วัตถุประสงค์
1. เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนกับหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 แบบ Active Learning
3. เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
กลุ่มเป้าหมาย
1. ขอบเขตด้านประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านจันทิมาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากำแพงเพชร เขต 1 ปีการศึกษา 2565 จำนวนทั้งสิ้น 19 คน
2. ขอบเขตด้านเนื้อหา
เนื้อหาที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่ แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ตามหลักสูตรสถานศึกษาของโรงเรียนบ้านจันทิมา พุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ซึ่งเป็นไปตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีเนื้อหารายละเอียดเกี่ยวกับทักษะการฟัง พูด อ่าน และเขียน นำมาจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านจันทิมา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากำแพงเพชร เขต 1 จำนวน 2 เล่ม ดังนี้
เล่มที่ 1 Myself
เล่มที่ 2 Free Time
ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า
ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษา ดำเนินการทดลองในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565
ตัวแปรที่ศึกษา
ตัวแปรอิสระ ได้แก่
การใช้แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ตัวแปรตาม ได้แก่
1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
2. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษ
เพื่อการสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
สมมติฐานของการศึกษา
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1. ได้แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์
2. นักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทางการเรียนค่าเฉลี่ยสูงขึ้น
นิยามศัพท์เฉพาะ
1. การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning หมายถึง กระบวนการเรียนการสอนที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในชั้นเรียน สร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูผู้สอนกับผู้เรียน มุ่งให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติ โดยมีครูเป็นผู้อำนวยความสะดวก สร้างแรงบันดาลใจ ให้คำปรึกษา ดูแล แนะนำ จัดวิธีการเรียนรู้และแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างมีความหมาย สร้างองค์ความรู้ได้ มีความเข้าใจในตนเอง ใช้สติปัญญา คิด วิเคราะห์ สร้างสรรค์ผลงาน มีสมรรถนะสำคัญ มีทักษะวิชาการ ทักษะชีวิต บรรลุเป้าหมายการเรียนรู้ตามระดับช่วงวัย
2. แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หมายถึง สื่อการเรียนการสอนที่ครูจัดทำขึ้นหรือกิจกรรมที่ครูผู้สอนมอบหมายให้นักเรียนทำ เพื่อฝึกทักษะ ทบทวนความรู้ หลังจากที่ได้เรียนมาแล้ว เพื่อให้เกิดความรู้ความชำนาญ จนสามารถนำไปปฏิบัติได้และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้นักเรียนประสบผลสำเร็จในการเรียนได้เป็นอย่างดี มีจำนวน 2 เล่ม ในแต่ละเล่มประกอบด้วย คำชี้แจงสำหรับนักเรียน ขั้นตอนการใช้แบบฝึกทักษะ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด จุดประสงค์การเรียนรู้ แบบทดสอบก่อนเรียน ใบความรู้ แบบฝึกทักษะ เฉลยแบบฝึกทักษะ แบบทดสอบหลังเรียน เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน และเฉลยแบบทดสอบหลังเรียน
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง คะแนนจากการทำแบบทดสอบวัดความรู้ความเข้าใจ ที่แสดงถึงความสามารถของนักเรียนที่เพิ่มขึ้นหลังจากได้เรียนรู้แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ซึ่งเป็นแบบทดสอบแบบเลือกตอบ 3 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้นตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
4. ความพึงพอใจ หมายถึง ความรู้สึกและความคิดของผู้เรียนที่เป็นไปตามความคาดหวัง โดยได้รับการจูงใจในการจัดการเรียนการสอน ทำให้ผู้เรียนเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม กระตือรือร้นในการเรียน มีความสนใจและมีปฏิกิริยาต่อแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 วัดได้จากแบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้นซึ่งเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ตามวิธีของลิเคอร์ท (Likert)