ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้เชิงรุกและห้องเรียนกลับด้าน

การวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้เชิงรุกและห้องเรียนกลับด้าน เพื่อพัฒนาทักษะความเข้าใจและความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ ความต้องการจำเป็น พัฒนารูปแบบ ทดลองใช้รูปแบบ รวมทั้งประเมินและปรับปรุงรูปแบบการเรียนรู้เชิงรุกและห้องเรียนกลับด้าน เพื่อพัฒนาทักษะความเข้าใจและความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยแบ่งการวิจัยออกเป็น 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์และความต้องการจำเป็น กลุ่มตัวอย่าง คือ ครูผู้สอนภาษาไทย กลุ่มการศึกษาท้องถิ่นที่ 12 จำนวน 214 คน ระยะที่ 2 พัฒนารูปแบบการสอนภาษาไทย กลุ่มผู้ให้ข้อมูล คือ ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 คน ระยะที่ 3 ทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 จำนวน 30 คน ระยะที่ 4 การประเมินและปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนรู้ กลุ่มผู้ให้ข้อมูล คือ คือ ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม แผนการจัดการเรียนรู้ แบบสัมภาษณ์ แบบทดสอบ แบบสอบถามความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่า t-test แบบ Dependent Samples และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์และความต้องการจำเป็นในการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้เชิงรุกและห้องเรียนกลับด้าน เพื่อพัฒนาทักษะความเข้าใจและความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า สภาพปัจจุบันของการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้เชิงรุกและห้องเรียนกลับด้าน โดยรวมและรายด้าน อยู่ในระดับปานกลาง ส่วนสภาพที่พึงประสงค์ พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมาก และความต้องการจำเป็น พบว่า ด้านที่มีความต้องการจำเป็นมากที่สุด คือ ด้านการสร้างองค์ความรู้ร่วมกัน รองลงมาคือ ด้านการสรุปและความน่าสนใจต่อไป และมีความต้องการจำเป็นน้อยที่สุด คือ ด้านการนำเสนอความรู้

2. ผลการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้เชิงรุกและห้องเรียนกลับด้าน เพื่อพัฒนาทักษะความเข้าใจและความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า รูปแบบการเรียนรู้เชิงรุกและห้องเรียนกลับด้าน เพื่อพัฒนาทักษะความเข้าใจและความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีชื่อว่า แบบเอสเคจีพีเอฟ (SKGPF Model) โดยองค์ประกอบของรูปแบบประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) วิธีการดำเนินงาน ประกอบด้วย 4 หัวข้อ คือ 3.1) ระบบและกลไกของรูปแบบ ประกอบด้วยขั้นตอนการสอน 5 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 ขั้นเรื่องราวและประสบการณ์ ขั้นที่ 2 ขั้นการสร้างองค์ความรู้ร่วมกัน ขั้นที่ 3 ขั้นการนำเสนอความรู้ ขั้นที่ 4 ขั้นประยุกต์การนำเสนอ และ ขั้นที่ 5 ขั้นการสรุปและความน่าสนใจต่อไป 3.2) คำอธิบายประกอบรูปแบบ 3.3) วิธีการดำเนินงานของรูปแบบ 3.4) แนวทางการประเมินรูปแบบ และ 4) เงื่อนไขการนำรูปแบบไปใช้ โดยผลการตรวจสอบความเหมาะสม และความเป็นไปได้ของรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 คน พบว่า รูปแบบมีความเหมาะสมและความเป็นไปได้ อยู่ในระดับมากที่สุด

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนรู้เชิงรุกและห้องเรียนกลับด้าน เพื่อพัฒนาทักษะความเข้าใจและความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปรากฏดังนี้

3.1 ผลการศึกษาประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนรู้เชิงรุกและห้องเรียนกลับด้าน พบว่า ประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนรู้เชิงรุกและห้องเรียนกลับด้าน มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 88.82/86.78 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด

3.2 ผลการเปรียบเทียบความสามารถด้านการฟัง การดู และการพูด ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า นักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้เชิงรุกและห้องเรียนกลับด้าน มีความสามารถด้านการฟัง การดู และการพูด ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างคะแนนทดสอบหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3.3 ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนจากการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้เชิงรุกและห้องเรียนกลับด้าน พบว่า โดยรวมมีความพึงพอใจ อยู่ในระดับมากที่สุด

4. ผลการประเมินและปรับปรุงรูปแบบการเรียนรู้เชิงรุกและห้องเรียนกลับด้าน พบว่า โดยรวมผู้ทรงคุณวุฒิ เห็นด้วยกับรูปแบบการเรียนรู้ อยู่ในระดับมากที่สุด และได้ให้ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงรูปแบบการเรียนรู้เชิงรุกและห้องเรียนกลับด้าน เพื่อพัฒนาทักษะความเข้าใจและความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยการจัดการเรียนรู้นอกชั้นเรียนตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน ครูควรมีแนวทางการศึกษาแหล่งเรียนรู้ที่ชัดเจน ส่วนในชั้นเรียน การนำเข้าสู่บทเรียนควรใช้เรื่องราวและประสบการณ์สอดคล้องในชีวิตประจำวัน มีความน่าสนใจ จึงจะสามารถกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ได้ดี ให้เวลานักเรียนได้สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองอย่างเพียงพอ ในการคิดวิเคราะห์ สร้างสรรค์องค์ความรู้จากมวลประสบการณ์ที่ได้รับ สำหรับการอภิปรายกลุ่ม ควรปรับให้กลุ่มมีขนาดเล็กลงให้สอดคล้องกับมาตรการป้องกันโรคระบาดของโรคโควิด-19 นักเรียนควรได้อภิปรายกับเพื่อนนักเรียนที่หลากหลาย ใช้วิธีการหมุนเวียนกลุ่มไปเรื่อย ๆ เพื่อให้เกิดมุมมองและแง่คิดที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น และจะทำให้นักเรียนได้พัฒนาทักษะความเข้าใจและความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันกับเพื่อนนักเรียนครบทุกคน รวมทั้งนักเรียนควรได้ใช้ทักษะการนำเสนอผลงานของตนเองได้อย่างอิสระและหลากหลายตามความถนัด และความชอบของนักเรียน

โพสต์โดย สมพร ประตังเวสา : [24 มี.ค. 2566 เวลา 19:34 น.]
อ่าน [3059] ไอพี : 49.237.12.52
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 62,375 ครั้ง
ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือบน E-Learning
ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือบน E-Learning

เปิดอ่าน 180,335 ครั้ง
เทคโนโลยี หมายถึงอะไร
เทคโนโลยี หมายถึงอะไร

เปิดอ่าน 10,825 ครั้ง
ออกกำลังกาย สู้หวัด 2009
ออกกำลังกาย สู้หวัด 2009

เปิดอ่าน 44,160 ครั้ง
5 ข้อห้าม ในการล้างรถ
5 ข้อห้าม ในการล้างรถ

เปิดอ่าน 28,568 ครั้ง
รามี (ramie) สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 17
รามี (ramie) สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 17

เปิดอ่าน 25,801 ครั้ง
เสริมมงคลแบบเสือ ๆ ต้อนรับปีขาล
เสริมมงคลแบบเสือ ๆ ต้อนรับปีขาล

เปิดอ่าน 24,754 ครั้ง
ฟังกันหรือยัง คลิปยอดฮิต ครูฝึกสอนไฟแรง ร้องหมอลำระบบการศึกษา
ฟังกันหรือยัง คลิปยอดฮิต ครูฝึกสอนไฟแรง ร้องหมอลำระบบการศึกษา

เปิดอ่าน 30,583 ครั้ง
5 อาหารกินแล้วอ้วนตามความเชื่อแบบผิด ๆ
5 อาหารกินแล้วอ้วนตามความเชื่อแบบผิด ๆ

เปิดอ่าน 38,553 ครั้ง
วิธีกำจัดไฟฟ้าสถิตออกจากเสื้อผ้า
วิธีกำจัดไฟฟ้าสถิตออกจากเสื้อผ้า

เปิดอ่าน 12,228 ครั้ง
วิธีลบรอยดำ อำพรางผิว
วิธีลบรอยดำ อำพรางผิว

เปิดอ่าน 11,036 ครั้ง
บัตรประชาชนทายรัก
บัตรประชาชนทายรัก

เปิดอ่าน 13,397 ครั้ง
คุณประโยชน์ต่างๆของผักโดยเฉพาะ
คุณประโยชน์ต่างๆของผักโดยเฉพาะ

เปิดอ่าน 14,905 ครั้ง
ชมย้อนหลัง วอลเล่ย์บอลสาวไทยชนะญี่ปุ่น 3-0 เซต คว้าแชมป์เอเชีย 2013 เมื่อวันที่ 21 ก.ย.56
ชมย้อนหลัง วอลเล่ย์บอลสาวไทยชนะญี่ปุ่น 3-0 เซต คว้าแชมป์เอเชีย 2013 เมื่อวันที่ 21 ก.ย.56

เปิดอ่าน 44,794 ครั้ง
อารยธรรมกรีกโบราณ
อารยธรรมกรีกโบราณ

เปิดอ่าน 23,763 ครั้ง
ความวุ่นวายของการรายงาน จนครูไม่เป็นอันสอน
ความวุ่นวายของการรายงาน จนครูไม่เป็นอันสอน

เปิดอ่าน 11,117 ครั้ง
เหตุผลที่กำหนดให้ 25 ธันวาคม เป็นวันคริสต์มาส
เหตุผลที่กำหนดให้ 25 ธันวาคม เป็นวันคริสต์มาส
เปิดอ่าน 13,413 ครั้ง
วิเคราะห์จุดอ่อน-แข็ง การถ่ายโอนการศึกษา : เพื่อหาความเป็นไปได้
วิเคราะห์จุดอ่อน-แข็ง การถ่ายโอนการศึกษา : เพื่อหาความเป็นไปได้
เปิดอ่าน 17,605 ครั้ง
ผลวิจัย "ซุปไก่สกัด" มีผลดีต่อสมองและร่างกาย
ผลวิจัย "ซุปไก่สกัด" มีผลดีต่อสมองและร่างกาย
เปิดอ่าน 12,226 ครั้ง
ปรับระบบสอบคัดเลือกปีการศึกษา 2561"เคลียริ่งเฮาส์" สะเทือนสังคมไทย : ใครได้-ใครเสีย...?
ปรับระบบสอบคัดเลือกปีการศึกษา 2561"เคลียริ่งเฮาส์" สะเทือนสังคมไทย : ใครได้-ใครเสีย...?
เปิดอ่าน 12,468 ครั้ง
กลิ่นหอมหวาน ช่วยให้ทนความเจ็บปวด
กลิ่นหอมหวาน ช่วยให้ทนความเจ็บปวด

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ