนับสนุน
1.2.2 องค์ประกอบของการเรียนรู้บนเว็บ ผู้วิจัยได้ศึกษาแนวคิดจาก หน่วยงาน องค์การ นักวิชาการ ดังนี้ รัฐกรณ์ คิดการ (2551 : 15-20), วิชุดา รัตนเพียร(2545 : 29-35) , ใจทิพย์ ณ สงขลา (2561 : 18-28) , ถนอมพร เลาหจรัสแสง (2561 : 87-94), สิรีธร ชูเผ่า และคณะ (2554 : 38), ไชยยศ เรืองสุวรรณ (2554 : 91-92), สุมาลี ชัยเจริญ (2557 : 23 -25). เป็นบทเรียนบนเว็บ วิชาคณิตศาสตร์ ในรายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยอาศัยคุณลักษณะของบทเรียนบนเว็บในการออกแบบการเรียนรู้ ที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ ซึ่งมีองค์ประกอบ 4 องค์ประกอบ คือ 1) การบริหารจัดการ (Learning Management) 2) การจัดการเนื้อหา (Content Management) 3) การติดต่อสื่อสาร (Communications) 4) การประเมินผล (Evaluation)
1.2.3 องค์ประกอบของเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ โดยมีกิจกรรมเพื่อฝึกการคิดนอกกรอบ ตามแนวคิดของ Edward De Bono ซึ่งใช้เทคนิคในการฝึก 5 เทคนิค ดังนี้ 5.1) เทคนิคการท้าทายสมมติฐาน (Challenging Assumptions) 5.2) เทคนิคสร้างทางเลือก (The Generation of Alternatives) 5.3) เทคนิคการกระตุ้นสุ่ม (Random stimulation) 5.4) เทคนิคระดมสมอง (Brainstorming) 5.5) เทคนิคการคิดแบบแยกส่วน (Fractionation) แล้วใช้แบบทดสอบของ Torrance แบบ ก โดยการวัดแบ่งเป็น 4 องค์ประกอบ ได้แก่
1. ความคิดคล่อง (Fluency)
2. ความคิดยืดหยุ่น (Flexibility)
3. ความคิดริเริ่ม (Originality) และ
4. ความคิดละเอียดลออ (Elaboration)
2. ผลการออกแบบและพัฒนารูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ รายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยผู้ทรงคุณวุฒิได้ประเมินความเหมาะสมของร่างรูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยรวม มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.77 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.15
3. ผลการใช้รูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
3.1. ผลการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่พัฒนาขึ้นตาม
รูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วย
การคิดนอกกรอบ รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่พัฒนาขึ้น มีค่าเท่ากับ 81.84/80.26 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
3.2 ผลการหาค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 0.6753 ซึ่งแสดงว่าผู้เรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 67.53
3.3 ผลการหาค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้บนเว็บที่เสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ด้านความคิดคล่องแคล่ว มีค่าเท่ากับ 0.6900 แสดงว่าผู้เรียนมีความก้าวหน้าทาง การเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 69.00 ความคิดยืดหยุ่น มีค่าเท่ากับ 0.5333 แสดงว่าผู้เรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 53.33 ความคิดริเริ่ม มีค่าเท่ากับ 0.6142 แสดงว่าผู้เรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 61.42 และความคิดละเอียดลออ มีค่าเท่ากับ 0.6478 ซึ่งแสดงว่าผู้เรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียน 64.78 ตามลำดับ
3.4 ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบ
การเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภายหลังสิ้นสุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ พบว่า มีความพึงพอใจโดยรวม อยู่ในระดับมากที่สุด