ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการพัฒนาครูด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการเรียนรู้
ในโรงเรียนเทศบาลเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
ผู้วิจัย นางสาวปรัชญารัตน์ เพ็ชรกำแหง
ปีที่วิจัย 2564
บทคัดย่อ
การวิจัย เรื่อง การพัฒนารูปแบบการพัฒนาครูด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการเรียนรู้ในโรงเรียนเทศบาลเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี สังกัดเทศบาลนคร แม่สอด จังหวัดตาก ใช้วิธีการวิจัยและพัฒนา R & D (Research and Development) นำมาประยุกต์ใช้เป็นกรอบแนวคิดในการวิจัยพัฒนา ประกอบด้วย 4 ระยะ 1) เพื่อศึกษาองค์ประกอบของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการเรียนรู้ในโรงเรียนเทศบาลเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี สังกัดเทศบาลนครแม่สอด จังหวัดตาก 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการพัฒนาครูด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการเรียนรู้ในโรงเรียนเทศบาลเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี สังกัดเทศบาลนครแม่สอด จังหวัดตาก 3) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการพัฒนาครูด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการเรียนรู้ในโรงเรียนเทศบาลเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี สังกัดเทศบาลนครแม่สอด จังหวัดตาก และ 4) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการพัฒนาครูด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการเรียนรู้ในโรงเรียนเทศบาลเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี สังกัดเทศบาลนครแม่สอด จังหวัดตาก กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครูผู้สอนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5-6 จำนวน 24 คน นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5-6 จำนวน 271 คน เครื่องมือประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการพัฒนาครู ประกอบด้วย 1) เครื่องมือที่ใช้ประเมินครู ได้แก่ แบบสอบถามเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale) เก็บข้อมูลออนไลน์ โดยใช้ Application Google Form เพื่อสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาครูด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการเรียนรู้ วิธีการพัฒนา ข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะอื่น ๆ คู่มือการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการเรียนรู้ และแบบทดสอบการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการจัดการเรียนรู้ของครู ดำเนินการตรวจสอบความเหมาะสมและ ความสอดคล้องของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัย
1. องค์ประกอบของการพัฒนาครู มี 5 องค์ประกอบ คือ ทักษะพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (Basic ICT Skill) ทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการติดต่อสื่อสาร (ICT for Communication Skill) ทักษะการรู้ทันเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Communication Technology Literacy Skill) ทักษะบูรณาการเทคโนโลยีสารสนเทศในการเรียนการสอน และคุณธรรม จรรยาบรรณในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ โดยรวมมีความเหมาะสม สามารถนำไปใช้เป็นกรอบในการพัฒนาครูได้
2. รูปแบบการพัฒนาครูด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการเรียนรู้ในโรงเรียนเทศบาลเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี สังกัดเทศบาลนครแม่สอด จังหวัดตาก คือ EAIT Model ประกอบด้วย การเริ่มต้น (Emerging) การประยุกต์ (Applying) การแพร่กระจาย (Infusing) และปรับโฉมใหม่ (Transforming)
3. ผลการตรวจสอบประสิทธิภาพของรูปแบบการพัฒนาครูด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการเรียนรู้ในโรงเรียนเทศบาลเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี สังกัดเทศบาลนครแม่สอด จังหวัดตาก ในภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก ก่อนการทดลองใช้รูปแบบ มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง หลังการทดลองใช้รูปแบบ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนา คือ คู่มือการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ มีประสิทธิภาพ 83.17/86.50 ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 และคะแนนหลังเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 รูปแบบที่พัฒนาขึ้น มีความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และมีประโยชน์ สามารถนำไปใช้พัฒนาครูให้มีทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการเรียนรู้ในโรงเรียนได้
4. ผลการใช้รูปแบบการพัฒนาครูด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการเรียนรู้ในโรงเรียนเทศบาลเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี สังกัดเทศบาลนครแม่สอด จังหวัดตาก พบว่า ผู้รับการพัฒนาตนเองมีความรู้ ความเข้าใจ มีเจตคติที่ดีต่อการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศใน การจัดการเรียนรู้ และผู้รับการพัฒนาตนเองตระหนักถึงการพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้งทักษะพื้นฐานการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการติดต่อสื่อสาร การรู้เท่าทันสื่อที่มีหลากหลายในยุคปัจจุบัน สามารถบูรณาการในการเรียนการสอน การพัฒนาตนเอง การพัฒนาวิชาชีพ อย่างมีคุณธรรม จรรยาบรรณ ตลอดจนมีเจตคติที่ดีในการทำงาน สามารถนําเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการปฏิบัติงานทั้งภายในและภายนอกหน่วยงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล